ปวีณาเยี่ยมด.ญ.4 ขวบ โดนข่มขืน-จิตใจดีขึ้น

ปวีณาเยี่ยมด.ญ.4 ขวบ โดนข่มขืน-จิตใจดีขึ้น

ปวีณาเยี่ยมด.ญ.4 ขวบ โดนข่มขืน-จิตใจดีขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมว.พม. รุดเยี่ยม ด.ญ. 4 ขวบ ที่ถูกข่มขืน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท้จจริง 7 วัน ด้านกรมคุมครองสิทธิฯ มอบเงินช่วยเหลือ 3 หมื่นบาท และเข้าเยี่ยมอดีตนางแบบดัง'รจนา เพชรกัณหา' ที่ ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ

นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อม นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปที่ ร.พ.ตำรวจ อาคารเฉลิมพระเกียรติราชินี เพื่อเยี่ยมอาการเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) วัย 4 ขวบ ซึ่งถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขืนกระทำชำเรา ภายในบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี โดย นางปวีณา กล่าวภายหลังการเยี่ยม เด็กหญิงบี ว่า ในวันนี้สภาพจิตใจของเด็กดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งทางแพทย์ผู้รักษาแจ้งว่า อาการของเด็กดีขึ้นตามลำดับ และดูสดชื่น อาการไอและเป็นหวัด รวมถึงมีไข้สูง ลดลง สภาพจิตใจดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะได้กลับมาอยู่กับแม่ โดยวันนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับมารดา เด็กหญิงบี 30,000 บาท ด้วย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คาดว่าจะใช้เวลาในการสอบข้อเท็จจริงประมาณ 1 สัปดาห์ และวันที่ 2 ก.ย. จะเรียกประชุมผู้บริหารกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการ พม. ทั้งหมด มาร่วมหารือถึงระบบการทำงานของบ้านพักเด็กและครอบครัวทั้ง 77 จังหวัด และสถานสงเคราะห์สังกัด พม. ทุกแห่ง 

ส่วนการดำเนินคดีกับ นายน้อย คำศรี อายุ 57 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล นั้น ตำรวจได้ควบคุมตัวไปฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดพัทยา แล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ร้ายแรง

ด้าน นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ น.ส.รจนา เพชรกัณหา อดีตซูเปอร์โมเดลชื่อดังระดับโลก ที่กลายเป็นคนเร่ร่อน ว่า ในเรื่องนี้ นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทราบเรื่องแล้ว และเตรียมเยี่ยม น.ส.รจนา ที่ ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา วันนี้ เวลา 13.00 น. เพื่อหาทางช่วยเหลือด้วย เบื้องต้น ในส่วนของกรมฯ นั้น จะช่วยเหลือด้วยการให้เงินสงเคราะห์ตามระเบียบ 4,000 บาท พร้อมประสานครอบครัว โดยบิดาทราบเรื่องแล้ว แต่ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการ แต่กรมฯ จะพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมครอบครัวให้รับตัว น.ส.รจนา ไปดูแล เพราะสถาบันครอบครัว น่าจะเป็นที่ที่อบอุ่นที่สุด แต่หากครอบครัวยืนยันให้เจ้าหน้าที่ดูแล ทางเราก็พร้อมจะรับตัวไปดูแลที่สถานสงเคราะห์


ปวีณาเข้าเยี่ยมอดีตนางแบบชื่อดัง'ยุ้ย รจนา'

นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าเยี่ยม ยุ้ย - รจนา เพชรกัณหา วัย 37 ปี อดีตนางแบบชื่อดังระดับโลก ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ตึกพวงชมพู หอผู้ป่วยสามัญหญิง สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา หลังมีผู้พบเห็น มีอาการเหมือนคนสติไม่ดี พูดจาวกวน เดินถือถุงหูหิ้วเร่ร่อนอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา

โดย นางปวีณา กล่าวว่า หลังจากทราบข่าว ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ประสานขอดูแลและให้การช่วยเหลือ จากนั้นจะได้ประสานครอบครัวของ น.ส.รจนา ให้รับตัวกลับไปรักษาที่บ้าน แต่จะตรวจสอบความพร้อมว่า ทางครอบครัวสามารถฟื้นฟูผู้ป่วย และมีที่อยู่เป็นหลังแหล่งหรือไม่ แต่หากทางครอบครัวไม่มีการติดต่อ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะจัดหาที่อยู่ให้ น.ส.รจนา พร้อมทำการรักษาควบคู่กันไป


ทั้งนี้ จากการพูดคุย น.ส.รจนา สามารถตอบคำถามได้ตามปกติ แต่บ่นว่าอยากพบพี่ชาย ส่วนอาการป่วยนั้นอยู่ในระดับไหน และจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะทำการรักษาต่อไป


ป.ป.ส.เตรียมนำตัว'ยุ้ยรจนา'บำบัดยาเสพติดอีกครั้ง

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยเกี่ยวกับกรณี อดีตซูเปอร์โมเดลระดับโลก "ยุ้ย" รจนา เพชรกัณหา วัย 35 ปี ติดยาเสพติดจนมีอาการทางจิต ว่า จะประสานกับทางโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อรีบนำตัว "ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา" เข้ารับการบำบัด ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ ยุ้ยได้เคยเข้ารับการบำบัดแล้ว แต่เมื่อออกมาคงประสบกับปัญหาชีวิต จึงได้กลับไปเสพยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันดูแล และช่วยเป็นกำลังใจให้ต่อไป

สำหรับปัญหาในปัจจุบันของผู้ที่ผ่านการบำบัด ซึ่งส่วนหนึ่งจะกลับไปใช้ยาอีกนั้น เนื่องจากยังคงประสบปัญหาในชีวิต จึงได้ตัดสินใจเข้าไปสู่วังวนเก่า คือ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ สำนักงาน ป.ป.ส. จะต้องปรับมาตรการในการดูแลผู้ผ่านการบำบัดให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยในรอบปีที่ผ่านมา มีผู้ผ่านการบำบัดมากถึง 7 แสนคน ถึงแม้จะเป็นงานที่หนัก และใช้กำลังเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมาก แต่สำนักงาน ป.ป.ส. ก็ได้ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมในการปฏิบัติ เพื่อติดตามผู้ผ่านการบำบัดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นต่อไป




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook