โอ๊ค พานทองแท้ โพสต์โชว์นสพ.เก่า ชี้การเมืองไม่เปลี่ยน

โอ๊ค พานทองแท้ โพสต์โชว์นสพ.เก่า ชี้การเมืองไม่เปลี่ยน

โอ๊ค พานทองแท้ โพสต์โชว์นสพ.เก่า ชี้การเมืองไม่เปลี่ยน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โอ๊ค พานทองแท้ โพสต์เฟซบุ๊กโชว์ นสพ.เก่า เปรียบเทียบการเมืองไทยเมื่อ 38 ปี กับปัจจุบันไม่แตกต่างกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 ก.ค.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ดังนี้

ทีมงานผมนำรูปหนังสือพิมพ์เก่าๆ ซึ่งมีอาจารย์จากเชียงใหม่ท่านหนึ่ง ส่งมาให้ทีมงานดูครับ...

เป็นหนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"ฉบับเก่าเก๋ากึก ของวันที่23 ธ.ค. 2518 ก่อนผมเกิดเกือบ3ปี ซึ่งอาจารย์ได้แจ้งว่าขณะนั้น นสพ.ขายกันอยู่ฉบับละหกสลึงครับ ที่น่าประหลาดเหลือเชื่อก็คือ การเมืองเมื่อ 38ปีที่แล้วกับ ณ ปัจจุบันนี้ แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยครับ

เรามาลองอ่านพาดหัวข่าว แล้วเปรียบเทียบกันกับพาดหัวข่าวในปัจจุบันกันดูบ้างว่า มีอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างกัน และข้อมูลเหล่านี้บอกอะไรเราได้บ้าง

1. พาดหัวไม้1 ใหญ่สุด คือปัญหา 3จังหวัดภาคใต้ครับ 38ปีที่แล้ว นายกฯไปประกาศว่าจะใช้ไม้แข็งปราบปราม จึงมีการประท้วงเผาหุ่นที่จังหวัดปัตตานี จนทำให้ต้องเปลี่ยนท่าที ส่วนนสพ.ฉบับวันนี้ ก็มีลงข่าวลอบยิงอดีตผู้ใหญ่บ้านและภรรยาที่จังหวัดปัตตานีเช่นเดียวกัน เตือนความจำกันให้เห็นว่า ปัญหาชายแดนใต้นี้ สั่งสมกันมานมนานแล้วครับ พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคที่อยู่มานมนาน เป็นแกนนำเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาตั้งกี่ครั้งในรอบ60กว่าปี ย่อมรู้ดีและน่าจะพยายามแก้มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยทำได้สำเร็จ ปัญหาจึงยังคาราคาซังมาจนบัดนี้ น่าจะนึกถึงอกเขาอกเรานะครับ มากล่าวหาทักษิณฯสุมไฟใต้บ้าง เฉลิมฯไม่ลงไปดูบ้าง ยิ่งลักษณ์ฯไม่ทำนู่น-นี่-นั่นบ้าง เลิกกล่าวหาแล้วมาร่วมมือกัน สถานการณ์น่าจะดีขึ้นนะครับ

2. ถัดมาก็เป็นรูปประท้วงสินค้าแพงครับ เช่นเดียวกันทุกยุคทุกสมัย 38ปีที่แล้ว ชูป้ายเบ้อเริ่มในรูปว่า "คัดค้านการขึ้นราคาสินค้า" จริงๆถ้าจะประหยัดงบ เก็บป้ายมาใช้ทุกวันนี้ ก็ยังทันสมัยใช้ได้อยู่เลยครับ ก็เป็นเรื่องที่วัดความสามารถของรัฐบาลทุกสมัย ที่จะทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจให้ได้ครับ

3. ต่อไปก็เป็นเรื่องข้าวครับ ข้าวราคาแพงชาวบ้านก็ประท้วง ข้าวราคาถูกชาวนาก็ประท้วง เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่38ปีที่แล้วเช่นเดียวกัน ถ้าชาวนาขายข้าวราคาถูก แต่ชาวบ้านต้องซื้อราคาแพง แสดงว่าพ่อค้าคนกลางเอากำไรมาก ก็จะโดนประท้วงทั้งขึ้นทั้งล่อง วิธีแก้รัฐบาลต้องยอมซื้อ(รับจำนำ)ข้าวในราคาแพง และใช้จ่ายงบส่วนหนึ่งชดเชยครับ จึงเกิดเป็น "โครงการรับจำนำข้าว"ขึ้น ชาวนาทั้งประเทศแฮบปี้กันทั่วหน้า ชื่นชมพรรคเพื่อไทยเจ้าของนโยบายกันทั้งประเทศ พวกที่กลัวเสียคะแนนเสียงในครั้งหน้า ก็จะต้องคอยคัดค้านติติงกันเป็นปกติวิสัย

4. ในหนังสือพิมพ์เก่าฉบับนี้ ยังมีพาดหัวเล็กอีกครับว่า "ยื่นแถลงต่อรัฐบาล ให้ตอบภายใน3วัน" ปัจจุบันเห็นแว๊บๆองค์กรอะไรนั่น ยื่นข้อเสนอ5-6ข้อให้รัฐบาลต้องทำภายใน7วันเช่นเดียวกัน เริ่มต้นด้วยสูตรสำเร็จข้อ1. รัฐบาลไม่จงรักภักดี ตามด้วยข้อ2. หาเรื่องบีบให้ ครม.บางตำแหน่งลาออก และข้อ3. ข้อกล่าวหายอดฮิตตลอด38ปีคือ ให้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจข้าวของแพง ส่วนข้อ4,5,6 ก็เป็นเรื่องให้ยกเลิกโครงการพัฒนาประเทศน้ำและระบบขนส่งมวลชน, ถอนกฏหมายปรองดอง และให้เอาผิดกับโครงการจำนำข้าว หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอนี้ ก็จะยกระดับการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล ...อืมม...

ยกระดับการชุมนุมก็คือยกระดับความวุ่นวายในบ้านเมืองครับ หากจะต้องวุ่นวายเพื่อแลกกับอะไรที่มันดีขึ้นก็ยังพอทำเนา แต่นี่ถามว่าไล่รัฐบาลแล้วถ้ารัฐบาลยุบสภา เลือกตั้งใหม่จะเอาไหม? ก็ไม่เอา บอกเลือกใหม่ไปทำไม เลือกอีก..พรรคของทักษิณฯก็ชนะอีกอยู่ดี อ้าว... ถามไปถามมาพอโดนต้อนจนมุม มักจะไปลงเอยที่อยากให้ทหารปฏิวัติ หรือไม่ก็ขอนายกฯม.7 ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น

ที่สำคัญก็คือเหตุผลในการขอให้ทหารออกมาปฏิวัตินั้น มันหน่อมแน้มเกินไปหน่อยครับ มีอย่างที่ไหน 38ปีผ่านมา ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรรุนแรงต่างจากรัฐบาลอื่นๆ จนกระทั่งทนรอเลือกตั้งอีก4ปีทนไม่ไหว จะต้องมาจัดหารัฐบาลใหม่ด้วยวิธีพิเศษ เอะอะอะไรก็ปฏิวัติ-นายกฯม.7 ไม่รู้จักพัฒนาตัวเองกันเสียที

ปั่นป่วน สร้างสถานการณ์กันมากๆ ระวังประชาชนตัวจริง-เสียงจริง เขาจะทนไม่ไหวมั่ง จะหาว่าไม่เตือนกันนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook