กมธ.เชิญจนท.แจงซานติก้าผับ กทม.-ตร.โยนผิดกันมั่ว

กมธ.เชิญจนท.แจงซานติก้าผับ กทม.-ตร.โยนผิดกันมั่ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(14ม.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสรวงศ์ เทียนทอง เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีการเกิดเพลิงไหม้ซานติก้าผับมาให้ข้อมูล โดยมีพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร ผุ้อำนวยการบังคับการนครบาล 5 นายชาตินัย เนาวภูติ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และนายวรพจน์ อินทลักษ์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา มาให้ข้อมูล

โดยพล.ต.อ.จงรัก ได้รายงานต่อคณะกรรมาธิการว่า ได้แยกความผิดจากเหตุที่เกิดขึ้น ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ความผิดฐานประมาทกับเจ้าของ และผู้บริหารที่ไม่มีระบบป้องกันภัย และการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งประตูทางเข้าที่เล็กเกินไป ขณะที่ผับดังกล่าวมีพื้นที่เพียง 500 เมตรแต่กลับเชิญแขกถึง 5พันกว่าคนมาร่วมงาน และส่งเอสเอ็มเอสเชิญชวนอีกเป็นหมื่นๆราย แสดงให้เห็นว่าเจ้าของคำนึงถึงแต่ผลกำไร ขณะที่กลุ่มที่ 2 คือ ผู้กระทำให้เกิดเหตุโดยตรง ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นเพราะเอฟเฟคหรือดอกไม้ไฟกันแน่ เนื่องจากเอฟเฟคไม่น่าจะพุ่งได้สูง โดยจะรอความชัดเจนจากพยานว่ามีใครจัดพลุขึ้นไปบนเพดานหรือไม่ ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหากับเจ้าของสถานบริการแล้วเพียงกระทงเดียวคืออนุญาตให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18ปีเข้าไปสถานบริการ ส่วนความผิดเรื่องก่อสร้างผิดแบบต้องรอให้กทม.แจ้งมายังตำรวจก่อนว่าก่อสร้างผิดแบบหรือไม่ ตำรวจจึงจะสามารถดำเนินคดีได้

// //

จากนั้นที่ประชุมได้ให้ความสนใจสอบถามถึงประเด็นการดัดแปลงอาคารจากอาคารที่พักเป็นอาคารพาณิชย์ แต่ภายหลังมีการดัดแปลงเป็นสถานบันเทิง โดยนายวรพจน์ ยืนยันว่ามีการขออนุญาตดัดแปลงอาคารเป็นอาคารพาณิชย์ในปี 2541 ส่วนการขออนุญาตเปิดเป็นสถานบันเทิงเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้น ในขณะนี้ยังหาแบบแปลนล่าสุดของอาคารไม่พบ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่ามีการดัดแปลงไม่ตรงกับแบบที่เคยขออนุญาตไว้ และมีการก่อสร้างผิดจากแบบเดิม รวมทั้งมีการดัดแปลงเป็นสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ จากนั้นกรรมาธิการฯ ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเจ้าของ และผู้บริหารซานติกาโดยได้รับการยืนยันจากตัวแทนของสตช.ว่าได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีอาญาแล้วในสองฐานความผิดดังกล่าวข้างต้น ส่วนประเด็นการดัดแปลงอาคารเป็นความผิดทางแพ่งซึ่งกทม.จะต้องทำการตรวจสอบ และส่งเรื่องมาให้เจ้าหน้าที่ฟ้องเอาผิดในทางแพ่งต่อไป

ประธานกรรมาธิการฯ จึงได้สรุปผลการประชุมในครั้งนี้ว่า กรณีการดัดแปลงอาคารและการปล่อยให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการเกิดจากไม่มีกฎหมายควบคุมชัดเจน กรรมาธิการจึงมีความเห็นที่จะทำหนังสือถือนายเชาวรัตน์ขาว ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้มีการออกกฎหมายหรือแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการใช้บริการสถานบันเทิง รวมถึงการใช้บริการสาธารณะให้มีความทันสมัย โดยเทียบเคียงกับกฎหมายด้านการบรรเทาสาธารณภัยและความปลอดภัยของต่างประเทศ ทั้งนี้ควรครอบคลุมในส่วนของบริการสาธารณะเช่นรถโดยสาร , เรือโดยสาร ซึ่งที่ผ่านมามักพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดเนื่องมาจากมีจำนวนผู้ใช้บริการเกิดพิกัดที่จะรับได้

ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีซานติก้าผับขณะนี้ได้มีการเชิญกลุ่มผู้บริหารมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่ได้มีการตรวจสอบพยานหลักฐานเรื่องเอฟเฟ็กนั้นไม่ได้ทำให้เกิดไฟไหม้ แต่น่าจะเป็นเรืองของการจุดพลุมากกว่า ขณะนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีผู้จุด ซึ่งจะมีการออกหมายจับต่อไป โดยการออกหมายจับสามารถทำได้ภายใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามจะพยายามทำเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด

นายสรวงศ์ กล่าวว่าภายหลังการประชุมว่า กรรมาธิการฯได้มีการเชิญตัวแทนจากตำรวจ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งได้ทราบมาว่าทางสถานีตำรวจทองหล่อได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับทางซานติก้าผับถึง 40 คดี โดยเฉพาะเรื่องการเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ศาลได้คุ้มครองอยู่ เนื่องจากทางซานติก้าผับอ้างว่าได้มีการจดทะเบียนสถานบริการก่อนที่กฎหมายโซนนิ่งจะออกมา เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าข้อกฎหมายของประเทศไทยถือว่าอ่อนมาก ทางกรรมาธิการฯจึงได้มีมติที่จะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับสถานบริการ แบบอาคารและเรื่องความจุของคนที่จะเข้าไปเที่ยว รวมถึงการละเลยของหน่วยงานรัฐ เนื่องจากการให้ปากคำของแต่ละฝ่ายต่างปัดกันไปปัดกันมา และทางกรุงเทพมหานครก็อ้างว่ายังหาแบบก่อสร้างซานติก้าผับไม่เจอ ขณะที่เขตวัฒนาระบุว่าในระหว่างการก่อสร้างซานติก้าผับทางเขตได้ไปตรวจสอบการก่อสร้างทุกๆ 15 วัน

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า หากซานติก้าผับยืนยันว่าเขาไม่ผิดในเรื่องการออกแบบ ทางกรรมาธิการฯก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาผิดกับเจ้าของได้หรือไม่ เพราะในเรื่องนี้ทางเขตเป็นผู้ตรวจสอบ และปล่อยให้มีการดำเนินการจนแล้วเสร็จ แต่อย่างไรก็ตามทางเขตได้รับปากว่าจะไปตรวจสอบเรื่องการเสียภาษีของซานติก้าผับ เนื่องจากได้มีการปรับปรุงที่อยู่อาศัยมาเป็นอาคารพาณิชย์ ซึ่งต้องเสียภาษี หากไม่เสียภาษีก็จะมีความผิดเพิ่มเป็นอีกหนึ่งคดี และหากเขตทราบว่าไมได้เสียภาษีและไม่ได้ดำเนินการเอาผิดก็จะพิจารณาอีกครั้งเอาผิดกับทางเขตได้อย่างไร โดยทางเขตจะอ้างว่าไม่ทราบไม่ได้

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมมีกรรมาธิการฯบางคนเสนอให้ผู้ได้รับความเสียหายฟ้องกรุงเทพมหานคร ซึ่งพล.ต.อ.จงรักยืนยันว่าทำได้ หากทางซานติก้าผับไม่ผิด ก็สามารถฟ้องร้องค่าเสียหายและเอาผิดกับทางกรุงเทพมหานครได้ อย่างไรก็ตามขั้นตอนต่อไปทางกรรมาธิการจะจัดหน่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้รอดชีวิตและญาติผู้เสียชีวิต เพราะจากเหตุการณ์ดังกล่าวบางคนไม่ยอมพูดจากับใคร

คำมั่นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะต้องคุ้มครองสื่อให้ปลอดจากอำนาจรัฐ-อำนาจทุน

สำหรับข่าวโทรทัศน์วันนี้ที่มีการคุยข่าวไปเรื่อยๆ เป็นอันตราย แม้ข้อดีคนจะได้มีความเพลิดเพลิน แต่อันตรายของการคุยข่าวคือการชี้นำ เพราะไม่เหมือนกับการอ่านข่าวหรือประกาศข่าวอย่างที่เราเห็นในอดีต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook