เพื่อไทยยันส่งศาลรธน.ตีความ ย้ายที่แถลงนโยบายเป็นโมฆะ

เพื่อไทยยันส่งศาลรธน.ตีความ ย้ายที่แถลงนโยบายเป็นโมฆะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(30ธ.ค.) พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่รัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาล ณ กระทรวงการต่างประประเทศแทนที่จะดำเนินการที่รัฐสภา

พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ในฐานะรองประธานสภาฯข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุม กำหนดว่ารัฐสภามีอาณาเขตพื้นที่ ฉะนั้นการประชุมต้องเกิดในขึ้นในรัฐสภาเท่านั้น ตนตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ดังนี้ 1 การย้ายที่ประชุมต้องมีการประชุมโดยมีสมาชิกให้การรับรองในการย้ายสถานที่ และต้องขอสัตยาบันให้เกิดความชัดเจน ที่ผ่านมาเรื่องนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติได้ ฉะนั้นรัฐบาลย้ายสถานที่ในครั้งนี้น่าจะโมฆะและปฏิบัติไม่ได้ 2ตามปกตินั้นการแจ้งนัดประชุมต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร แต่จะย้ายสถานที่ประชุมนั้นจะส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือได้ แต่การส่งข้อความในวันนี้จากรัฐสภานั้นถือว่าไม่ถูกต้อง 3 รัฐธรรมนูญกำหนดว่าการใดที่มิได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ให้ยึดถือธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาแต่เดิมไว้ไปดำเนินการ แต่ทราบว่าตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญนั้นไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ครั้งนี้คือครั้งแรกที่ทำผิดกฎหมายและเสื่อมกับบทบัญญัติ

// //

ผมหารือกับผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในรัฐสภาก็เห็นตรงกันว่าเรื่องนี้ไม่น่ากระทำได้ และยังทราบว่าผู้ใหญ่คนนั้นชี้แจงกับนายชัยแล้วว่าการกระทำในวันนี้น่าจะขัดบทบัญญัติและข้อบังคับของรัฐสภา ตนนั้นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ทั้งๆที่พร้อมจะไปร่วมฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล พร้อมวิจารณ์ สนับสนุน ติติง แต่รัฐบาลและนายชัยเลี่ยงกระทำในสิ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พรรคจึงไม่สามารเข้าร่วมประชุมได้พ.อ.อภิวันท์กล่าวและว่า นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน จะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพ.อ.อภิวันท์กล่าว

รองประธานสภาผู้นี้ กล่าวอีกว่า ในช่วงรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะแถลงนโยบายรัฐบาล ในตอนนั้นมีข่าวว่าควรเสนอย้ายที่ประชุมเพราะพันธมิตรฯชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา ตอนนั้นนายนิพนธ์ วิศิษฐ์ยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ได้บอกว่าการจะย้ายที่ประชุมต้องขอมติที่ประชุมก่อน และไม่เห็นด้วย แต่ตอนนั้นมีการอภิปรายนานจึงไม่มีการพูดถึงข้อบังคับการประชุมข้อที่3 โดยประธานจะแจ้งการย้ายสถานที่ประชุมในกรณีนี้มันไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับ มันเห็นชัดว่าสมัยที่นายชัยร่วมงานกับพรรคพลังประชาชนเห็นถูก แต่มาตอนนี้นายชัยกลับเห็นเป็นอย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่การย้ายในครั้งนี้ทราบว่าเป็นดำริของนายชัย

การประชุมและแถลงนโยบายวันนี้ หากตีความแบบชัดเจนนั้น การประชุมครั้งนี้จะโมฆะและน่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแต่รัฐบาลคงไม่รับฟังใดๆยอมรับว่า สานการณ์วันนี้พรรคไม่ได้เตรียมการณ์ไว้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพ.อ.อภิวันท์กล่าว

ด้านนายวิทยา แถลงว่า วันนี้ประธานรัฐสภาถูกฝ่ายบริหารครอบงำ การทำหน้าที่ไม่มีความสง่าผ่าเผย ไร้ศักดิ์ศรี โดยเฉพาะการย้ายสถานที่ประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภา การแถลงนโยบายรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีอภิสิทธิ์จริงๆ เป็นอภิสิทธิ์ชนที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การเมือไทย ไม่เคยมีนายกฯคนใดกล้าทำแบบนี้ พรรคเพื่อไทยจึงไม่สามารถไปประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลที่กระทรวงต่างประเทศตามข้อมูลเลื่อนลอยที่ประธานรัฐสภาส่งมาได้

ส่วนนายพีรพันธุ์ กล่าวว่า หนังสือนัดประชุมตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กำหนดว่านายชัยนัดประชุมวันที่29-30 ธ.ค.ณ อาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน แต่ก่อนหน้านี้นายชัยพยายามขอยกเว้นข้อบังคับการประชุม สมาชิกจึงจะประชุมที่นั่น แต่คราวนี้นายชัยเปลี่ยนเวลาและสถานที่ มันไม่ชอบด้วยระเบียบเพราะต้องทำหนังสือหรือแจ้งต่อที่ประชุมเท่านั้น แต่ยังไม่มีการประชุมแต่ส่งข้อความในข่วง10.00น.การนัดหมายล่วงหน้าต้องทำในสามวันให้สมาชิกรับรู้ แต่มาเปลี่ยนแบบกระทันหันนั้นมันเห็นเจตนาที่ไม่สุจริตของนายชัยไปในตัว

การประชุมรัฐสภานั้นการแสดงความเห็นของสมาชิกและลงคะแนนเป็นเอกสิทธิ์จะฟ้องร้องมิได้ ฉะนั้นต้องแสดงในที่ประชุมจึงจะได้การคุ้มครอง หากมีการกระจายเสียงจากนอกรัฐสภานั้น น่าจะไม่มีข้อคุ้มครอง และกระทรวงการต่างประเทศเป็นบริเวณของรัฐสภาที่จะได้รับการคุ้มครองหรือไม่ ตรงนี้อาจมีปัญหาตามมาเยอะ เมื่อสมาชิกไม่กล้าเข้าประชุมเพราะไม่รู้ว่ามีเอกสิทธิคุ้มครองหรือไม่และอาจจะทำหน้าที่ได้ไม่เต็มภาคภูมินายพีรพันธุ์กล่าว

ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวสรุปว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประขาชนและพรรคเพื่อไทยทำอะไรผิดหมด แต่วันนี้หวังว่าน่าจะทำอะไรที่ถูกต้องและอาจจะดีขึ้น ส่วนพรรคจะเปิดเวทีอภิปรายนอกสภาเมื่อใดนั้น จะต้องหารืออีกครั้ง

ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน

แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook