ปคม.ย้ำอาสาว17ผิดค้ากามเมินแก้ตัวจ่อไปเกาหลีล่าตัว

ปคม.ย้ำอาสาว17ผิดค้ากามเมินแก้ตัวจ่อไปเกาหลีล่าตัว

ปคม.ย้ำอาสาว17ผิดค้ากามเมินแก้ตัวจ่อไปเกาหลีล่าตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พ.ต.ท.ชูศักดิ์' ยัน อาสาว เด็ก 17 ปี ผิดจริง เพราะมีหลักฐานเข้าข่ายความผิด หลังศาลออกหมายจับตัวการหมดแล้ว จ่อไปเกาหลีล่าตัวอีกครั้ง

พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ปคม. เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ตำรวจได้นำหลักฐานไปขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา ในคดีเด็กสาว 17 ปี ถูกล่อลวงไปค้าประเวณีที่ประเทศเกาหลีใต้และศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นางดวง (สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 37 ปี นายชุน ซอง กึม หรือ เอ็ม อายุ 36 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ และ น.ส.ทิพย์วรรณ เต็มเปา อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 896-898/2556 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กแล้วนั้น ล่าสุด อาสาว ได้พยายามแก้ตัวทำนองว่า ตนเองไม่ได้ค้าประเวณีและล่อลวงหลานสาว แต่เป็นความสมัครใจของเด็กเอง ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวจะแก้ตัวอย่างไรก็ได้ แต่ตำรวจดูตามพยานหลักฐาน และศาลท่านก็อนุมัติหมายจับแล้ว และที่สำคัญที่อ้างการแชทคุยกับหลานนั้น ทาง ปคม. ได้ปิดเฟซบุ๊กของเด็กสาวไปนานแล้ว จึงเป็นไปได้ว่ามีการแอบอ้างหรือไม่

ส่วนการดำเนินการต่อไปจะประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ ประสานกับตำรวจสากล ตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดตามหมายจับต่อไป โดยคาดว่าจะเดินทางในเร็วๆ นี้

 

ปคม. เผย อาสาวเด็ก 17 ขอมอบตัว แต่ไม่รู้เมื่อไหร่

พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำ
ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เปิดเผยความคืบหน้า กรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ถูกหลอกให้ไปขายบริการทางเพศที่ประเทศเกาหลีใต้ ว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเพียงพอ และดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับ นางเพียงใจ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นอาแท้ ๆ ของ น.ส.เอ และ นายชุน ซองกึม หรือ เอ็ม อายุ 36 ปี และ น.ส.ทิพย์วรรณ เต็มเปา อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้นำพาเหยื่อออกนอกประเทศ ในข้อหาค้ามนุษย์ฯ และขณะนี้ ได้รับการติดต่อจาก นางเพียงใจ แล้ว เพื่อขอเข้ามอบตัวต่อสู้คดีกับพนักงานสอบสวน แต่ขณะนี้ ยังอยู่ที่ประเทศเกาหลี หากเดินทางกลับมาเมื่อใด ก็จะประสานกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง แต่ยังไม่ได้กำหนดวันแต่อย่างใด

ในส่วนที่ น.ส.เอ ผู้เสียหายได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตนเองว่า “อยากขอโทษอา รักอา สงสารอา ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ และไม่อยากให้อาโดนตำรวจจับ” นั้น ทางพนักงานสอบสวนจะไม่นำมาเป็นประเด็นในการสืบสวน เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้โพสต์ อาจจะเป็นคนอื่นโพสต์ก็เป็นได้ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook