จตุพร หยาม เทพเทือก! มั่นใจ แม้ว ไม่เปลี่ยนจุดยืน เจรจาไปก็ไร้ผล

จตุพร หยาม เทพเทือก! มั่นใจ แม้ว ไม่เปลี่ยนจุดยืน เจรจาไปก็ไร้ผล

จตุพร หยาม เทพเทือก! มั่นใจ แม้ว ไม่เปลี่ยนจุดยืน เจรจาไปก็ไร้ผล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จตุพร หยาม เทพเทือก เจรจา แม้ว ไม่เป็นผล มั่นใจ อดีตนายกฯไม่เปลี่ยนจุดยืน กร้าวชุมนุมใหญ่หลังปีใหม่ ใช้ยุทธวิธีรบเร็ว-จบเร็ว ทำสงครามให้สั้นที่สุด เสื้อแดงตามรังควาน มาร์ค ไม่หยุดบุกประท้วง-ไล่ ทำบุญปีใหม่สนามหลวง นายกฯ ไม่หวั่น แม้รายงานทางลับเผยไม่ปลอดภัย ตีนตบ ตามรังควาน มาร์ค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 182 รูป และสักการะพระพุทธนวราชบพิตร เนื่องในเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2552 ที่ท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 มกราคม โดยมีส่วนราชการ เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ตัวแทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ รัฐวิสาหกิจ องค์การต่างๆ รวมถึงพ่อค้า ประชาชน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง ขณะที่มีกลุ่มประชาชนสวมเสื้อแดง ประมาณ 20 คน พร้อมหวงหรีดและป้ายที่เขียนข้อความโจมตีรัฐบาล มายืนปราศรัยด้านหน้าศาลฎีกาเพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์ และขณะที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางกลับ ได้มีคนเสื้อแดง 2-3 คน ที่แฝงตัวเข้ามาปะปนกับประชาชนที่มาทำบุญ ได้ยก"เท้าตบ"สัญญลักษณ์ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ขึ้นมากระพือไล่นายอภิสิทธิ์ ก่อนที่ขบวนรถยนต์ของนายอภิสิทธิ์ จะออกจากสนามหลวงไป ต่อมานายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่เจอกลุ่มเสื้อแดงขับไล่ ระหว่างการทำบุญที่ท้องสนามหลวง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร และไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งเป็นธรรมดาของการอยากแสดงออก เมื่อถามว่า จะมีปัญหาการเดินทางไปทำงานในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อมีภารกิจก็ต้องไป แต่สัปดาห์แรกยังไม่มีภารกิจที่จะต้องลงไป เพราะยังมีงานที่จะต้องเร่งทำในส่วนกลาง อย่างเรื่องการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐกิจ และมาตรการต่างๆ ข่าวทางลับ นายกฯ ไม่ปลอดภัย เมื่อถามถึงการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่มีปัญหาอะไร แต่ไม่ประมาท ซึ่งก็มีความเป็นห่วงจากหลายฝ่าย" เมื่อถามว่า มีการรายงานในทางลับถึงความไม่ปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "มีอยู่บ้าง แต่ไม่ประมาทก็ไม่เป็นไร และคงไม่ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัย" ส่วนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลสามารถพูดคุยได้ทุกคน แต่การพูดคุยนั้นต้องอยู่บนหลักของความถูกต้อง หากกังวลว่ารัฐบาลจะไปกลั่นแกล้งอะไร ก็ยืนยันได้ว่าไม่มีแน่นอนและจะให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง เพราะอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เมื่อถามว่ามีการรายงานถึงการเจรจาเบื้องต้น ตามที่นายสุเทพ ระบุหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ นายสุเทพ คงกำลังพยายามติดต่อประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าในช่วงวันที่ 1-3 มกราคม จะไปพักผ่อนในต่างจังหวัดพร้อมครอบครัว และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งในวันที่ 3 มกราคม ชวรัตน์ ถูกเสื้อแดงปากช่องไล่ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทราบว่าในวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานเคานต์ดาวน์ในสถานที่เอกชนแห่งหนึ่ง ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทั้งที่ในละแวกไม่เกิน 2 กิโลเมตรนั้น นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากช่องในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็จัดงานเคานต์ดาวน์เช่นเดียวกัน แต่นายชวรัตน์กลับเลือกไปเป็นประธานเปิดงานให้กับสถานที่ของเอกชนที่ตัวเองมีความสนิทสนม สะท้อนให้เห็นว่าทำงานไม่เป็น อย่างไรก็ตามในที่สุดนายชวรัตน์ไม่สามารถที่จะเป็นประธานเปิดงานได้ เนื่องจากถูกกลุ่มคนเสื้อแดงของ อ.ปากช่อง ขับไล่ พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันที่จะเปิดเวทีอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกสภาในวันที่ 5 มกราคมนี้ โดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้สถานที่ใด แต่จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเอ็มวี5 เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศจับตาดูกันว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ชอบธรรมอย่างไร "ผมถูกวางตัวให้อภิปรายพฤติกรรมของรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่เคยไปกราบเท้าขอตำแหน่งรัฐมนตรีจากนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่คนนั้นก็เนรคุณนายสุวัจน์มาแล้ว รวมไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ ควรจะระวังตัวเอาไว้ด้วยว่าาจจะถูกเนรคุณไปด้วย"พ.ต.ท.สมชาย กล่าว จตุพร เชื่อ แม้ว ไม่เปลี่ยนจุดยืน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศจะเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติศึกเสื้อแดงและแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้พิสูจน์แล้วว่า คนเสื้อแดงนั้นยึดมั่นใจระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่การยึดตัวบุคคล ทำให้ตัวบุคคลอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ระบอบนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากใครเปลี่ยนจุดยืนก็ไม่สามารถนำคนเสื้อแดงออกไปจากอุดมการณ์ได้ ส่วนการที่คนเสื้อแดงเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น เพราะเข้าใจดีว่าพ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย "หากนายสุเทพ จะเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ นั้นทำได้ในฐานะของคนไทยที่รู้จักกัน แต่การจะเจรจาให้พ.ต.ท.ทักษิณ มาเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงนั้นคงไม่สามารถทำได้ และพวกเราเชื่อว่า แม้นายสุเทพ จะสามารถเจรจาได้ ก็ไม่มีทางที่จะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ไปตามคำขอได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวถูกกระทำมาตลอดเวลา จนวันนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยอมที่จะเปลี่ยนอุดมการณ์ และสิ่งที่เหลือคือ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องรักษาเอาไว้ จึงเชื่อท่านไม่มีทางยินยอมเด็ดขาด นายจตุพรกล่าว เปิดยุทธวิธีรบเร็บ-จบเร็ว นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังหารือกัน เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับความชัดเจนในการชุมนุมใหญ่หลังปีใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีกไม่กี่วันนี้ โดยการชุมนุมเคลื่อนไหวจะอยู่บนพื้นฐานของการทำสงครามให้สั้นที่สุด ในลักษณะรบเร็ว จบเร็ว เพราะไม่ต้องการให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้บริหารประเทศไปได้นานกว่านี้ ซึ่งคนเสื้อแดงจะขัดขวางการทำงานของรัฐบาลทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งจะมีการชุมนุมปิดล้อมสถานที่จัดประชุม เพื่อไม่ให้โจรก่อการร้ายปิดสนามบินได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสุเทพ ได้พยายามติดต่อมายังคนใกล้ชิดของตนเป็นจำนวน 2 ครั้งในช่วงวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการนัดชุนนุมใหญ่เสื้อแดง 28 ธันวาคม ที่ท้องสนามหลวง โดยนายสุเทพ ประสานขอพูดคุยกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการส่วนตัว แต่ได้บอกกลับไปว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ปฏิเสธที่จะมีการพูดคุยกับคนของรัฐบาลคนใด แต่ช่วงวันที่ 28-30 ธันวาคมนั้นไม่ว่าง เพราะมีกิจกรรมของคนเสื้อแดง ซึ่งระหว่างการประสานนายสุเทพไม่ได้แจ้งว่ าจะให้แกนนำคนเสื้อแดงเป็นผู้เชื่อมต่อเพื่อเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ อีกทอดหนึ่ง หากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการพูดคุยกับนายสุเทพ ก็จะมีเพียงเรื่องเดียว คือการแจ้งให้นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน โดยไม่มีเงื่อนไขอื่น ซึ่งเป็นจุดยืนของคนเสื้อแดง "กลุ่มคนเสื้อแดงที่ควักตีนตบขึ้นมาตีเพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์ ระหว่างทำบุญขึ้นปีใหม่ที่ท้องสนามหลวง ถือเป็นกฎแห่งกรรม"นายณัฐวุฒิ กล่าว เพื่อนเนวินไม่หวั่นถูกอภิปราย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีในโควต้าของกลุ่มเพื่อนเนวิน เช่น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทซิโนไทย และ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นเป็นแนวทางหนึ่งในการควบคุมการทำงานของรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทยควรกระทำเพราะมีกฎหมายรองรับ ซึ่งคนที่ถูกยื่นอภิปรายก็มีสิทธิที่จะชี้แจงได้อยู่แล้ว ส่วนการปิดถนน ปิดล้อมอาคารรัฐสภา หรือสถานที่ต่างๆ โดยมวลชนกลุ่มเสื้อแดงนั้นพรรคเพื่อไทยควรยุติการดำเนินการ เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ด้านนายชวรัตน์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ไม่ทราบว่า จะถูกฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องอะไร แต่พร้อมชี้แจงเสมอ เพราะเป็นนักการเมือง ต้องพร้อมชี้แจง เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม้ไว้วางใจเรื่องธุรกิจส่วนตัว โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในบริษัทชิโนไทย ที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า "ธุรกิจส่วนตัวผมไม่มีแล้วในขณะนี้ แต่ถ้ามีการอภิปรายผมในเรื่องดังกล่าวจริง ผมก็มั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ เพราะคงเป็นเรื่องที่เขาเข้าใจผิด และไม่ได้หนักใจอะไร" วิปรบ.จี้ สามารถ ทบทวนบทบาท นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการย้ายสถานที่ประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบาย ว่า จากการตรวจสอบบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภา ไม่พบว่าการผิดแต่อย่างใด ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามย้ายสถานที่ประชุม รวมทั้ง ยังเป็นอำนาจของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่สามารถเลื่อนและเปลี่ยนสถานที่ประชุม ทั้งนี้ ต้องชื่นชมการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ที่สามารถควบคุมการทำงานของรัฐสภา ทำให้การแถลงนโยบายสำเร็จและคณะรัฐมนตรีสามารถบริหารงานได้ "ผมอยากให้นายสามารถ กลับไปทบทวนบทบาทของตัวเอง เพราะการแสดงท่าทีเช่นนี้ เหมือนนายสามารถ กำลังเลือกข้าง ทั้งที่ก็ยังอยู่ในตำแหน่งรองประธานสภา ที่จะต้องมีความเป็นการทางการเมือง ไม่เช่นนั้นผมก็อยากให้พิจารณาตัวเอง เพราะตามหลักกฎหมาย โดยทั่วไปให้ถือเอาองค์ประชุมเป็นสาระสำคัญ ไม่ใช่เรื่องสถานที่ เช่นเดียวกับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่สามารถออกมติ ครม.เพื่อบริหารประเทศได้" นายชินวรณ์ กล่าว ซัดอภิปรายนอกสภาเพื่อล้างแค้น นายชินวรณ์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกสภา ว่า แปลกใจท่าทีที่ขัดกันของนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลแถลงนโยบายที่รัฐสภา แต่กลับจัดกิจกรรมนอกสภาเสียเอง อยากถามว่าทำไมไม่ยึดกรอบการทำงานของรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านสามารถตรวจสอบโดยการตั้งกระทู้ถามสด หรือไม่ก็ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้น การกระทำของฝ่ายค้านน่าจะมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง เป็นการทำงานเพื่อเสนอประโยชน์คนๆ หนึ่ง และเพื่อล้างแค้นทางการเมืองแน่นอน "วิปรัฐบาลจะนัดพรรคร่วมรัฐบาลประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 8 มกราคมนี้ เพื่อวางแนวทางการทำงานของวิป 3 ฝ่าย โดยจะขอความร่วมมือจากสมาชิกพรรคร่วม และส.ว.ให้ช่วยทำความเข้าใจเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ และการย้ายสถานที่การแถลงนโยบายด้วย"นายชินวรณ์ กล่าว พท.ดักคอสังคมจับตาศาล รธน. นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการย้ายสถานที่ประชุมรัฐสภา เพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบาย ว่าภายใน 1-2 วันนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยจะมีการหารือกันเพื่อหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไม่ได้ระบุสภาพบังคับอย่างชัดเจนว่า ถ้าไม่มีการปฎิบัติตามข้อบังคับผลที่ตามมาจะเป็นเช่นใด และการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จะเป็นโมฆะหรือไม่ สำหรับข้อกังขาความเป็นกลางของตุลาการรัฐธรรมนูญนั้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะต้องตัดสินไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งหากผลออกมาเป็นอย่างไรสังคมจะสามารถตัดสินได้ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกรัฐสภาของพรรคฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์นั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้แจ้งความจำนงไว้ก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายจำนวนกว่า60 คน และเตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว เพียงแต่การอภิปรายจะต้องระมัดระวังไม่ให้เข้าข่ายการหมิ่นประมาทผู้อื่น เพราะการอภิปรายภายนอกสภาจะมีปัญหาเรื่องการคุ้มครองเอกสิทธิ์ของส.ส.ด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook