นายกถกกห.นัดแรกคุยใต้-ป่วนปัตตานียิงทหารเผาจยย.

นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสภากลาโหม นัดแรกแล้ว ขณะที่ คนร้าย ป่วน! ปัตตานี บุกเผารถจักรยานยนต์ เสียหาย 6 คัน อีกเหตุการณ์ ลอบยิงทหารนาวิกโยธิน เจ็บ ขณะที่ ยะลา แขวนป้ายผ้า พ่นสีสเปรย์ ขับไล่ทหาร วางบึ้มปลอม

บรรยากาศการประชุมสภากลาโหม นัดแรก ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม เข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนรอติดตามทำข่าวจำนวนมาก โดย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เดินทางเข้ากระทรวงเป็นคนแรก หลีกเลี่ยงตอบคำถามสื่อมวลชน ขณะเดียวกัน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เดินทางมาประชุมอย่างพร้อมเพรียง และรอต้อนรับ นายกฯและรมว.กลาโหม ด้านหน้าทางขึ้นอาคารศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม  เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึง ได้รับการเคารพจาก พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกลาโหม และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ให้การต้อนรับ

โดย นายกฯและรมว.กลาโหม สวมชุดสูทสีขาว ผูกผ้าพันคอสีม่วงเขียว มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายนายทหารระดับสูงและสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง โดยไม่ได้ตอบคำถามถึงการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าหารือในวาระหรือไม่ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ด้วย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังทหาร ชุดปราบจราจล 2 กองร้อยดูแลโดยรอบกระทรวง

 

โจรใต้ป่วน!ปัตตานียิงทหารเผาจยย. -ยะลาวางบึ้มปลอม

เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบเผารถจักรยานยนต์ของราษฎร ได้รับความเสียหายทั้ง 6 คัน เหตุเกิดบริเวณหน้า โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี จ.ปัตตานี จากการสอบสวนเบื้องต้น เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน เข้ามาบริเวณหน้าโรงพยาบาล แล้วราดน้ำมันใส่รถที่จอดบริเวณหน้าโรงพยาบาลก่อนจุดไฟเผา จนทำให้รถได้รับความเสียหายดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุทิ่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบยิง พ.จ.อ.เชาวนันท์ ชุมประมาณ อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก พร้อมภรรยา แต่ภรรยาปลอดภัย เหตุเกิดบริเวณหมู่ที่ 1 ต.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ทั้ง 2 เหตุการณ์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนและสืบสวน

 

โจรใต้แขวนป้ายไล่ทหารยะลา-พบวัถตุต้องสงสัย

ศูนย์วิทยุกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้รับแจ้งว่า พบแผ่นป้ายผ้าของผู้ไม่หวังดีแขวนไว้หลายจุดในพื้นที่ เขตเมืองยะลา และเขตพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา โดยข้อความในป้ายผ้าเขียนเป็นภาษาไทยข้อความเหมือนกันว่า ให้ทหารออกนอกพื้นที่ นอกจากนี้ คนร้ายยังได้พ่นฉีดสีสเปรย์บนถนนข้อความขับไล่ทหารออกนอกพื้นที่เช่นเดียวกัน และบางจุดยังมีกล่องต้องสงสัยวางอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบและเก็บป้ายผ้า พร้อมนำไปตรวจสอบเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป

จากการรายงานล่าสุด พบว่า ขณะนี้มี 9 จุด อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา 4 จุด อ.รามัน 1 จุด และ อ.ธารโต จำนวน 4 จุด นอกจากนี้คนร้ายยังลอบวางวัตถุต้องสงสัยไว้บริเวณใกล้ป้ายผ้า เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบ พบว่าส่วนใหญ่เป็นวัตถุต้องสงสัยที่คนร้ายทำหลอกเจ้าหน้าที่

ด้าน พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่ ออกสำรวจพื้นที่รับผิดชอบว่า มีการแขวนป้ายผ้า พ่นสีเสปรย์ ในพื้นที่ใดอีกหรือไม่ และเพิ่มความระมัดระวังในการออกตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ช่วงเดือนรอมฎอน

 

ผู้นำศาสนาใต้ชี้โจรสร้างเงื่อนไขรุนแรงโยนบาปให้คนรัฐ

นายนิมุ มะกาเจ ผู้นำศาสนา ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์
ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ต้องกลับไปพิจารณาช่วงเวลา
ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฎอน มีกลุ่มผู้ไม่หวังติดป้ายคำเตือนภาษามลายู ใจความว่า "ผู้ทำร้าย ผู้ทำลาย ผู้หลอกลวง ผู้ใส่ร้าย" ซึ่งตรงนี้เป็นควาามพยายามของกลุ่มคนร้ายที่สร้างเงื่อนไข ว่า เหตุรุนแรงเกิดจากฝีมือภาครัฐ โดยอ้างว่ารัฐไทยเป็นผู้ทำร้าย ผู้ทำลาย ผู้หลอกลวง ซึ่งตรงนี้ทางภาครัฐต้องพิสูจน์ว่าไม่ใช่
โดยอาจให้คนในพื้นที่ อย่างผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  ออกมาช่วยสื่อสารกับสังคม ว่าไม่
ใช่เป็นการกระทำของฝ่ายรัฐ แต่เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่เห็นต่าง

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ชัดเจนว่า ทางบีอาร์เอ็น คุมเครือข่ายของกลุ่มตนเอง
ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้มีผลกับการพูดคุยสันติภาพด้วย

 

ปราโมทย์ ชี้ ป่วนใต้กว่า20เหตุเป็นคดีมั่นคง5

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ และโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เหตุการณ์รุนแรงเริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ สามารถสรุปได้ว่า กว่า 20 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นคดีความมั่นคง 5 คดี ที่เหลือเป็นการขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และปัญหายาเสพติด ส่วนกรณีคนร้ายพยายามโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นผู้ที่ยิงครู อ.จะแนะ จ.นราธิวาส จนเสียชีวิตนั้น พ.อ.ปราโมทย์ ระบุว่า ขณะนี้ ทุกหน่วยงานกำลังเร่งทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ซึ่งทางแพทย์ระบุว่า ครูทั้ง 2 เสียชีวิตจากสะเก็ดระเบิด และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับคนร้าย

สำหรับกรณีกลุ่มบีอาร์เอ็น พยายามดึงพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นพื้นที่ความรุนแรงนั้น โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวย้ำว่า ที่นี่เป็นประเทศไทย ไม่มีใครแบ่งแยกออกจากกันได้ ไม่ควรตื่นตระหนัก กอ.รมน. พร้อมที่จะดูแล และเข้าไปจัดการปัญหาแทรกซ้อนในพื้นที่