ราชินีทรงห่วงช้างเผือกรับสั่งดูสัตว์คู่บ้านเมืองให้ดี

ราชินีทรงห่วงช้างเผือกรับสั่งดูสัตว์คู่บ้านเมืองให้ดี

ราชินีทรงห่วงช้างเผือกรับสั่งดูสัตว์คู่บ้านเมืองให้ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทราบเรื่องช้างเผือกในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว ทรงมีพระราชเสาวนีย์กำชับผ่าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ให้เฝ้าระวังดูแลช้างให้ดี เนื่องจาก ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองและพระองค์ก็ทรงโปรดช้าง จึงได้ส่งหน่วยงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ ไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารค่ายทัพพระยาเสือ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คอยช่วยกันดูแล ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า พบช้างมีงาขนาดเล็ก เพิ่งเริ่มงอกและขณะนี้ได้ทำหนังสือขอ นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน ของกรมอุทยาน ลงเฝ้าดูแลสุขภาพช้างในพื้นที่ด้วย  อธ.กรมอุทยานฯคุมเข้ม'ช้างเผือก'หวั่นเดินข้ามชายแดนนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงภาพช้างป่าสีขาวนวลอมชมพู ซึ่งอาจจะเป็นช้างลักษณะสำคัญ หรือ ช้างเผือก ว่า จากรายงานและภาพที่ได้เห็นทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอ ยังเป็นภาพที่เห็นไกล และยังต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนเสียก่อน โดยเฝ้าดูและเก็บภาพรายละเอียดแบบใกล้ชิด เพื่อตรวจดูว่าต้องตามคชลักษณ์ในส่วนใดบ้าง เพราะช้างสำคัญมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากช้างอื่น 7 ประการ แต่หากไม่ครบทั้งหมดก็ยังถือว่าเป็นช้างสำคัญเช่นกัน คือ เป็นช้างสีประหลาด ซึ่งหากพบว่าเข้าคชลักษณ์จริง ก็ถือเป็นเรื่องมหามงคลของประเทศ ขณะนี้ เราได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเสริมในการลาดตระเวนดูแลความปลอดภัย รวมทั้ง เก็บรายละเอียดเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด ในส่วนว่าจะใช้เวลาแค่ไหนเพียงใด ยังคงตอบไม่ได้สำหรับในกรณีตกเป็นเป้าหมายให้กลุ่มพราน ทั้งในและนอกพื้นที่เข้ามาไล่ล่า นายโนพัศ กล่าวว่า ตอนนี้จัดกำลังเข้ามาคุ้มกันแล้ว เชื่อว่า กำลังมีมากกว่าพวกไล่ล่า หรือถ้าไม่พอก็จะเสริมเข้ามาอีก จะใช้มาตรการเข้ม คือ จับได้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังห่วงว่า หากเป็นช้างสำคัญจริง ในระหว่างที่ยังไม่สามารถนำออกมาตามราชประเพณีได้ เนื่องจากพื้นที่แถบนี้อยู่ติดกับชายแดน มีช้างข้ามไปมากับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ไม่อยากให้มีการข้ามไป จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเท่าที่เคยไปดูช้างเผือกในประเทศพม่า ก็พบว่าคล้องได้จากแนวชายแดนไทย-พม่า เช่นกันด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ความคืบหน้าล่าสุดจากการเฝ้าติดตาม ช้างลักษณะพิเศษ ที่พบในป่าเด็ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่อาจเข้าลักษณะเป็น "ช้างเผือก" ตามตำรานั้น ปรากฏชัดเจนแล้วว่า เป็น "ช้างพลาย" หรือช้างตัวผู้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นข่าวที่ดีมากหากสามารถคล้องมาได้ และเข้าตำราคชบาลการเป็นช้างเผือก จะเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยและคนไทยทั้งชาติอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่มีกระแสว่า ช้างสีชมพูที่พบนี้มีหางสีดำนั้น ข้อเท็จจริงตามตำรานั้น ระบุว่า ต้องมีขนหางยาว ไม่ใช่หางขาวแต่อย่างใด ซึ่งช้างเชือกนี้มีขนหางยาวด้วยอย่างไรก็ตาม โอกาสที่ช้างลักษณะพิเศษเชือกนี้จะเดินข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้น น้อยมาก เพราะแหล่งหากินอยู่ในอุทยานฯ นอกเสียจากจะมีแก๊งล่าช้างนำตัวออกไป และในช่วงบ่ายวันนี้ (24 เม.ย.) นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และคณะ จะเดินทางมายังอุทยานฯ เพื่อปล่อยแถวในการดูแลช้างลักษณะพิเศษเชือกนี้ด้วย 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook