สุวัตรบอกอาจผ่าศพเอกยุทธ-ชงน.1สอบ13ปมสงสัยฆ่า

สุวัตรบอกอาจผ่าศพเอกยุทธ-ชงน.1สอบ13ปมสงสัยฆ่า

สุวัตรบอกอาจผ่าศพเอกยุทธ-ชงน.1สอบ13ปมสงสัยฆ่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทนายความ 'เอกยุทธ' ยื่น 13 ข้อสงสัย ให้ตำรวจเร่งคลี่คลาย ระบุ ญาติพร้อมเก็บศพ เพื่อผ่าชันสูตร หากมีประเด็นสงสัย ด้าน 'เฉลิม' เผย สั่งตำรวจสืบทางลับ ปมฆ่า 'เอกยุทธ' แล้ว

นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอให้สืบสวน 13 ประเด็นต้องสงสัยในคดี อาทิ มูลเหตุจูงใจ หากผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์จริง เหตุใดจึงนำทรัพย์สินไปทิ้ง การลงมืออุ้มนายเอกยุทธ ก่อเหตุเพียงผู้ต้องหา 2 คน หรือไม่ ทำไม นายเอกยุทธ ไม่ต่อสู้ขัดขืนหรือหลบหนี และการตามหาฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่หายไป พร้อมระบุว่าจากการพูดคุยกับครอบครัว นายเอกยุทธ ยืนยันให้เดินหน้าหาความจริงในคดีต่อ เพื่อตอบข้อสงสัยทุกประเด็นให้ชัดเจน หากจำเป็น ญาติพร้อมจะเก็บศพ นายเอกยุทธ ไว้เพื่อผ่าชันสูตรต่อ โดยจะยังไม่ทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 29 มิถุนายนนี้

ขณะที่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า หลายประเด็นตำรวจได้ตั้งประเด็นข้อสงสัยไว้แล้ว แต่บางส่วนยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ และเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจังหวัด ทำให้ต้องอาศัยเวลารวบรวมข้อมูล ซึ่งจะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกครั้ง เชื่อว่าจะสามารถตอบข้อสงสัยได้ภายใน 1 สัปดาห์ พร้อมยืนยัน ตำรวจสืบสวนคดีนี้อย่างเต็มที่ และพร้อมจะชี้แจงกับคณะกรรมาธิการทุกชุด

 

'เฉลิม'จี้สืบทางลับปม'เอกยุทธ'

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ  กล่าวว่า วานนี้ ได้เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มากำชับใน 3 เรื่อง คือคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง โดยให้หาพยานเพิ่มเติมและให้กองบังคับการปราบปราม ทำการสืบทางสืบทางลับอีกทางหนึ่ง

 

บช.น.ฟันฆ่าเอกยุทธชิงทรัพย์

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ซึ่งดูแลงานสอบสวนคดี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร เสียชีวิต เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ความคืบหน้าของคดี ยังมีเพียงประเด็นประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ต้องหาเท่านั้น ไม่มีประเด็นอื่นเพิ่มเติม ส่วนการที่ทนายความและญาติของ นายเอกยุทธ ขอพบ ผบช.น. ในวันนี้นั้น ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถสงสัยได้ทางตำรวจยินดีรับฟังอยู่แล้ว สำหรับแฟนสาวของ นายสันติภาพ เพ็งด้วง ที่โดนไล่ออกจากบริษัทของ นายเอกยุทธ และถูกอ้างว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โกรธแค้นนั้น แนวทางสอบสวนจะดูว่าโยงหรือเกี่ยวพันกันหรือไม่ ซึ่งตำรวจทราบชื่อที่อยู่หมดแล้ว และหากเกี่ยวข้องกัน ก็จะเรียกมาสอบสวนด้วยเช่นกัน แต่สำหรับพี่สาวเจ้าของบ้านที่ นายสันติภาพ นำตัว นายเอกยุทธ ไปขังไว้นั้น เชื่อได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่รู้ไม่เห็นการกระทำดังกล่าว จึงไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบสวน

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง ในวันนี้ เพื่อให้ข้อมูลบางอย่างในคดีนั้น ตนเองไม่สนใจ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด

 

สันธนะพบตร.วันนี้-เชื่อเอกยุทธตายมีเงื่อนงำ

พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล เผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ในวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า เวลา 13.00 น. จะเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเชื่อว่าคดีนี้ คนร้ายไม่ได้ลงมือฆ่า นายเอกยุทธ เพียงเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์อย่างเดียวแน่นอน และคาดว่าต้องมีเงื่อนงำที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้

อย่างไรก็ตาม หาก พ.ต.อ.สรรค์ห์กิจ ไม่สะดวกที่จะมารับฟังข้อมูล ตนก็พร้อมจะชี้แจงเบื้องต้นต่อพนักงานสอบสวนไว้ก่อน ส่วนการให้ข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกจะทำการนัดหมายอีกครั้งในภายหลัง

นอกจากนี้ พ.ต.ท.สันธนะ ยังเผยว่า รู้จักสนิทสนมกับ นายเอกยุทธ มาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว และได้เดินทางกลับพร้อมกันจากประเทศสิงคโปร์ ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่พบกัน และครั้งนั้น นายเอกยุทธ พูดทำนองว่ากำลังถูกปองร้าย ซึ่ง นายเอกยุทธ ยืนยันว่าได้พาดพิงสาเหตุทางการเมืองด้วย

ในส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.สรรค์ห์กิจ เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลา 10.00 น. ได้สั่งการให้ รอง ผกก.สส. ลงพื้นที่ใช้เครื่องสแกนวัตถุหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง ในจุดที่ นายเอกยุทธ กระโดดหนีแก๊งอุ้มฆ่า ที่สะพานกลับรถย่านฉลองกรุง

 

ตร.รุดหาหลักฐานเพิ่มที่ฉลองกรุงคดีเอกยุทธ

บรรยากาศล่าสุด บริเวณสะพานกลับรถลำมะขาม ถนนฉลองกรุง ซึ่งเป็นจุดที่ นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรื อบอล และ นายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร หรือ เบิ้ม 2 ผู้ต้องหา ในทีมอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง อ้างว่าเป็นจุดที่ผู้ตายวิ่งหนีลงจากรถและเกิดการต่อสู้กัน จนกระทั่งผู้ตายเสียชีวิตนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กว่า 20 คน ได้ลงพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำเครื่องสแกนโลหะเข้าค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาทั้ง 2 เพื่อนำไปสู่การคลี่คลายคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ ที่ยังมีหลายประเด็น เป็นที่คลางแคลงใจของในสังคม

โดยจุดที่เริ่มค้นหา ตั้งแต่ปากทางเข้าหมู่บ้านราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นพักของพี่สาวนายสันติภาพ ที่ นายเอกยุทธ ถูกนำตัวมากักขังไว้ ไปจนถึงสะพานกลับรถลำมะขาม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำทีมพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าดำเนินการ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์

 

ตร.ลุยฉลองกรุงหาหลักฐานเอกยุทธกู้CCTVอยู่

พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และอาสาสมัครมูลนิธิสยามร่วมใจ ประมาณ 20 คน เข้าตรวจค้นในพื้นที่รัศมี 500 เมตร ช่วงตั้งแต่ปากทางเข้าหมู่บ้านราชพฤกษ์ ถึงสะพานกลับรถลำมะขาม ถนนฉลองกรุง ซึ่งเป็นจุดที่ นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล และนายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร หรือ เบิ้ม 2 ผู้ต้องหา ในทีมอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง อ้างว่าเป็นจุดที่ผู้ตายวิ่งหนีลงจากรถ และเกิดการต่อสู้กันจนกระทั่งผู้ตายเสียชีวิต

โดย พ.ต.อ.สรรค์หกิจ กล่าวว่า การตรวจค้นวันนี้ จะเน้นการสแกนพื้นที่ เพื่อหาวัตถุพยานสำคัญ คือ กุญแจมือ แว่นตา กระดุมเสื้อ และสร้อยคอทองคำพร้อมพระเครื่องสมเด็จวัดเกศไชโย ตามข้อสงสัยของ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ที่ไม่เชื่อว่า ผู้ต้องหาซึ่งประสงค์ต่อทรัพย์จะนำของเหล่านี้ไปโยนทิ้ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องมีการเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ที่ยังเป็นข้อสงสัยด้วย เนื่องจากยังไม่ครบประเด็นที่ต้องการ ส่วนกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน ย่านทาวน์อินทาวน์ ของ นายเอกยุทธ ที่ถูกผู้ต้องหาถอดฮาร์ดดิส ออกไปนั้น เบื้องต้นทราบว่า เป็นยี่ห้อเอวีเทค ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมทำหนังสืออย่างเป็นทางการสอบถามไปทางบริษัทว่า จะสามารถเรียกคืนภาพจากเซิร์ฟเวอร์ ได้หรือไม่ รวมถึงจะเรียกเข้ามาชี้แจง เพื่อให้เกิดความชัดเจนเนื่องจากเป็น 1 ประเด็น ที่ทนายตั้งข้อสงสัย

พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ ยังฝากประชาสัมพันธ์ไปยังคนขับรถบรรทุก ที่ผู้ต้องหาอ้างว่า ขับผ่านมาในช่วงเวลา 03.40 น. ของวันที่ 8 มิ.ย. และนายเอกยุทธ ได้โบกมือขอความช่วยเหลือ ให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ข้อมูลด้วย เพราะถือเป็นพยานบุคคลสำคัญ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook