เด้งผกก.ขุนยวมช่วยราชการ-ละเลยดูไฟไหม้ศูนย์อพยพ

เด้งผกก.ขุนยวมช่วยราชการ-ละเลยดูไฟไหม้ศูนย์อพยพ

เด้งผกก.ขุนยวมช่วยราชการ-ละเลยดูไฟไหม้ศูนย์อพยพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ.ต.อ.นิตินาท วิทยาวุฑฒิกุล ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยกับ สำนักข่าว สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตนเองได้รับคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ บก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน จริง โดยคำสั่งไม่กำหนดว่าจะมาช่วยราชการกี่วัน หรือกี่เดือน ส่วนเหตุผลนั้น ในคำสั่งอ้างว่า ตนเองละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ เข้าพื้นที่ไปดูแลล่าช้า ในช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพบ้านแม่สุรินทร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยตนเองได้มารายงานตัวที่ บก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ต่อ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน แล้ว  ผู้การแม่ฮ่องสอน ยัน ย้ายผกก.ขุนยวม ช่วยราชการจริง พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. โดยย้ำว่า ได้มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.นิตินาถ วิทยาวุฑฒิกุล ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ให้ไปช่วยราชการที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. 56 เป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 30 วัน ในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุนั้น เนื่องจากบกพร่องในหน้าที่ ในช่วงเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพบ้านแม่สุริน ซึ่ง ผกก.สภ.ขุนยวม ไม่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว โดยทาง พ.ต.อ.นิตินาถ ผกก.สภ.ขุนยวม ได้เดินทางไปรายงานตัวแล้ว สสจ.แม่ฮ่องสอน คาด ผู้ป่วยซึมเศร้า มีมากกว่า18ราย น.พ.ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีที่ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ลงพื้นที่เหตุไฟไหม้ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พบผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต จำนวน 18 ราย ว่า จากที่ได้ลงพื้นที่ด้วยตนเองนั้น พบว่า ยังคงมีปัญหาการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน เพราะชาวบ้านไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ อาจจะทำให้ถ่ายทอดความรู้สึกไม่ได้ เพราะตอนหารือแพทย์พม่าก็บอกว่ามีผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพจิตจำนวนมาก ซึ่งตรงข้ามกับข้อมูลที่แพทย์ไทยรวบรวม ซึ่งจะเรียกทุกหน่วยที่ลงพื้นที่มาหารืออีกครั้ง เพื่อหาจำนวนผู้ป่วยที่แน่ชัด เนื่องจากต้องรีบนำผู้ที่ป่วยทางจิตออกจากพื้นที่โดยเร็วเพื่อไม่กระทบกับสภาพจิตใจ โดยจะทำให้ดีที่สุดเพราะหน่วยงานต่างชาติก็จับตามอง ยินดีลงพื้นที่อีกเพื่อไม่ให้เราเสียชื่อส่วนอาการของผู้บาดเจ็บสาหัสของ ด.ช.ชาเหน่ทู อายุ 13 ปี ที่ยังรอดชีวิตอีก 1 คน ถูกไฟไหม้ร้อยละ 50 ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อย่างใกล้ชิด มท.1สั่งศูนย์อพยพ8แห่งซ้อมเข้มหนีไฟหวั่นซ้ำขุนยวม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความช่วยเหลือประชาชนในศูนย์อพยพแม่สุรินทร์ อ.ขุนยวม ว่า ขณะนี้ทางราชการทุกภาคส่วนได้ระดมความช่วยเหลือเข้าไปอย่างเต็มความสามารถ ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ โดยจากการลงพื้นที่พบว่า จุดที่พบผู้เสียชีวิตทั้งหมด คือจุดเดียวกันในบริเวณประมาณ 1 ไร่ ซึ่งไฟไหม้จากข้างล่างตีขึ้นไปบนเนิน มีบ้านอยู่ 3 แถวเชิงเขา คนหนีไปติดกับตรงนี้ ไฟล้อมทุกด้านจึงเสียชีวิต ส่วนคนอีก 2,000 หนีออกมาได้ ทำให้ต้องมีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุและหามาตรการป้องกันด้วยการสั่งให้ศูนย์อพยพทั้ง 8 ศูนย์ มีการซ้อมหนีไฟ และมีการปักป้ายเส้นทางการหนีไฟ เพื่อให้หนีได้ถูกทาง จะได้ไม่เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้นั้น เกิดจากการหุงต้มอาหารของผู้ประสบภัย และประกอบกับที่ศูนย์ไม่มีเครื่องมือดับไฟ ทำให้สถานการณ์บานปลายสำหรับกรณีการสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยใหม่นั้น นายจารุพงศ์ กล่าวว่า บริเวณที่เดิมเป็นหุบเขามีที่ราบไม่มากนัก แต่น้ำอุดมสมบูรณ์ และยังมีแคมป์ผู้อพยพใกล้ๆ กันอีก 2 แคมป์ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประสานงานผู้เกี่ยวข้อง ทั้งทาง UNHCR, เอ็นจีโอ และผู้นำของชาวกะเหรี่ยง ว่าจุดตรงไหนจะเหมาะสมในการสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยเหล่านี้ ผู้การแม่ฮ่องสอน เผย รอผลพฐ.หาเหตุเพลิงไหม้ค่ายอพยพพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ ค่ายอพยพผู้ลี้ภัยสงครามที่บ้านแม่สุรินทร์ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก บ้านเรือนถูกไฟไหม้วอดไปนับร้อยหลังคาเรือนนั้น ล่าสุด ผลสอบสวนของ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. ที่นำทีม พฐ. มาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ได้รวบรวมทพยานหลักฐานไปแล้ว และกลับไปตรวจพิสูจน์ที่ สตช. ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งคงต้องรอผล พฐ. อย่างเดียว และไม่ทราบว่าสจะต้องใช้เวลาแค่ไหน ส่วน ทาง ตร.ท้องที่ ได้ตั้งเต็นท์ในการรับแจ้งความเหตุเพลิงไหม้ให้กับผู้ลี้ภัย พร้อมกับให้กำลัง ตร. ดูแลความเรียบร้อย ตั้งแต่เกิดเหตุ ส่วนศพของผู้เสียชีวิต ได้ทยอยส่งให้ญาติไปเกือบหมดแล้ว และถือว่าในพื้นที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ปลัดจ.แม่ฮ่องสอนยันสร้างศูนย์พักพิงที่เดิมนายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวยืนยันกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จะมีการก่อสร้างศูนย์พักพิงผู้อพยพจากภัยสู้รบบ้านแม่สุรินทร์ อ.ขุนยวม ที่จุดเดิม แต่จะมีการปรับพื้นที่ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้อพยพลี้ภัย ส่วนกรณีการผลักดันผู้อพยพลี้ภัยสู่ประเทศที่ 3 หรือการยุบศูนย์นั้น สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กับรัฐบาลไทย มีการพูดคุยและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่การผลักดันออกนอกประเทศ ผู้อพยพลี้ภัยจะต้องได้รับความปลอดภัย ทั้งนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ตัดงบประมาณช่วยเหลือผู้ลี้ภัยลงทุกปี ทำให้ภาระตกอยู่ที่ จ.แม่ฮ่องสอน และรัฐบาลไทย หากจะสร้างศูนย์ถาวรจะต้องลงทุนสูง และการคมนาคมก็ไม่ได้สะดวกแต่อย่างใด โฆษก สตช. เผย ผู้การแม่ฮ่องสอน สั่งย้าย ผกก.ขุนยวมพล.ต.ต.ปิยะ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.นิตินาถ วิทยาวุฑฒิกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ให้ไปช่วยราชการที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นระยะเวลา 30 วัน เนื่องจาก เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพบ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน แล้วไม่เข้าที่เกิดเหตุโดยฉับพลัน และไม่ตอบสนองคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.พงศกร รัศมีโรจน์สกุล รองผู้กำกับการ ฝ่ายป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ไปรักษาราชการแทน  
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook