ตร.ประจวบฯ 250 นาย ปิดล้อมไล่ล่า อส.ทหารพรานขนยาบ้า1.2 แสนเม็ดบนถ.เพชรเกษม

ตร.ประจวบฯ 250 นาย ปิดล้อมไล่ล่า อส.ทหารพรานขนยาบ้า1.2 แสนเม็ดบนถ.เพชรเกษม

ตร.ประจวบฯ 250 นาย ปิดล้อมไล่ล่า อส.ทหารพรานขนยาบ้า1.2 แสนเม็ดบนถ.เพชรเกษม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 3 ตุลาคม พล.ต.ต. ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยกำลังตำรวจกว่า 250 นายได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมขาขึ้น กทม.ระหว่าง กม.ที่ 302 -303 บ้านคลองชายธง ต.บ่อนอก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในรัศมี 10 กิโลเมตร หลังจากเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ได้วิทยุให้สถานีตำรวจใกล้เคียงสกัดจับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กง.233 เพชรบุรี หลังจากมีคนร้าย 2 คน ขับรถหลบด่านตรวจริมถนนเพชรเกษมด้านหน้า สภ.สามร้อยยอด โดยคนขับรถคันดังกล่าวได้ใช้เส้นทางเบี่ยงหลบเลี่ยงด่านตรวจ เพื่อมุ่งหน้าลงภาคใต้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ล่า แต่รถคนร้ายได้ขับรถด้วยความเร็วสูง ฝ่าสัญญาณไฟจราจรที่สี่แยก อ.กุยบุรี จากนั้นได้กลับรถที่บริเวณจุดกลับรถถนนเพรเกษม บ้านทุ่งโก ต.บ่อนอก อ.เมือง เพื่อย้อนกลับเข้าสู่ถนนเพชรเกษมขาขึ้น กทม. และ ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงสกัดใส่เจ้าหน้าที่ชุดติดตาม โดยยิงจากภายในรถทะลุกระจกด้านข้างและด้านหลัง ทำให้เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อเสียงปืนสงบ ทำให้รถคนร้ายเสียหลักตกหลุมล้อแมกซ์และยางหน้าด้านซ้ายแตก ไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงจอดรถทิ้งบนถนนเพชรเกษม และคนร้ายทั้ง 2 คนได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางพร้อมกับอาวุธปืน

ต่อมา ร.ต.ท.พนม หงษ์ทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่บนพื้นถนนข้างรถคนร้าย จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่กระจกรถด้านหลังขวา และกระจกหลัง มีรอยกระสุนปืน รวม 6 จุด และเมื่อตรวจตรวจบริเวณคอนโซลด้านหน้ารถพบบัตรประจำตัวเลขที่ 990/2556 ระบุชื่อ อาสาสมัครทหารพรานภูวนาถ ชูทอง สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 สังกัดกองทัพภาคที่ 4 พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนอีก 1 ใบ

ตรวจสอบที่เบาะนั่งด้านพบกระเป๋าเป้สะพายสีลายพรางอยู่ในลังโฟมสีชาววางอยู่บนเบาะหลัง ภายในพบยาบ้าจำนวน 31 มัดๆละ 2,000 เม็ด พันทับด้วยเทปกาวสีดำ โดยมีเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งปิดทับยาบ้าไว้ นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า มีกระเป๋าเป้ สีน้ำตาล อีก 1 ใบ ตกอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ภายในพบยาบ้า อีก 32 มัด รวมยาบ้าที่ตรวจยึด 63 มัด จำนวน 126,000 เม็ด มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยเป้ที่บรรจุยาบ้าทั้ง 2 ใบ มีแท็กสัญลักษณ์ของสายการบินนกแอร์ พร้อมรหัสเที่ยวบินและวันเดินทาง คาดว่ายาบ้าทั้งหมดขนย้ายมาทางเครื่องบิน ก่อนที่จะใช้รถยนต์ไปรับยาบ้าที่ท่าอากาศยานเพื่อเดินทางไปส่งลูกค้าในพื้นที่จังหวัดภาคใต้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงระดมกำลังติดตามคนร้าย โดยปิดล้อมทุกด้านพร้อมใช้เครื่องสแกนความร้อน สุนัขตำรวจ 2 ตัว จากจากกองกำกับการถวายอารักขาถวายความปลอดภัย กองบังคับการสืบสวนภาค 7 มาช่วยดมกลิ่นค้นหาตัวคนร้ายซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่

พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวว่า จากการติดตามรถคนร้ายพบว่าเป็นรถแต่งเครื่องยนต์เพื่อทำความเร็วโดยในกระโปรงด้านท้ายรถพบถังไนตัสซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษเสริมที่ใช้ในรถแข่งเพื่อเพิ่มความเร็ว นอกจากนั้นคนร้ายยังมีอาวุธปืนสงครามร้ายแรงอีก 1 กระบอกทำให้เจ้าหน้าที่ชุดปิดล้อมต้องใช้ความระมัดระวัง โดยอาจจับกุมชาวบ้านเป็นตัวประกันในการหลบหนี เนื่องจากคนร้ายคงไม่ยอมให้จับกุมเพื่อทำการขยายผลที่มาของยาบ้าทั้งหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook