นายกฯทูลเกล้าฯครม.ใหม่แล้วยึดตามความเหมาะสม

นายกรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้ฯ ครม. ใหม่แล้ว ดูความเหมาะสม ขณะที่ 'จาตุรนต์' รับ นั่ง รมว.ศึกษาธิการ จริง เชื่อ สานงานต่อจาก 'พงศ์เทพ' ได้ ด้าน 'พล.อ.อ.สุกำพล' ย้ำ ไร้ปัญหา หากนายกรัฐมนตรี คุมกลาโหม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สวมชุดผ้าไหมไทยสีเขียว มีใบหน้ายิ้มแย้ม โดยให้สัมภาษณ์ว่า การปรับ
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ซึ่งการตัดสินใจยึดหลักตามความเหมาะสม เนื่องจากการบริหารประเทศผ่านมา 2 ปีแล้ว โดยขอให้รอผลอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธจะตอบคำถามว่าจะนั่งควบในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาในโครงการรับจำนำข้าวด้วย

ส่วนกรณีคำสั่งของศาลปกครองกลาง ที่ให้รัฐบาลชะลอการเซ็นสัญญาในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้น รัฐบาลพร้อมดำเนินการตามคำแนะนำของศาลปกครอง ซึ่งให้คณะทำงานศึกษาข้อกฎหมาย ว่าจะทำการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ยืนยันว่า รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว เพื่อประโยชน์ของประชาชนในการดูแลภัยแล้ง และสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ขณะที่กรณีบริษัท เค-วอเตอร์ ที่มีข่าวว่าชนะการประมูลมาโดยการฮั้วประมูล และพบข้อมูลจากประเทศเกาหลี ว่า มีภาวะหนี้สินจำนวนมากนั้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบ

 

'จาตุรนต์'ยันนั่งรมว.ศธ.สานต่องาน'พงศ์เทพ'ได้

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตนเองทราบข่าวการปรับคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 5 แล้ว พร้อมยอมรับว่า ได้นั่งตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จริง และเชื่อว่าจะสามารถสานต่องานจาก นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ โดยเฉพาะเรื่องทุจริตสอบครูผู้ช่วย ทั้งนี้ยังระบุว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงรอพบ นายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่า จะได้พบกันในช่วงพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ด้าน พล.อ.สำเร็จ ศรีหร่าย ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในวันนี้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงลงพื้นที่ภาคใต้ และไม่ได้งดปฏิบัติภารกิจแต่อย่างใด โดยสอดคล้องกับ พล.อ.อ.สุกำพล ที่ยืนยันว่า ในวันนี้ยังคงลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานจริง ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ว่า ครม.ยิ่งลักษณ์ 5 จะได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรายชื่อคณะรัฐมนตรีในวันนี้

 

'ปณิธาน'เชื่อปรับครม.แก้ปัญหาคะแนนนิยม

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ว่า เป็นการปรับเพื่อแก้ปัญหาภายใน และมาจากคนที่อำนาจในพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทย มีแนวความคิดว่าการที่จะแก้วิกฤตในการบริหารงานหรือคะแนนนิยมที่ตกต่ำการปรับ ครม. จะช่วยได้ จึงปรับเปลี่ยนบ่อยเพื่อรักษา หรือพยุงคะแนน อีกทั้งมองว่า การปรับ ครม. พยายามแก้ปัญหาคะแนนนิยมที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ที่เร็วกว่ากำหนด ส่วนจะแก้ปัญหาวิกฤตในเรื่องต่าง ๆ ของรัฐบาลได้หรือไม่นั้น คงต้องอาศัยการทำงานของรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นหลัก

สำหรับกรณีที่ตั้ง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล มานั่งในกระทรวงพาณิชย์ นั้น ก็คงต้องให้เวลารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงทดสอบฝีมือ และถ้าไม่มีประสบการณ์ต้องใช้เวลาปรับตัวซึ่งก็คงไม่ง่าย เพราะปัญหาสะสม ส่วนที่จะให้นายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งกลาโหมนั้น ก็คงเป็นเพราะต้องดูการแต่งตั้งโยกย้ายในกองทัพที่ค่อนข้างสำคัญ ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ น่าหนักใจที่จะต้องกู้คะแนนนิยมกลับมาให้ได้ รองลงมาเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งโดยรวม ทุกกระทรวงจะมีปัญหาในเรื่องความไว้วางใจ ต้องแก้ในเรื่องการสื่อสารประชาสัมพันธ์

 

'สุกำพล'ย้ำไร้ปัญหาหากนายกฯคุมกลาโหม

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ครั้งนี้ ไม่ได้คาดหวังอะไร และไม่ได้คิดน้อยใจ ซึ่งหากมีคำสั่งออกมา ก็พร้อมจะทำตามคำสั่ง อีกทั้งที่ผ่านมา ทำหน้าที่มาแล้วถึง 2 ปี ดังนั้น การปรับครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ และเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า หากนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนตนนั้น ก็เชื่อว่าสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหาอะไร เพราะนายกรัฐมนตรีคงตัดสินใจได้ดีแล้ว ส่วนจะมาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงเป็นเรื่องของอนาคต

ทั้งนี้ บรรยากาศตลอดการสัมภาษณ์เป็นไปอย่างอบอุ่น พล.อ.อ.สุกำพล มีสีหน้าสดใส ยิ้มแย้มตลอดการเดินทาง ที่อาจเป็นภารกิจสุดท้ายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

พท. ชี้ ปรับ ครม. ไม่ได้มาจากกระแสกดดันจำนำข้าว

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโจมตีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ว่ามาจากการถูกกระแสกดดันในเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว และรายชื่อที่ออกมา เป็นคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดย นายภักดีหาญส์ กล่าวว่า หลาย ๆ คนที่เป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เป็นบุคคลที่ศักยภาพมากพอที่จะกลับเข้ามามีบทบาททางการเมืองใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้ การเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ได้มองจากประสิทธิภาพที่ลดลงของคณะรัฐมนตรี เพียงแต่มีคนที่มีความรู้ ความสามารถมาก จึงจำเป็นต้องผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาดำเนินงาน เพื่อให้การบริหารงานของรัฐบาลดียิ่งขึ้น

 

'จุรินทร์' เชื่อ รบ.ปรับครม. เพื่อกู้ภาพลักษณ์ที่ติดลบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรีต่อประธานวุฒิสภาในกรณีที่ทำผิดกฎหมาย ในแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยจะมีการปรับปรุงเอกสารคำร้องบางส่วน หลังมีคำพิพากษาจากศาลปกครองกลางเมื่อวานที่ผ่านมา ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนั้น แม้จะยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ทำไปเพื่อกู้ภาพลักษณ์ที่ติดลบของรัฐบาล พร้อมกับหาแพะลำบาปในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการทำงาน  ส่วนกระแสข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรี อาจควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วยนั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการเตรียมการเข้าไปมีส่วนร่วมในแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับสูงได้ง่ายขึ้น