เพื่อไทยฟ้องรัฐสภานานาชาติ รบ.มาร์ค 1 ขัดรธน.

เพื่อไทยฟ้องรัฐสภานานาชาติ รบ.มาร์ค 1 ขัดรธน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(30ธ.ค.) เวลา 14.15 น.นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน และนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวผลการประชุมพรรค ภายหลังที่รัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาล ที่ กระทรวงการต่างประเทศเสร็จสิ้น

นายวิทยา กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคมีมติสามข้อคือ 1.มอบให้นายประเกียรติและคณะทำหนังสือประณามการแถลงนโยบายของรัฐสภาเพราะขัดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุม และไม่มีในประเพณีปฏิบัติในการประชุมรัฐสภาตั้งแต่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยจะมอบให้องค์กรรัฐสภานานาชาติรับทราบกับสิ่งที่เกิดขึ้น 2.พรรคจะจัดอภิปรายนโยบายรัฐบาล ในชื่อว่า พรรคเพื่อไทยอภิปรายนอกสภา เพื่อวิเคราะห์นโยบายรัฐบาล ในวันที่ 5 ม.ค. 2552 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยจะมีทีมอภิปรายนโยบายรัฐบาลของพรรคที่เตรียมไว้ในการอภิปรายในรัฐสภา รวมทั้งจะเชิญนักวิชาการ ประชาชน มาร่วมฟังด้วย 3.จะมีมาตรการตอบโต้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา โดยจะไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของนายชัยเป็นรายกรณี เช่นในกรณีไม่เห็นด้วย เป็นต้น เนื่องจากส.ส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนสถานที่โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

// //

รู้มาว่ามีการเซ็นชื่อเข้าประชุมล่วงหน้า โดยนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน แจ้งให้รู้ว่า ส.ว. 50 คนเซ็นชื่อล่วงหน้าไว้ที่อาคารสุขประพฤติ และรู้ว่าส.ว.บางคนไม่อยู่ บางคนไปต่างประเทศ โดยต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะเดียวกัน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่นนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา จะเข้าประชุม ฝ่ายนั้นก็ไม่ให้เข้าไป เรื่องนี้เป็นแผนของพรรคประชาธิปัตย์และนายชัย สิ่งที่ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องในวันนี้ ทั้งๆที่อำนาจสามฝ่ายคือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ อำนาจนิติบัญญัติเป็นอำนาจสูงสุด แต่นายชัยกลับกระทำสิ่งไม่เหมาะสม ทั้งๆที่จะเลื่อนประชุมก็ได้ ทำไมต้องลวกๆทำตามรัฐบาลด้วย การตอบโต้นายชัยที่จะกระทำนั้นก็จะพิจารณาเป็นรายกรณีไป ส่วนจะถอดถอนนายชัยออกจากตำแหน่งนั้นกระทำไม่ได้ เพราะนายชัยดำรงตำแหน่งนี้โดยชอบ แต่จะกดดันด้วยวิธีต่างๆให้นายชัยลาออก และการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็อาจจะอภิปรายพฤติกรรมของนายชัยไปด้วย การเลื่อนประชุมในคราวนี้จะเป็นหัวข้ออภิปรายนายชัยแน่นอน นายวิทยา กล่าว

ส่วนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความการประชุมในวันนี้นั้น นายวิทยา กล่าวว่า ต้องหารือในข้อกฎหมายเสียก่อน นายประเกียรติ กล่าวว่า หนังสือฉบับดังกล่าวน่าจะเสร็จก่อนวันที่ 5 ม.ค. 2552 และจะยื่นทันที เพราะไทยเป็นสมาชิกรัฐสภาสากล เหตุผลในการส่งหนังสือเพื่อแจ้งว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และข้อบังคับการประชุม การเปิดแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น รัฐสภาหมายถึงส.ส.และส.ว. แต่การแถลงนโยบายรัฐบาลในครั้งนี้เกิดขึ้นนอกรัฐสภา มันจึงผิดไปจากกฎและประเพณีประชาธิปไตยไทย และอีกเหตุผลที่แจ้งให้นานาชาติรับทราบ เพราะขบวนการต่างๆที่มีอยู่ในประเทศ ตนมองแล้วอาจควบคุมไม่ได้ จึงอาศัยนานาชาติช่วยควบคุม

การแจ้งให้นานาชาติทราบนั้น เราต้องการชี้แจงให้รู้ว่าความชอบธรรมในประเทศนั้นยังมีอยู่ นายประเกียรติ กล่าว

นายวิชาญ กล่าวว่า นายชัยอ้างการย้ายสถานที่เพราะต้องการรักษาความปลอดภัย แต่ตนไปรัฐสภามาแล้วพบว่านปช.ไม่มีเป้าหมายทำลายใคร แต่คนอื่นเกรงกลัวไปเอง วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯแถลงเรื่องความสามัคคีและสมานฉันท์ แต่ประชาชนทราบว่า นปช.มาชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ฉะนั้นจะทำร้ายใครไม่ได้ ตนรู้ว่ามีการเตรียมการล่วงหน้าเรื่องการเปลี่ยนสถานที่ วันนี้พวกตนรับข้อความเรียกประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ ในเวลา 10.00 น.จากนั้น 11.00 น.ก็เปิดประชุมทันที เรื่องนี้มันจึงมีการวางแผนล่วงหน้า และคิดว่ารัฐบาลและนายชัยน่าจะน่าร่วมมือกันวางแผน ส่วนการสลายการชุมนุมนั้น ที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชนเคยขอกำลังทหารมาช่วย แต่ทหารไม่ออกมา แต่ครั้งนี้ทหารกลับออกมาปิดล้อมประชาชนที่มีสิทธิเดินทางไปชุมนุม

แสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า และรัฐบาลไม่มีความตั้งใจที่จะประชุมในรัฐสภา เห็นได้ว่าวันนี้มีสมาชิกเข้าประชุมไม่มาก แต่กำลังตำรวจและทหารกลับมีมากกว่า นายวิชาญ กล่าวและว่า ท่าทีของนายชัยและพรรคพวกมีจุดประสงค์ร่วมกับรัฐบาล ทำให้รัฐสภาเสื่อมเสียชื่อเสียง ฉะนั้นต้องพิจารณาความเหมาะสมของนายชัยในความชอบธรรมการดำรงตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต่อไปหรือไม่

ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน

แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook