มท.3 จ่อลงใต้ถกลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน

มท.3 จ่อลงใต้ถกลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน

มท.3 จ่อลงใต้ถกลดความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมช.มหาดไทย เตรียมลงใต้สัปดาห์หน้า ย้ำทุกภาคส่วน บูรณาการ รปภ.รอมฎอนเต็มที่ ขณะที่ โจรใต้ยิงถล่ม นายกอบต.เนินงาม อ.รามัน เจ็บสาหัส ส.อบต. เสียชีวิต และ คนร้าย ลอบวางบึ้มทหารพรานนราฯ ขณะลาดตระเวน เจ็บสาหัส2นาย

นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอนว่าทุกภาคส่วน ได้มีการประชุมเพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องตั้งด่านตรวจตราอย่างเต็มที่ แต่ว่าเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือ เรื่องของการเคารพสิทธิ ในการประกอบศาสนกิจของคนมุสลิมในพื้นที่  

ทั้งนี้ทางคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เตรียมจะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยจะไม่ให้กระทบกับวีถีชีวิตของคนมุสลิม คาดว่าจะเป็นในสัปดาห์หน้า

 

ยิงถล่มนายกอบต.เนินงาม ที่รามัน สาหัส สมาชิกดับ

คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงใส่รถยนต์ของ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเนินงาม และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา เหตุเกิดบริเวณหน้ามัสยิดบ้านเอาะ ม.7 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายแวตูรอ แวะเต๊ะ อายุ 45 ปี เป็น ส.อบต. เสียชีวิต ส่วน นายภักดี นีรอเฮ็ง อายุ 48 ปี นายก อบต.เนินงาม ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้คนร้ายยังได้โรยตะปูเรือใบบนถนนจำนวนมาก ป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ ก่อนหลบหนี

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บเดินทางด้วยรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 8973 ยะลา เมื่อมาถึงสามแยกมัสยิดบ้านเอาะ ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะ และคนในรถได้ใช้อาวุธปืนสงคราม ทั้งอาก้า และ M16 ยิงเข้าใส่บุคคลทั้ง 2 ทันที เป็นเหตุให้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว และในเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่

 

เลขาฯจุฬาราชมนตรีหวังรอมฎอนลดรุนแรง

นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล เลขานุการจุฬาราชมนตรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงช่วงเดือนรอมฎอนของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า รอมฎอนปีนี้อาจได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วงการพูดคุยสันติภาพ ซึ่งคนในพื้นที่มีความคาดหวังว่า การก่อเหตุความรุนแรงในช่วงดังกล่าวจะลดน้อยลงและในวันนี้ (4 กรกฎาคม) ทางสำนักจุฬาราชมนตรี ได้ส่งแนวทางปฏิบัติตัวของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงเดือนรอมฎอน ไปให้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตามที่ทำเรื่องร้องขอมาเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน เพราะว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่มุสลิมหรือมาจากที่อื่น อาจจะยังไม่เข้าใจในวีถี หรือการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่

ส่วนประเด็น นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงการให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก คุมงานด้านฝ่ายความมั่นคงนั้น ทาง นายซากีย์ มองว่า ถ้านโยบายชัด เปลี่ยนตัวบุคคลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลนี้ชัดเจนมากในเรื่องการพูดคุยสันติภาพ ดังนั้น บุคคลที่เข้ามาใหม่ ก็จะเป็นคนกำกับนโยบายดังกล่าวให้ขับเคลื่อนไป

 

'ศรีสมภพ'ชี้นายกฯควบกลาโหมเกิดเอกภาพ

นายศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ช่วงที่ข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็นกับฝ่ายไทยยังไม่บรรลุข้อตกลงนี้ ในพื้นที่ยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ด้านเจ้าหน้าที่ มีการเตรียมพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอน ส่วนข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น ไม่ได้ระบุว่าต้องถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ให้หมด เพียงแต่ต้องการให้มีการถอนกำลังจากหน่วยสังกัดอื่นออกจากพื้นที่ ซึ่งคาดว่ามีการดำเนินการอยู่ภายใน และคงจะทันช่วงเดือนรอมฎอน

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า จะมีความเป็นเอกภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น ขณะที่ทุกกระทรวงที่ทำงานในพื้นที่ ได้ดำเนินการไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

ผบ.ทบ. ย้ำ จนท.เข้มความปลอดภัยรอมฎอน

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4 สน.)
เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า แนวทางในการดูแลความสงบเรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วง
เดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่ทุกคนต้องทำความดี ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่ง
การเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการประกอบศาสนกิจ
ช่วงเดือนดังกล่าวแล้ว แต่คงยังต้องบังคับใช้กฎหมายดูแลรักษาความปลอดภัย เพราะทางผู้ก่อความไม่สงบ
จะใช้ช่วงเดือนนี้ ก่อความรุนแรงเพิ่มขึ้น ดังนั้น ทหารก็ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลรักษาความปลอดภัย
ให้กับประชาชน อีกทั้งยืนยันว่า ทหารจะยังไม่ถอนกำลังออกจากพื้นที่

 

บึ้มทหารพรานนราฯ สาหัส 2

เกิดเหตุ คนร้าย ลอบนำระเบิดแสวงเครื่อง หนักประมาณ 5 กิโลกรัม ที่ประกอบไว้ในกล่องเหล็ก ก่อนนำซุกซ่อนไว้ในกระสอบปุ๋ย เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่และนำไปวางไว้โคนต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ อส.ทพ.อภิวัฒน์ โคตรพรหม และ อส.ทพ.นิอาโยะ รายอคาลี เดินลาดตระเวน เมื่อ รปภ. โรงเรียนพิทักษ์วิทยากุมุง มาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนพิทักษ์วิทยากุมุง หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ ทหารพรานทั้ง 2 นาย สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4609 กรมทหารพรานที่ 46 ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook