พบศพหลานสมัครนอนจมกองเลือด ขอยืมค้อนปอนด์อู่แท็กซี่ไปสู้ปืนหลังแยกจากวงเหล้าห้ามวัยรุ่นหยุดยิงปืน

พบศพหลานสมัครนอนจมกองเลือด ขอยืมค้อนปอนด์อู่แท็กซี่ไปสู้ปืนหลังแยกจากวงเหล้าห้ามวัยรุ่นหยุดยิงปืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลานสมัครถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมนอนจมกองเลือก ก่อนเกิดเหตุขอยืม ค้อนปอนด์เจ้าของอู่แท็กซี่อ้างจะเอาไปสู้ปืน ก่อนกลายเป็นศพในวันต่อมาหลังห้ามกลุ่มวัยรุ่นหยุดยิงปืนขึ้นฟ้า เมื่อเวลา 04.00น.วันที่ 19 มกราคม พ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เตาปูน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุบก.น.2 ว่า มีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ภายในซอยชุมชนกระป๋อง แขวง-เขตบางซื่อ กทม. จึงไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่กลางซอยชุมชนกระป๋อง เจ้าหน้าที่พบศพชาย 1 ราย นอนจมกองเลือด หน้าบ้านเลขที่ 526/87 สภาพนอนตะแคงขวา สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ ไม่สวมรองเท้า ในมือกำมีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุต 1 ด้าม ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 5 นัด บริเวณลำคอ ลำตัว ศีรษะ และต้นขาทั้ง 2 ข้าง อย่างละ 1 นัด ตรวจสอบภายในตัวพบเอกสารระบุบชื่อนายศิรคุปต์ สุนทรเวช อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 245/59 ชุมชุนตึกแดง แขวง-เขตบางซื่อ ใกล้กันกับศพพบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า ลิโม่ สีชมพู ทะเบียน ทย-5846 กทม. ของผู้ตาย จอดอยู่ในสภาพไฟหน้ารถดับ แต่ยังเปิดแอร์ทิ้งไว้ โดยกระจกรถยนต์ทั้งสองข้างด้านหน้าทั้งสองฝั่งเปิด ตรวจสอบบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ พบหัวกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่จำนวน 2 หัว และปลอกกระสุนขนาดเดียวกัน ตกอยู่จำนวน 3 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันห่างจากผู้ตายประมาณ 20 เมตรอีก 1 ปลอก นอกจากนี้ยังมีรถของชาวบ้านที่จอดอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ถูกกระสุนยิงจนได้รับความเสียหาย 3 คัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายสุทิน สุนทรเวช อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345/59 ชุมชนบ้านพักคนงานก่อสร้างทางรถไฟ (มชนกระป๋อง) ซอย 1 แขวง-เขตบางซื่อ บิดาผู้ตาย ให้การว่า มีอาชีพขับแท็กซี่เช่นเดียวกับลูกชาย โดยตนพักอาศัยอยู่ในชุมชน ส่วนลูกชายแยกไปพักอยู่ในอู่รถแท็กซี่เฮียพงษ์ที่เช่าอยู่ แต่ปกติแล้วหลังจากเลิกขับรถแท็กซี่ลูกชายตน ก็จะมานั่งกินเหล้าด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งเท่าที่ผ่านมาลูกชายก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ก่อนเกิดเหตุลูกชายไม่ได้มาดื่มเหล้ากับตน แต่ไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่ท้ายซอยที่เกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงปืนดังหลายนัดจึงได้วิ่งออกมาดู แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกชายตนที่ต้องมาเสียชีวิตในลักษณะนี้

"สำหรับนามสกุลของตนที่เหมือนกับอดีตนายกรัฐมนตรีนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา จากการสอบถามพ่อของตนคือนายสนับ สุนทรเวช ก็ทราบว่าเป็นเครือญาติห่างๆ กัน โดยพ่อของตนมีศักดิ์เป็นพี่ชายนายสมัคร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทราบว่า พ่อของตนเคยไปมาหาสู่กับนายสมัครอยู่บ้างบางครั้ง แต่ตอนนี้พ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว นายสุทินกล่าว

ด้านนายวันชัย ศิริสุขชัยถาวร อายุ 49 ปี เจ้าของอู่รถแท็กซี่เฮียพงษ์ ที่ผู้ตายเช่าอยู่นั้น ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น.วานนี้ (18 ม.ค.) ผู้ตายได้ขับรถเข้ามาจ่ายเงินค่าเช่าตามปกติ จากนั้นก็ขับรถแท็กซี่ออกไป กระทั่งเวลาประมาณ 03.30 น. ผู้ตายก็กลับเข้ามาที่อู่เพื่อขอยืมค้อนปอนด์ ตนจึงถามกลับไปว่าเอารถไปชนมาหรือเปล่าถึงมาขอยืมค้อน แต่ผู้ตายกลับบอกว่า ถูกไล่ยิงมาผมจะเอาไปสู้ปืน ตนก็แปลกใจ พร้อมเตือนกลับไปว่าจะเอาค้อนไปสู้ปืนได้อย่างไร หลังจากได้ค้อนแล้วผู้ตายก็รีบขับรถออกไปจากอู่ จนกระทั่งมาทราบเรื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกยิงตายดักล่าว

ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายได้ไปนั่งดื่มเหล้าอยู่บริเวณท้ายซอยที่เกิดเหตุ ซึ่งที่เดียวกันก็มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มกำลังจัดงานวันเกิดอยู่เช่นกัน ต่อมากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้ชักปืนมายิงขึ้นฟ้า ผู้ตายจึงเข้าไปเตือนไม่ให้ยิง ซึ่งหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุ ผู้ตายเดินออกจากซอยมาเพื่อจะขับรถกลับ โดยถือมีดออกมาด้วยเพราะคิดว่าอาจจะถูกดักทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งเดินมาถึงรถก็มีคนร้ายดักยิงจนเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้พอจะรู้ตัวคนร้ายแล้วและจะเร่งติดตามมาดำเนินคดีต่อไป

เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ปิยวัชร์ บุญยืน ผกก.สส.บก.น.2 กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าคนร้ายโหดเหี้ยมมาก เพราะยิงที่ขาของผู้ตายทั้ง 2 ข้าง ก่อนจ่อยิงซ้ำที่ลำตัวจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนอาวุธปืนที่พบน่าจะเป็นขนาด 9 มม.ออโต้ ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบอยู่ว่าเป็นปืนที่ได้จดทะเบียนมาหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ปืนออโต้มักจะจดทะเบียนและทำการเก็บประวัติเรื่องหัวกระสุนและปลอกกระสุนก่อน ตอนนี้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 3 คนแล้ว ว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook