ธาริตลุยตรวจรถหรูจดประกอบพบเบนซ์ผิดกฎหมาย

ธาริตลุยตรวจรถหรูจดประกอบพบเบนซ์ผิดกฎหมาย

ธาริตลุยตรวจรถหรูจดประกอบพบเบนซ์ผิดกฎหมาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีดีเอสไอ พร้อม 6 หน่วยงาน ร่วมตรวจสอบรถหรูจดประกอบ ที่เจ้าของสมัครใจให้นำมาสอบ พบ เบนซ์ อี 240 นำเข้าผิดกฎหมาย ธาริต เผย เจ้าของรถหรูนำรถตรวจแล้ว 31คัน จะไม่ยึดรถ พร้อมเตรียมหาทางเยียวยา

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่จาก 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมศุลกากร กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วย ฝ่ายเทคนิคตัวแทนบริษัทรถยนต์ เข้าตรวจสอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น อี 240 ซึ่งเจ้าของสมัครใจให้ 7 หน่วยงาน เข้าตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นรถยนต์จดประกอบหลีกเลี่ยงหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า มีเลขตัวถัง เลขชุดเกียร์ และเลขเครื่องยนต์ตรงกัน จึงเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำบันทึกตรวจยึดไว้ดำเนินการต่อไป

โดย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วันนี้มีผู้ครอบครองรถยนต์จดประกอบ ยี่ห้อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 5 คัน สมัครใจเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบด้านกายภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายละเอียดในส่วนของเลขตัวถัง เลขชุดเกียร์ และเลขเครื่องยนต์ ว่าทั้ง 3 ส่วนตรงกัน หรือไม่ ซึ่งหากทั้ง 3 ส่วนตรงกัน แสดงว่า รถคันดังกล่าวมีการนำเข้ามาทั้งคัน โดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี แต่หากทั้ง 3 ส่วนแตกต่างกัน บ่งชี้ว่าเป็นรถจดประกอบที่ถูกต้องตามพิกัดอัตราของกรมศุลกากร ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก็จะออกหนังสือยืนยันว่า เป็นรถจดประกอบถูกต้องตามกฎหมายให้เจ้าของรถทันที

 

เจ้าของรถหรู นำรถให้ดีเอสไอตรวจแล้ว 31 คัน

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย ดีเอสไอ กรมศุลกากร กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วยฝ่ายเทคนิคตัวแทนบริษัทรถยนต์ เข้าตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยจดประกอบหลีกเลี่ยงภาษี ว่า ล่าสุดมีผู้ครอบครองรถยนต์จดประกอบสมัครใจนำรถเข้าตรวจสอบแล้วจำนวน 31 คัน จาก 548 คัน ที่อยู่ในบัญชีต้องสงสัยดีเอสไอ จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถยนต์ที่เข้าข่ายต้องสงสัยทั้งหมดที่ดีเอสไอ มีการประกาศรายชื่อ นำรถเข้าตรวจสอบด้วยความสมัครใจ เนื่องจากหากพบว่าเป็นรถผิดกฎหมายก็จะให้ความคุ้มครองโดยไม่มีการยึดรถไว้ แต่จะให้เจ้าของนำไปเก็บรักษา จากนั้น เจ้าหน้าที่จะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อหารือถึงการเยียวยาเจ้าของรถ ซึ่งเชื่อว่าสุจริตใจในการซื้อรถยนต์ โดยอาจมีการนำเข้าสู่ขั้นตอนการซื้อคืน แต่ในส่วนของบริษัทผู้นำเข้ารายแรก ถือว่ามีความผิดในการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook