สมพงษ์ติงเรียนฟรี15ปีฉาบฉวยมักง่าย

สมพงษ์ติงเรียนฟรี15ปีฉาบฉวยมักง่าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สมพงษ์ ติง นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ชี้ฉายฉวย เป็นวีการที่มักง่าย แนะควรเน้นเรื่องคุรภาพการศึกษา ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการพัฒนาร.ร.ขนาดเล็ก และควรเข้าไปดูแลถึง อปท.

// //

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงนโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาลว่า นโยบายการเรียนฟรีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการศึกษา แต่การจัดการเป็นไปในลักษณะฉาบฉวย ให้ฟรีแบบราชการ โดยนำจำนวนนักเรียนหารด้วยเม็ดเงินในแต่ละหมวด ซึ่งเป็นวิธีการที่มักง่าย และรัฐบาลก็ไม่ฟังเสียงท้วงติงจากนักวิชาการ พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ปฏิบัติงานจริงในสถานศึกษา โดยเฉพาะการชูนโยบายเรียนฟรี 15 ปี โดยทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ จะต้องเน้นเรื่องคุณภาพให้มากกว่านี้ และควรใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสในการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก

โดยให้เงินอุดหนุนมากกว่า 100% ให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนต่ำกว่ามาตรฐานตามเกณฑ์ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)รวมไปถึงศูนย์เด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้คือ แรงงานที่ถูกเลิกจ้างมากที่สุด ดังนั้นการเข้าไปดูแลถึง อปท. จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับชาวบ้านได้ตรงจุด

อาจารย์คณะครุศาสตร์ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายจุรินทร์ ให้ผู้ที่มีฐานะไม่ขอรับสิทธิจากนโยบายเรียนฟรี 15 ปีนั้น ควรดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่พูดลอยๆ เพราะเชื่อว่ามีผู้ไม่ต้องการรับสิทธิจากรัฐบาลจำนวนมาก ดังนั้นหากคนเหล่านี้ต้องการสละสิทธิก็ควรมีความชัดเจนว่า เมื่อสละสิทธิแล้ว เงินที่เหลือจะนำไปช่วยเหลือคนยากจนจริงๆ ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการ จึงควรมีระบบข้อมูลที่ชัดเจน มีแบบฟอร์ม และการกำหนดว่าจะนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือเด็กยากจนที่โรงเรียนใด

นอกจากนี้การแจกชุดนักเรียนฟรี ก็ควรให้กลุ่มแม่บ้านใน อปท.ตัดเย็บ เพื่อช่วยกระจายรายได้ หรือแม้แต่ตำราเรียนฟรี ก็ควรพิจารณาของสำนักพิมพ์เอกชน ซึ่งบางวิชาก็มีคุณภาพและน่าอ่าน ราคาถูกกว่าที่องค์การค้าจัดพิมพ์ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐที่ประกาศว่าจะดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ในทางปฏิบัติกลับสวนทางกับนโยบาย ซึ่งรมว.ศึกษาธิการควรฟังความเห็นของคนนอกกระทรวงบ้าง

ภูมิใจไทย:ก้าวสำคัญของเนวิน

การเมืองแบบไทยๆ อะไรๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ฟัดกันแทบจะตายกันไปข้าง วันหนึ่งก็อ้าขาผวาปีกเข้าหากันได้อย่างไม่เคอะเขิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook