สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ หลายจังหวัดอ่วม

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ หลายจังหวัดอ่วม

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ หลายจังหวัดอ่วม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(24 พ.ย.) ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 เรื่อง "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ได้เคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันและกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกห่างจากชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตกมากยิ่งขึ้น ทำให้ภาคใต้เริ่มมีฝนลดลง แต่บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปได้อีก 1 วัน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก รวมทั้งปริมาณฝนสะสมต่อเนื่องที่มีปริมาณมากไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 20 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

จังหวัดชุมพร

(ภาพจากสำนักข่าวไทย) 

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ชุมพร ประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้ง 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ปะทิว อ.ท่าแซะ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.ละแม และ อ.พะโต๊ะ โดยปริมาณน้ำจากคลองต่าง ๆ ได้เอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตร เป็นบริเวณกว้าง สำหรับระดับน้ำบางพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ท่าแซะ ยังสูงกว่า 1 เมตร ถนนทางเข้าออกหมู่บ้านถูกตัดขาด

สำหรับถนนสายสายเอเชีย 41 ที่เป็นถนนสายหลักลงสู่ภาคใต้ ผ่าน จ.ชุมพร น้ำท่วม 2 จุด คือ สี่แยกปฐมพร หลักกิโลเมตรที่ 1-2 ขาเข้าเมืองชุมพร และช่วงหลักกิโลเมตรที่ 25-28 ต.ครน อ.สวี รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง แต่สามารถใช้เส้นทางเลี่ยงผ่านเข้าตัวเมืองชุมพรได้

ขณะที่ทางรถไฟช่วงหน้าสถานี อ.สวี ถูกน้ำท่วมเกือบ 100 เมตร และช่วงใกล้สถานีตากแดด ต.ทุ่งคา อ.เมือง ระยะทางยาว 200 เมตร ทำให้ทางชำรุดและหินรองรางรถไฟถูกน้ำซัดหายไปหลายช่วง เจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางชั่วคราว คาดว่าจะซ่อมแซมรางรถไฟเสร็จภายใน 1-2 วัน

 

สุราษฎร์ธานี

(ภาพจากสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.)

นายสุริยัณห์ จิรสัตย์สุนทร นายอำเภอไชยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งที่บริเวณประตูกำแพงแก้วของ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร หรือ วัดพระธาตุไชยา เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากภายในกำแพงแก้ว และฐานขององค์พระธาตุ หลังถูกน้ำท่วม โดยเกรงว่าจะทำให้โบราณสถานสำคัญของจังหวัดได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ น้ำป่าได้ไหลทะลักลงคลองไชยา และเอ่อล้นเข้าท่วม บริเวณวัดพระธาตุไชยา ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามนำกระสอบทรายมาวางไว้ เพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปภายในกำแพงแก้ว แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วม ระดับน้ำสูงประมาณ 70 เซนติเมตร ท่วมถึงฐานของพระพุทธรูป บริเวณระเบียงคด โดยก่อนหน้านี้ทางวัดได้รับงบประมาณ 40 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างกำแพงกั้นน้ำ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงทำให้น้ำท่วมโบราณสถานสำคัญแห่งนี้

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมสุราษฎร์ธานี ล่าสุดวันนี้ หลากท่วม3 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา และ อ.กาญจนดิษฐ์

 

จังหวัดสตูล 

(ภาพจากสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.)

คลื่นสูงกว่า 3 เมตรได้ซัดเรือประมง เรือยอร์ช ที่จอดอยู่ตามเกาะต่าง ๆ เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ลำ ขณะที่น้ำท่วมก็ขยายวงกว้างไปในพื้นที่ ตำบลละงู, กำแพลง, เขาขาว และตำบลน้ำผุดแล้ว ส่วนอำเภอทุ่งหว้าจะเป็นจุดถัดไปที่น้ำจะไปถึง จังหวัดได้เตือนให้ชาวบ้านเก็บของหนีน้ำเพื่อความปลอดภัย 

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ขณะนี้ น้ำในลำคลองยังสูงเพิ่มระดับ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ ต.น้ำผุด และในพื้นที่ ต.ละงู น้ำยังคงท่วมขัง เพราะช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ยังมีฝนตกหนัก ซึ่งทางอำเภอยังคงมีการประกาศเฝ้าระวังจับตาสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ทางกรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ตอนล่าง ยังมีประกาศเตือนระวังฝนตกอีก 1- 2 วันนี้

จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำป่าไหลเข้าท่วมหมู่บ้านและถนนทางสัญจรที่ไม่สามารถใช้การได้ในหลายจุดเช่นอำเภอพิปูน จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ พรหมคีรี และลานสกา น้ำป่ายังคงไหลเชี่ยวกราก พัดสะพานไม้ขาด จ้าหน้าที่หลายฝ่ายต้องเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน 

จังหวัดพัทลุง สถานการณ์ก็ยังน่าเป็นห่วงทั้ง 11 อำเภอ ระดับเฉลี่ย 1 เมตร ถนนถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว กว่า 20,000 ครอบครัวเดือดร้อน และพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 50,000 ไร่ 

จังหวัดกระบี่ คลื่นที่แรงจัดได้ซัดเรือโดยสารนาดใหญ่ชื่อ เจ๊ทเวป ของบริษัท อันดามันเวฟ มาสเตอร์ ที่จอดลอยลำอยู่ที่หน้าท่าเรือล่มไปทั้งลำ รวมถึงเรือหางยาว และเรือเร็วก็ถูกคลื่นซัดล่มไปอีกไม่ต่ำกว่า 20 ลำด้วย เรือโดยสารที่ไปเกาะพีพี ต้องงดให้บริการแล้ว 

จังหวัดพังงา คลื่นลมแรงจัด ผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท ต้องหยุดให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะสิมิลัน เกาะตาชัย เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ตามโรงแรมที่อยู่ริมหาดต้องทำป้ายประชาสัมพันธ์ และปักธงแดงห้ามลงเล่นน้ำทะเลอย่างเด็ดขาด

จังหวัดตรัง พื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน เช่น สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ก็ถูกน้ำจากคลองใกล้เคียง ไหลท่วมเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook