DSI พบ 'เณรคำ' นำเงินไปซื้อประกัน 500 ล้านบาท

DSI พบ 'เณรคำ' นำเงินไปซื้อประกัน 500 ล้านบาท

DSI พบ 'เณรคำ' นำเงินไปซื้อประกัน 500 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดีเอสไอ เผย พบลูกศิษย์ "อดีตพระเณรคำ" เป็นนายหน้านำเงินไปซื้อประกันจริง มูลค่าสูงถึง 500 ล้านบาท เร่งขยายผลเพิ่มเติม

พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนการกระทำผิดของ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ว่า จากการสอบสวน พบว่า มีลูกศิษย์ของ นายวิรพล ทำหน้าที่เป็นนายหน้าเอาเงินไปซื้อประกัน ประเภทออมทรัพย์จากธนาคารแห่งหนึ่งจริง ซึ่งเป็นการทยอยซื้อหลายครั้ง โดยยอดเงินที่ตรวจพบขณะนี้ มีสูงถึงจำนวน 500 ล้านบาท ดีเอสไออยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ยังมีการนำเงินไปซื้อประกันจากสถานที่อื่นอีกหรือไม่ และอยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลจากธนาคาร

นอกจากนี้ ดีเอสไอ จะตรวจสอบว่ามีการซื้อประกันภัยของ นายวิรพล มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลใกล้ชิดอื่น ๆ อีกหรือไม่ แต่เชื่อว่ามีผู้ให้คำแนะนำให้ นายวิรพล ไปซื้อประกันภัยประเภทออมทรัพย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางเงิน ส่วนที่มีข่าวว่า นายวิรพล จะเดินทางกลับมาประเทศไทย ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า นายวิรพล จะเดินทางกลับมาจริงหรือไม่

ส่วนทางด้าน พระครูสุริวิมลสารธรรม หรือ พระครูตุ่น ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลห้วยทับทัน เขต 2 อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณี พระเณรคำ ลาสิกขาแล้วว่า หลังจากที่ นายวิรพล สึกแล้ว ขณะนี้ได้หลบไปพักอยู่กับคนที่รู้จักกันและทราบข่าวว่ากำลังทำเรื่องที่จะขอลี้ภัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะได้รับการอนุมัติให้ลี้ภัยได้หรือไม่เพราะว่าทางสหรัฐอเมริกา จะมีกฎระเบียบในเรื่องนี้ค่อนข้างเข้มงวดมาก อีกทั้ง นายวิรพล ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา จึงคาดว่าจะไม่สามารถขอลี้ภัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ และทราบข่าวว่า ทางการของทางสหรัฐอเมริกา กำลังตามล่าตัว นายวิรพล ตามที่ทางการของไทย ขอความร่วมมือไปด้วย แต่ก็ยังไม่ทราบว่า นายวิรพล ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด เนื่องจากว่า การที่ นายวิรพล เป็นฆราวาสแล้ว จะทำให้การเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกมากนั่นเอง ซึ่งตนเองกำลังประสานงานกับ ดร.ริชาร์ด นักข่าวที่อยู่ที่อเมริกา เพื่อขอให้ส่งหลักฐานที่เป็นรูปภาพ เพื่อเป็นการยืนยันว่า พระวิรพลได้สึกจากความเป็นพระแล้ว เพื่อที่จะได้เป็นการยืนยันกับประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook