ผู้ว่าฯกทม.พบDSIคดีสัมปทานBTSอีก-ฉุนทำเสียเวลางาน

ผู้ว่าฯกทม.พบDSIคดีสัมปทานBTSอีก-ฉุนทำเสียเวลางาน

ผู้ว่าฯกทม.พบDSIคดีสัมปทานBTSอีก-ฉุนทำเสียเวลางาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะอดีตผู้อำนวยการกองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) และ นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานประกอบกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือได้รับสัมปทานจากกระทรวงมหาดไทย กรณีทำสัญญาว่าจ้างบริหารและเดินรถซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีล มและสุขุมวิท ระหว่างปี 2552 - 2553 โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า การเดินทางมาในวันนี้ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และไม่เข้าใจว่าเหตุใดทางพนักงานสอบสวน จึงต้องเชิญมาอีกครั้ง เพราะถือว่าเป็นการเสียเวลาในการทำงานให้กับประชาชน ด้าน พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการเเจ้งข้อกล่าวหากับผู้บริหาร กทม. ในวันนี้ จะชี้แจงรานละเอียดในภายหลังการดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม คาดว่าทางพนักงานสอบสวน จะใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. ในการเแจ้งข้อหาและสอบปากคำเบื้องต้น อมรเผยคดีสัมปทานBTSเป็นประเด็นการเมือง นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยภายหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่ถูกเชิญมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะอดีต ผอ.กองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง และ นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ว่า ดีเอสไอเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ฐานร่วมกันประกอบกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือได้รับสัมปทานจากกระทรวงมหาดไทย กรณีทำสัญญาว่าจ้างบริหารและเดินรถซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยาย สายสีลมและสุขุมวิท ระหว่างปี 2552-2553 ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกับที่เคยแจ้งก่อนหน้านี้ จึงมั่นใจว่า เป็นประเด็นทางการเมือง โดยพวกตนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันว่า กทม. ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายอย่างถูกต้องแล้ว จึงอยากวิงวอนให้ฝ่ายการเมืองยุติกรณีดังกล่าว เพื่อให้ กทม. ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ DSI ยัน คดีบีทีเอส มองคนละมุมกับ กทม. พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่าการเชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะอดีต ผอ.กองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จากกรณีการต่อขยายเส้นทางเดินรถไฟฟ้า เมื่อปี 2552-2553 ซึ่งเพิ่มเติมจากครั้งที่แล้ว ที่แจ้งเพียงปี 2555 ซึ่งยืนยันว่าการกระทำของ กทม. ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นความผิดเนื่องจากต้องยึดประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ซึ่งเป็นตัวบทกฎหมายที่กำหนดเรื่องการสร้างรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ และยังบังคับใช้อยู่ ดังนั้นจึงเป็นการมองคนละมุมกับการชี้แจงของ กทม.โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีผู้ถูกฟ้องทั้งสิ้น 13 ราย เป็นบุคคล 11 ราย คือผู้บริหาร กทม. และนิติบุคคล 2 ราย อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ในเวลา 09.30 น. ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกบริษัท บีทีเอสซี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเช่นกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook