บทเรียนดาราที่เอี่ยวกับการเมือง

กลายเป็นเรื่องฮือฮาเมื่อ 2 วันก่อนกับข่าว "เปิ้ล จารุณี" ไปโผล่ในม็อบคปท. หลายคนคิดว่าเธอไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุม แต่ทั้งนี้เธอได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าการเดินทางไปยังแยกอุรุพงษ์นั้น เป็นเพียงการไปสังเกตุการณ์เท่านั้นเพราะต้องการทราบว่าเหตุใดข้าวของถึงแพง อีกทั้งการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวเท่านั้นเอง 

จากประเด็นนี้เองทำให้ย้อนนึกถึงเรื่องราวของ "เท่ง เถิดเทิง" ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อยู่หลายวัน กับประโยคที่ว่า "อยากเห็นทักษิณกลับบ้าน" เหตุการณ์นี้ "เท่ง เถิดเทิง" เพียงแค่ได้รับการว่าจ้างให้ไปแสดงในงานเลี้ยงวันเกิด"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แกนนำคนเสื้อแดง ทำให้ "เท่ง" ถูกมองว่าเลือกข้างและถูกต่อต้านจากคนที่ไม่ชอบข้างเดียวกันกับเท่ง หลังจากนั้น เท่ง ต้องตั้งโต๊ะข่าวแถลงทั้งน้ำตาว่า อย่าเอาตนเองไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ตนเป็นตลกทำหน้าที่แสดงโชว์เท่านั้น ประโยคที่พูดเพียงเพื่อต้องการเอาใจเจ้าภาพ พร้อมกับบอกว่าคงไม่รับงานแบบนี้อีก ขอไปรับโชว์ตามงานวัดดีกว่า

หรืออย่างประเด็นของ ใบเตย อาร์สยาม ที่ให้สัมภาษณ์ยอมรับกินข้าวกับอดีตนายกฯ ทักษิณ จริง ได้ค่าตอบแทนเป็นมื้อละ 5 แสน เรียกว่าเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เลยทีเดียว ร้อนถึงต้นสังกัดต้องออกมาชี้แจงว่างานทั้งหมดบริษัทเป็นผู้รับและให้นักร้องไปร่วมงาน ด้าน "นายพานทองแท้ ชินวัตร" ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นนานแล้วและคนที่ติดต่อ "ใบเตย อาร์สยาม" มาแสดงเป็นคนตกลงเรื่องเงิน

ซึ่งเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยังแตกแยกในเรื่องความคิด คนคิดต่างต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์แม้อาจไม่ได้เจตนาก็ตามที บ้านเราเป็นประชาธิปไตยการเมืองทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้เพราะประเทศเป็นของทุกคน แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าดาราพูดเป็นเรื่องทุกทีสิน่า!!!