ปปง.เร่งสืบอายัดเพิ่มบัญชีโยงเณรคำเชื่อเงินโอนไปนอก

พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ผอ.ข่าวกรองทางการเงิน ปปง. เผย หลังอายัดทรัพย์ 'อดีตพระเณรคำ' 60 ล้าน เร่งตรวจบัญชีหาคนเกี่ยวข้องดำเนินการต่อ เชื่อเงินหายโอนต่างประเทศ ทางด้านกลุ่มต้าน'เณรคำ'เตรียมยื่นหลักฐานสรรพากร โกงภาษี

พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงความคืบหน้าการติดตามเส้นทางการเงิน นายวิรพล สุขผล อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก หลังอายัดทรัพย์ 60 ล้านบาท ว่า หลังจากนี้ จะต้องตรวจสอบว่ามีผู้ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ถ้าพบว่าเชื่อมโยงกับใคร ก็ต้องดำเนินการอายัดทรัพย์ผู้นั้น มาตรวจสอบด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ยินดีจะถือครองทรัพย์สินเหล่านี้ไว้แทน ก็จะมีโทษความผิดทางอาญา ฐานฟอกเงินด้วย มีโทษจำคุก 1-10 ปี ขอย้ำว่าอย่าไปเสี่ยง เพราะไม่คุ้มอย่างแน่นอน นอกจากนี้จะทำให้ผู้ใกล้ชิดถูกตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้ ก็จะดำเนินการตรวจไล่ดูว่า 26 บัญชีที่อายัดไปเกี่ยวกับใครบ้าง ทั้งปลายทางและต้นทาง มีพฤติการณ์อย่างไรคงอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ก็เป็นไปได้ เพราะ นายวิรพล เดินทางเข้าออกประเทศหลายครั้ง ส่วนเงินจำนวนมากที่หายไปจากบัญชี จะโอนไปต่างประเทศหรือไม่ ตรวจสอบอยู่ ทรัพย์อื่นทั้งบ้านรถ หรือของมีค่าอื่นๆ ก็ต้องตามเช่นกัน รวมทั้งข่าวทองคำ 8 ตัน

 

กลุ่มต้าน "เณรคำ" เตรียมยื่นหลักฐานสรรพากร โกงภาษี

นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครื่อข่ายต่อต้านการบ่อนทำร้ายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า เตรียมนำหลักฐานการกระทำความผิดของ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ส่งมอบให้กับ นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพภากร เพื่อขอให้ลงโทษอดีตพระเณรคำ

โดย นายสงกรานต์ อ้างว่า มีผู้นำหลักฐานเป็นใบอนุโมทนาบัตร เล่มที่ 072 เลขที่ 3575 ลงวันที่ 11 ต.ค.2554 มูลค่าใบละ 20,000 บาท โดย บริษัทพระสุธา พลับลิชชิ่ง จำกัด และมี นายภูมินทร์ ภูริปัญญา ลงชื่อรับเงิน พร้อมประทับตราของ วัดป่าขันติธรรม สาขาบ้านยาง จ.ศรีษะเกษ ซึ่งคาดว่าจะมีการออกและพิมพ์ใบอนุโมทนาบัตรมาแล้วกว่า 100 ชุด โดยอดีตพระเณรคำ กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้บริจาค ให้เชื่อว่า ใบอนุโมทนาบัตรดังกล่าว สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามกฎหมายได้ ทั้งที่ข้อเท็จจริง สำนักสงฆ์ขันติธรรม ไม่ได้จดแจ้งเป็นวัดแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากมีการนำใบอนุโมทนาบัตรดังกล่าว ไปลดหย่อนภาษี จะทำให้รัฐเกิดความเสียหายในวงกว้าง

การกระทำดังกล่าวของอดีตพระเณรคำกับพวก จึงน่าจะเข้าข่ายความผิด ตามกฎหมายอาญา มาตรา 343 ฐานหลอกลวงประชาชน และฐานใช้เอกสารหลักฐานปลอม ทั้งนี้เชื่อว่า น่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ไม่กล้าให้ข้อมูล