"สุเทพ" ยันนายกฯ ม.7 ทำได้ ลั่น 6 ธ.ค.เผด็จศึกขั้นเด็ดขาด

"สุเทพ" ยันนายกฯ ม.7 ทำได้ ลั่น 6 ธ.ค.เผด็จศึกขั้นเด็ดขาด

"สุเทพ" ยันนายกฯ ม.7 ทำได้ ลั่น 6 ธ.ค.เผด็จศึกขั้นเด็ดขาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สุเทพ เทือกสุบรรณ" ขึ้นเวทีปราศรัยแถลง จี้ "ยิ่งลักษณ์" คืนอำนาจให้ประชาชน อ้างนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ทำได้ พร้อมระบุ พักการต่อสู้ 1 วัน ลั่น 6 ธ.ค. จะประกาศแผนเผด็จศึกเด็ดขาดร่วมกัน

วันนี้ (4 ธ.ค. 56) เวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัยที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เพื่อทำความเข้าใจแนวทาง ขั้นตอนการต่อสู้ของมวลประชาชนที่รวมกันเป็น กปปส. โดยกล่าวว่า การต่อสู้ของเราคือในฐานะผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพราะฝ่ายระบอบทักษิณเป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ เราจึงต้องเป็นฝ่ายรุกมาพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และเพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตยของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 บัญญัติไว้ว่า เป็นของประชาชนชาวไทย แต่เรามอบให้รัฐบาล รัฐสภา แต่ปรากฎว่า รัฐบาล และรัฐสภา ทรยศต่อเราและประชาชน แทนที่จะไปใช้อำนาจให้เป็นประโยชน์ กลับบิดเบือนใช้อำนาจโดยไม่เคารพกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของพี่ชายตนเองและเพื่อครอบครัว เราจึงมีความชอบธรรมที่จะดึงเอากลับมา

ทั้งนี้ เลขาธิการ กปปส. กล่าวยก เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 เป็นตัวอย่างการใช้บทบัญญัติ มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญที่มีมาแล้วในประเทศไทย ซึ่งวันนั้นเหล่านิสิต นักศึกษาเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น จนเกิดเหตุรุนแรงมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จอมพลถนอมจึงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางออกจากประเทศไทยเพื่อให้บ้านเมืองสงบ จากนั้นคนที่มีหน้าที่จึงไปกราบทูลขอให้พระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรี จนได้ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อจากจอมพลถนอม

หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ผู้มีอำนาจหน้าที่เหลืออยู่จะนำความกราบเรียนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อหาคนมาเป็นนายกฯ นี้คือการทำตาม มาตรา 7 ส่วนการทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งและไม่ได้รักษาการ ในขณะที่ตำแหน่งว่างนั้น คือสิ่งที่เราต้องดำเนิน เราต้องถอนอำนาจออกมาเป็นของเรา เมื่อเขาหมดอำนาจเขาก็ต้องไป

เลขาธิการ กปปส. กล่าวย้ำอีกว่า พรุ่งนี้เป็นวันมิ่งมหามงคลของชาวไทยทุกคน ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราเป็นพสกนิกรของพระองค์ ร่วมกันจัดงานเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และปีนี้จัดพิเศษเพราะไม่ใช่ปีปกติธรรมดา ปกติจะมีนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา เป็นผู้นำในการใช้อำนาจอธิปไตย กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แต่ปีนี้มีปัญหาเพราะประชาชนรู้สึกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่สมควรกล่าวถวายพระพรชัยมงคล

ทั้งนี้ สภาทนายความและผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลฎีกา ก็ไม่เห็นด้วยที่นายกฯ จะเป็นผู้กล่าวถวายพระพร เพราะฉะนั้นวันพรุ่งนี้จึงเป็นวันพิเศษอย่างยิ่งที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของ อำนาจอธิปไตย ต้องออกมาให้เห็นว่าประชาชนได้ลุกขึ้นแสดงตนขอเป็นผู้กราบบังคมทูลถวายพระพร ชัยมงคลโดยตรง พร้อมเชิญพี่น้องประชาชนทุกคนมายังเวทีราชดำเนิน เวทีกระทรวงการคลัง และเวทีศูนย์ราชการ ในเวลา 17.00 น.

โดยที่เวทีราชดำเนิน ในเวลา 07.00 น. มีการทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ 99 รูป และถวายภัตตาหารเพล จากนั้นเวลา 17.00 น. ร่วมกันสวดมนต์ทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมหากษัตริย์ ซึ่งในเวลา 18.00 น. จะร่วมกันร้องเพลงชาติ ก่อนประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลและถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นคนดี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"หากพี่น้องประชาชนมีฉันทานุมัติ เห็นชอบให้กระผมเป็นตัวแทนของมวลมหาประชาชนกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล กระผมจะทำเพื่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จะขอเป็นผู้นำจุดเทียนชัยถวายพระพร และกล่าวคำสัตย์ปฏิญานตนแทนประชาชนชาวไทย โดยเตรียมเทียนจำนวน 1 ล้านเล่มไว้ให้แล้ว" นายสุเทพ กล่าว

นอกจากนี้ เลขาธิการ กปปส. กล่าวย้ำว่า จะขอพักรบกับรัฐบาลในวันนี้และวันพรุ่งนี้เพราะเป็นวันมหามงคล จากนั้นในคืนวันที่ 6 ธ.ค. กลุ่ม กปปส.จะประกาศเผด็จศึกในการต่อสู้อย่างเด็ดขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook