เลื่อนเผา2นร.ม.4เมืองหนองคายตำรวจขอนำศพไปผ่าพิสูจน์

รวบแล้ว โจ๋ 17 ปี ฆ่าโหด 2 นักเรียนสาว ม.4 เมืองหนองคาย หิ้วตัวเค้นทั้งคืนก่อนสารภาพพาไปคุยกันในทุ่งนา ดูโทรศัพท์มือถือเห็นหนุ่มส่งข้อความมาจีบ โมโหจ้วงแทงยับ ก่อนหลอกเพื่อนอีกคนไปฆ่าปิดปาก ตำรวจพาไปทำแผน ชาวบ้านนับร้อยรอดูหน้า ต้องยกเลิก หวั่นเจอสหบาทา ด้านงานศพต้องยุติกะทันหัน เพราะตำรวจขอนำศพไปผ่าพิสูจน์ ความคืบหน้ากรณีคนร้ายฆ่า น.ส.อรอุมา วงศ์ประจิต อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 12 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และ น.ส.มาริษา ศรีสวา อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/1 หมู่ 5 ต.พานพร้าว ทั้งสองเป็นนักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนพานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด หลังทั้งคู่เลิกจากงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณสี่แยกน้ำโมง เพื่อหารายได้พิเศษจุนเจือครอบครัวและหาเงินเรียนหนังสือ เหตุเกิดริมคลองส่งน้ำเส้นทางระหว่างหมู่บ้านน้ำโมง-บ้านนาโพธิ์ หลังวัดพระงาม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ เมื่อกลางดึกวันที่ 14 มกราคม ล่าสุดตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว 1 คน เมื่อช่วงดึกวันที่ 15 มกราคม ตำรวจควบคุมตัวนายแสง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ราษฎรบ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อนชายคนสนิทของ น.ส.อรอุมา ไปสอบปากคำตลอดทั้งคืน จนนายแสงสารภาพว่าเป็นคนฆ่านักเรียนสาวทั้งสองคน นายแสงสารภาพว่า เป็นแฟนกับ น.ส.อรอุมา ช่วงค่ำวันเกิดเหตุไปดื่มเหล้างานวันเกิดเพื่อน เพื่อรอ น.ส.อรอุมา เลิกงาน จากนั้นได้โทรศัพท์นัดหมาย น.ส.อรอุมาให้มาพบที่สวนสมเด็จย่า บ้านน้ำโมง ห่างจากร้านอาหารประมาณ 500 เมตร โดย น.ส.อรอุมานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับน.ส.มาริษา เมื่อพบกันก็คุยกันด้วยดี และตนก็ขอพูดคุยกับ น.ส.อรอุมา แบบเงียบๆ สองต่อสอง 1 ชั่วโมง "ผมขี่รถจักรยานยนต์นำหน้า ส่วน น.ส.อรอุมา และ น.ส.มาริษา ขับรถตามหลัง ไปจนถึงกลางทุ่งนาจุดเกิดเหตุ น.ส.มาริษาขี่รถจักรยานยนต์กลับมานั่งรอ น.ส.อรอุมา อยู่ที่สวนสมเด็จย่าเช่นเดิม ส่วนผมและ น.ส.อรอุมาอยู่กันที่ข้างคลองน้ำจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้คว้าโทรศัพท์ของ น.ส.อรอุมามาดู ก็พบข้อความที่มีลักษณะเกี้ยวพาราสี น.ส.อรอุมา ผมหึงหวงจึงเกิดปากเสียงกันขึ้น ด้วยความเมาได้ชักมีดปลายแหลมด้ามไม้ยาวประมาณ 1 ฟุต ที่เก็บได้จากสวนสาธารณะสมเด็จย่าออกจ่อที่คอเพื่อขู่ แต่เกิดพลาด มีดไปปาดคอ น.ส.อรอุมา จนหลอดลมขาด ด้วยความตกใจและความหึงหวง จึงใช้มีดเล่มดังกล่าวแทงเข้าที่ด้านหลังจนนับไม่ถ้วน จน น.ส.อรอุมาฟุบเสียชีวิต" นายแสงกล่าว นายแสงกล่าวอีกว่า เวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง น.ส.มาริษาขี่รถจักรยานยนต์มาตามเพื่อน ตนจึงบอกไปว่าทะเลาะกันแล้ว น.ส.อรอุมาเดินหนีไปตามทางไปหมู่บ้านนาโพธิ์ น.ส.มาริษาหลงเชื่อจึงขี่รถออกไปตามเพื่อน โดยตนขี่รถตามหลังไป จนกระทั่งถึงสี่แยกคลองน้ำ จึงตะโกนบอกว่าให้จอดรถและบอกว่า น.ส.อรอุมา เดินเลี้ยวไปตามคลองน้ำ ทำให้ น.ส.มาริษาหยุดรถ ตนจึงบอกให้ดับเครื่องคุยกันก่อน พอ น.ส.มาริษาเผลอจึงใช้มีดเล่มเดียวกันกระหน่ำแทง น.ส.มาริษาทางด้านหลังจนนับไม่ถ้วนเพื่อฆ่าปิดปากเพราะกลัวความผิด จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่สวนสมเด็จย่า แล้วจัดการเผาเสื้อที่เปื้อนเลือดทิ้ง ส่วนมีดปลายแหลมทิ้งลงในสระน้ำสวนสมเด็จย่า ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มกราคม พล.ต.ต.วรวุฒิ นาสมพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย (ผบก.ภ.จว.หนองคาย) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวน ภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยรรยงค์ เวชโอสถ ผกก.สืบสวน ภ.4 พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.จารุพล ยี่ตัน ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.ฐนกร ถาวโร สารวัตรเวร เจ้าของคดี พร้อมกำลังตำรวจกว่า 30 นาย ควบคุมตัวนายแสงไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ต้องยกเลิกไป เพราะมีชาวบ้านนับร้อยคนมายืนรอเพื่อดูตัวฆาตกร เกรงว่าจะเกิดการประชาทัณฑ์กันขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มชาวบ้านยังคงปักหลักรอตลอดทั้งวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา ไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดหนองคายเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายร่วมด้วย เพราะผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน ส่วนงานศพของ น.ส.อรอุมา ซึ่งญาติได้จัดเตรียมทำพิธีฌาปนกิจศพในตอนบ่ายวันที่ 16 มกราคม ต้องยุติลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอนำศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขณะที่บิดามารดารวมทั้งญาติๆ ของน.ส.อรอุมา ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ และไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะลงมือคนเดียว แหล่งข่าวในชุดสืบสวนระบุว่า สาเหตุที่ต้องนำศพ น.ส.อรอุมา ไปผ่าพิสูจน์ เนื่องจากยังสงสัยว่าผู้ต้องหาอาจข่มขืนเหยื่อก่อนลงมือฆ่า จึงต้องหาหลักฐานจากศพเพิ่มเติมเพื่อประกอบการดำเนินคดีด้วย