นร.คู่อริดักปาอิฐ หนุ่ม 15 ดวงกุด กะโหลกยุบดับอนาถ

นร.คู่อริดักปาอิฐ หนุ่ม 15 ดวงกุด กะโหลกยุบดับอนาถ

นร.คู่อริดักปาอิฐ หนุ่ม 15 ดวงกุด กะโหลกยุบดับอนาถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)

หนุ่มซ้อน 3 กลับบ้านย่านพระราม 2 ขับผ่านโรงเรียนคู่อริ เจอดักปาอิฐหนอน ตกรถจักรยานยนต์ กะโหลกยุบ ดับคาที่

(1 พ.ย.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฏร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนต่างสถานบันทะเลาะวิวาทกัน บริเวณถนนพุทธบูชา จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยพุทธบูชา 37/1 พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายณัฐพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ เสียชีวิตคาที่ในชุดนักเรียน

จากการตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิต พบกะโหลดศีรษะยุบ มีบาดแผลถลอกบริเวณหน้าผากและร่างกายฝั่งขวา เนื่องจากล้มไถลกับพื้นถนน ใกล้กับพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีขาวดำ จอดอยู่ใกล้เคียง พบ ด.ช.โจ้ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ ด้วยสีหน้าอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบสวน ด.ช.โจ้ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขึ้นซ้อน 3 ขี่จักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านย่านพระราม 2 โดยผู้เสียชีวิตนั่งซ้อนคนสุดท้าย จนกระทั่งขับผ่านโรงเรียนชื่อดัง ย่านถนนพุทธบูชา ซึ่งผู้เสียชีวิตเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับนักเรียนโรงเรียนดังกล่าว พวกตนจึงพยายามขับรถหลบหลีกไม่อยากให้มีปัญหากัน จนกระทั่งพบนักเรียนคู่อริกลุ่มใหญ่ดักรออยู่ทั้งสองฝั่งถนน มีรถจักรยานยนต์ขับไล่ตามมาอีก 2-3 คัน

ด.ช.โจ้ เล่าต่ออีกว่า คนที่ยืนอยู่ริมถนนได้ขว้างปาก้อนอิฐตัวหนอนใส่ในระยะประชิด ตนกับเพื่อนจึงรีบเร่งเครื่องขับหลบหนี จนกระทั่งผู้เสียชีวิตเริ่มเอนหลังใกล้จะตกจากรถ แต่มีจักรยานยนต์ของคู่อริขับไล่ตามมาอีก พร้อมกับมีดดาบ พวกตนจึงไหว้ร้องขอชีวิต ก่อนที่ นายณัฐพล จะพลัดตกจากรถจักรยานยนต์นอนแน่นิ่ง คู่อริจึงเลี้ยวรถกลับและขับออกไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ทันทีที่แม่ของนายณัฐพลพบเห็นศพลูกชาย ถึงกลับร้องไห้แทบขาดใจและเป็นลมหมดสติ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล ส่วนประเด็นในการก่อเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook