แม่ยายสุดทนโร่แจ้งตำรวจจับลูกเขยหื่นข่มขืนลูกในไส้

แม่ยายสุดทนโร่แจ้งตำรวจจับลูกเขยหื่นข่มขืนลูกในไส้

แม่ยายสุดทนโร่แจ้งตำรวจจับลูกเขยหื่นข่มขืนลูกในไส้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ยายโร่แจ้งความจับลูกเขยหลังลงมือข่มขืนลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง ขณะที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน แค่ขอตรวจดูอวัยวะเพศเท่านั้น

เมื่อวานนี้ (25 ก.ย. 56) พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา หัวหน้าพนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำตัวนายไกรศร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี มาสอบสวน หลังถูกแม่ยายแจ้งความจับในข้อหาข่มขืนเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งแม่ยายแจ้งว่า พบลูกเขยและหลานสาวของตนเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกันและมีท่าทีที่พิรุธ ประกอบกับหลานสาวเริ่มมีอาการผิดปกติ โดยมีอาการซึมเศร้า เหม่อลอยอยู่เป็นประจำ จึงตัดสินใจสอบถามข้อเท็จจริงจากหลานสาวแต่กลับไม่ได้รับคำตอบ หลังจากนั้นจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพราะมั่นใจว่าหลานสาวถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนอย่างแน่นอน

จากการสอบสวนนายไกรสร ซึ่งให้การปฏิเสธว่าไม่เคยลงมือข่มขืนลูกสาว โดยวันเกิดเหตุพบลูกสาวมีอาการซึมเศร้า จึงเข้าไปสอบถามและทราบว่าลูกสาวมีอาการปวดบวมที่อวัยวะเพศ จึงพาเข้าห้องนอนเพื่อขอดู ปรากฏว่ามีก้อนน้ำติดอยู่จึงนำผ้ามาเช็ดให้ ทั้งนี้ทำมาแล้ว 4 ครั้งนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนถุงยางอนามัยที่เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ให้ปากคำว่าพ่อใช้สวมก่อนลงมือข่มขืนนั้น ยอมรับว่านำมาใช้จริง แต่เอาสวมนิ้วมือตอนตรวจดูช่องคลอดของลูกเท่านั้น ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ

ทั้งนี้ ทางตำรวจได้เชิญนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา มาสอบปากคำกระทั่งเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ยอมรับว่า ถูกพ่อแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่ไม่กล้าบอกให้ใครทราบเพราะกลัวพ่อจะติดคุก อย่างไรก็ตาม จากคำให้การของเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) พนักงานสอบสวนเชื่อว่ามีการกระทำการข่มขืนจริง โดยตำรวจจะนำตัวเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ไปตรวจร่างกายเพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนการประกันตัวนั้นขึ้นอยู่กับผู้แจ้งความว่าจะคัดค้านการประกันหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook