อภิสิทธิ์ประกาศใช้วัฒนธรรมแก้วิกฤติสังคมเสื่อม

อภิสิทธิ์ประกาศใช้วัฒนธรรมแก้วิกฤติสังคมเสื่อม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกฯอภิสิทธิ์ประกาศใช้วัฒนธรรมแก้วิกฤติสังคมเสื่อม ฟื้นค่านิยมรักสงบ สามัคคี ยอมรับความหลากหลาย เชื่อแก้คนไทยแตกแยก-ปัญหาความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ดึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศกลับมา พร้อมมอบโล่ครูฮีโร่ช่วยเด็กเหยื่อระเบิดที่ปัตตานี ด้านวธ.เร่งสนองตั้ง ทูตวัฒนธรรม ดึงนักท่องเที่ยว นักลงทุนกลับคืน

// //

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2552 เวลา 09.00 น.ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง ทิศทางประเทศไทย ในมิติวัฒนธรรม ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ. พร้อมผู้บริหารให้การต้อนรับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะมีความวิตกกังวลในเรื่องวิกฤติด้านเศรษฐกิจ และการเมือง แต่สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลมิได้ละเลยและมองข้าม คือ ปัญหาด้านสังคมที่สะสมมาเป็นเวลานาน และถือเป็นวิกฤติอีกด้านหนึ่งของประเทศ ที่มีความน่ากลัว เพราะมีส่วนสำคัญ ในการทำลายประเทศชาติ แม้ว่าจะไม่ได้เห็นผลในทันที แต่หากปล่อยไปจะเป็นส่วนที่ทำลายคน และชาติบ้านเมืองในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าไปดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ในลักษณะการแก้ไขปัญหาในภาพรวม และไม่ได้มองเพียงปัญหาใดปัญหาหนึ่ง หรือ มองปัญหาเป็นจุดๆเท่านั้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาสังคม คือ การใช้วัฒนธรรม วิถีชีวิต ค่านิยม ให้ทุกฝ่ายที่ทำงานด้านวัฒนธรรม ต้องเข้ามาช่วยในการใช้การเปลี่ยนแปลงเรื่องของวิธีคิด เพื่อย้อนกลับไปสู่ค่านิยมที่ดีงามที่มีในสังคม เช่น วันนี้ทุกฝ่ายอยากเห็นความปรองดอง สมานฉันท์ และความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งตนเชื่อว่า คนไทยสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเราทำให้คนส่วนใหญ่ หันกลับไปเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมของคนไทย ที่รักความสงบ รักสันติ ยอมรับความหลากหลาย และความแตกต่างที่มีอยู่ในสังคม ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมที่เกิดขึ้นได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับความขัดแย้งที่เป็นรูปธรรมที่สุดขณะนี้ คือ ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาแม้ว่าหน่วยงานความมั่นคงได้ปฏิบัติการ เพื่อตรึงสถานการณ์เหตุการณ์ความรุนแรงได้ ระดับหนึ่ง แต่หนทางที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน คือ การทำให้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในพื้นที่ได้การยอมรับอย่างแท้จริงและทำให้บุคคลที่มีความเชื่อ วิถีชีวิต และศาสนาที่แตกต่าง เข้ามาอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการผลักดันนโยบาย การศึกษาและวัฒนธรรม ที่เป็นนโยบายเฉพาะสำหรับเด็กในพื้นที่ โดยวันนี้รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการและรัฐมนตรีเพื่อดูแลการแก้ปัญหา3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีรัฐมนตรี และหน่วยงานด้านการศึกษาและวัฒนธรรมเข้ามาทำงาน

ผมอยากจะย้ำว่า ในกรณีของปัญหาในลักษณะนี้ การแก้ไขปัญหาการศึกษาและวัฒนธรรม จะมองการแก้ไขปัญหาในโรงเรียนอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องยอมรับว่า พื้นที่ที่เกี่ยวข้องการความเสี่ยงต่อพฤติกรรมและค่านิยม ปัจจุบันมีความหลากหลาย บทบาทที่มีความสำคัญมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ สื่อต่างๆ ที่มีอิทธิพลสูงมากต่อหลักคิด วิธีคิด และแนวปฏิบัติของวิถีชีวิตของคน ดังนั้นการทำงานในส่วนนี้ รัฐบาลจึงมีแนวทางที่จะเข้าไปเพิ่มพื้นที่ของสื่อสร้างสรรค์ โดยเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชน โดยจะมีการขอความร่วมมือไปยังสื่อสารมวลชน เพิ่มพื้นที่สื่อที่ดี รวมทั้งสร้างแหล่งเรียนรู้ วัฒนธรรม ในชุมชน ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญ ในการสร้างค่านิยมที่ดีนายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จะใช้วัฒนธรรมมาช่วยในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของประเทศให้กลับคืนมา หากเราสามารถรักษาจุดแข็งของวัฒนธรรม ในการต้อนรับ ความสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนในท้องถิ่น ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ได้อีกทางหนึ่ง และเชื่อมั่นใจว่า วิถีชีวิต ภูมิปัญญา ที่มีอยู่ระดับชุมชน จะสามารถนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้ จึงขอให้นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม และผู้ปฏิบัติงานด้านวัฒนธรรม เพื่อเร่งส่งเสริมทุกวิถีทาง ให้คนไทย ในฐานะเจ้าของวัฒนธรรมได้ตื่นตัว มีความภูมิใจ และตระหนักเห็นค่าของวัฒนธรรม เพื่อเป็นทุนทางสังคมที่สำคัญ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้ ภายหลังจากปาฐกถาพิเศษ นายอภิสิทธิ์ ได้มอบโล่เกียรติคุณเงินสนับสนุนและบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และอุทยานประวัติศาสตร์ให้กับบุคคลที่ทำความดีตามโครงการคิดดีทำดี สังคมดี ของ วธ. 3 ราย 1. นางสาวดารุณี มีสุวรรณ ซึ่งพบกระเป๋าเงินบริเวณร้านขายยาท่าเรือศิริราช มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่คืนให้นางจันทนา ภู่บัวเผื่อน 2. นางสาวมะลิ รัตนเณร พนักงานทำความสะอาด อุทยานประวัติศาสตร์ พบกระเป๋ากล้องและเงินกว่า 2 แสนบาท ส่งมอบให้กับนายมาริโอ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 3. นายเดโช ไพรแก้ว อาจารย์โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานีที่เข้าช่วยเหลือเด็กชายซูบาฮา และเด็กชายอาดินันท์ หวันสุหลงเยื่อระเบิดมอเตอร์ไซด์ ที่ถูกสะเก็ดระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าปัตตานีซุปเปอร์มาร์เก็ต จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้การมอบโล่ดังกล่าวเป็นการเชิดชูคนที่ทำดีเพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กและเยาวชน.

นายธีระ กล่าวว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า วัฒนธรรมสามารถนำมาส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคบริการ สร้างภาพลักษณ์ของประเทศได้นั้น ตนเห็นว่าเรื่องที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และ วธ.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงที่มีการปิดสนามบิน โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศด้วยทูตทางวัฒนธรรม เช่น นำนางสาวไทยไปขอโทษชาวต่างชาติ การนำหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ไปจัดแสดง เป็นต้น ในขณะเดียวกัน วธ.ยังได้มีการเชิญเอกอัครราชทูตประเทศต่างไปเยี่ยมชมแหล่งโบราณสถานด้วย ซึ่งการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศเป็นเรื่องที่วธ.จะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม โดยจะต้องสอดแทรกกิจกรรมทางวัฒนธรรมกับงานต่างๆของกระทรวงต่างประเทศ หรือกระทรวงต่างๆ ด้วย วิธีการดังกล่าวจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว นักลงทุนกลับคืนมา

ผมจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ในงานส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เร็วๆนี้ กระทรวงได้นำทูตวัฒนธรรม และกิจกรรมวัฒนธรรมไปเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติได้ชมด้วย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศ ส่วนปัญหาด้านวัฒนธรรมด้านอื่นๆ อาทิ ปัญหาขาดแคลนบุคลากร การขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน ผมได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งท่านรับปากจะนำไปพิจารณาหาแนวทางแก้ไขรมว.วัฒนธรรม กล่าว

ภูมิใจไทย:ก้าวสำคัญของเนวิน

การเมืองแบบไทยๆ อะไรๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ฟัดกันแทบจะตายกันไปข้าง วันหนึ่งก็อ้าขาผวาปีกเข้าหากันได้อย่างไม่เคอะเขิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook