น้ำป่าเขาใหญ่หลาก ซัดสะพานขาด-ท่วมทางรถไฟ

น้ำป่าเขาใหญ่หลาก ซัดสะพานขาด-ท่วมทางรถไฟ

น้ำป่าเขาใหญ่หลาก ซัดสะพานขาด-ท่วมทางรถไฟ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(20 ก.ย.) จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน ที่อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมกันนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ถนนบางสายรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ พื้นที่การเกษตรเสียหาย กว่า 1,000 ไร่ นอกจากนี้ น้ำยังท่วมเส้นทางรถไฟระหว่างสถานีกลางดง - ปางอโศก ระดับน้ำสูงประมาณ 15 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดเส้นทางรถไฟ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงสถานีดังกล่าว

ส่วนพื้นที่บ้านมวกเหล็กใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุน้ำป่าไหลทะลักจากเทือกเขาใหญ่อย่างรุนแรงและซัดสะพานข้ามคลองหนองยาวขาด ไม่สามารถสัญจรได้ มีชาวบ้านหมวกเหล็กใน จำนวน 20 หลังคาเรือน ติดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ไม่สามารถออกมาได้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้จัดเรือท้องแบน เพื่อทำการอพยพชาวบ้านออกมาในที่ปลอดภัยโดยด่วนแล้ว ล่าสุด ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรทั้ง 17 อำเภอของ จ.สุรินทร์ และหมู่บ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำแล้วบางส่วน โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกเลี่ยงเมืองเทพธานี ต.สลักได เส้นทางหลักที่ประชาชนใช้สัญจรผ่านไปยังกรุงเทพมหานคร จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 60-80 เซนติเมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่รถทัวร์โดยสาร และรถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชน ต้องจอดติดยาวเหยียดเพื่อรอกลับรถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น นับเป็นเหตุน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 40 ปี ล่าสุดโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมได้ประกาศปิดเรียนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ขณะที่ จ.พิจิตร ได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงมาสมทบเป็นระยะ ๆ เข้ามาทางอำเภอวังทรายพูนและอำเภอทับคล้อ ทำให้น้ำที่เอ่อล้นบริเวณคลองบ้านวังแดง และคลองทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร น้ำได้เอ่อล้นและท่วมแผ่ขยายวงกว้างออกไป ล่าสุด บริเวณชุมชนตลาดใต้ และชุมชนสวนโพธิ์ เขตเทศบาลตำบลทับคล้อ มีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร จำนวนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 200 หลังคาเรือนแล้ว

ทางด้าน นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภาพรวมน้ำเขื่อนต่าง ๆ ว่า เขื่อนหลักที่กักเก็บน้ำ เพื่ออุปโภคบริโภคในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 40 หรือปริมาณ 380 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้อีก 400-500 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพ ลมีปริมาณน้ำในเขื่อนประมาณร้อยละ 40 และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 56 มั่นใจว่า อิทธิพลจากจากพายุดีเปรสชันจะไม่ส่งผลให้น้ำจากทางเหนือไหลท่วมพื้นที่ภาคกลาง ด้านปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยริมฝั่งเจ้าพระยา เตรียมเคลื่อนย้ายสิ่งของจากน้ำล้นตลิ่งแล้ว ด้านพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน กรมชลประทาน ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เร่งระบายน้ำออก กรณีมีการขอความช่วยเหลือ

ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เรียกเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง หารือถึงแผนรับมือสถานการณ์ฝนตกหนัก จนเกิดปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่จุดอ่อนหลายจุดในกรุงเทพมหานคร โดย ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานภาพรวมสถานการณ์ ซึ่งฝนที่ตกลงมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานจนถึงเช้านี้ ปริมาณฝนมากที่สุด ที่นิคมมักกะสัน เฉลี่ย 62 มิลลิเมตร แต่ปริมาณฝนโดยรวมของ กทม. อยู่ที่ 50-60 มิลลิเมตร และจากการติดตามของเรดาร์จะยังมีฝนตกต่อเนื่องในอีก 2-3 วัน ในบางพื้นที่ แต่จะไม่รุนแรง ขณะเดียวกัน ยังไม่พบพื้นที่ใดประสบปัญหาน้ำท่วมขัง

ขอบคุณเนื้อหาข่าวสนับสนุนจาก สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook