กว่าจะเป็น ประธานาธิบดี ของ บารัค โอบามา

ข้าพเจ้าเชื่อว่างานชิ้นเดียวที่มีความสำคัญที่สุด สำหรับใครก็ตามที่เป็นประธานาธิบดีคือการปกป้องคุ้มครองชาวอเมริกัน และข้าพเจ้าแน่ใจพอๆ กันว่าการจะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 21 คลิกอ่าน ทำความรู้จักวัยเยาว์ ของประธานาธิบดีผิวสีคนใหม่แห่งสหรัฐอเมริกา

รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้พิมพ์วารสารชีวประวัติ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรก แจกสถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลก โดยแปลเป็นภาษาต่างๆ ซึ่งสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยได้จัดพิมพ์ประวัติประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44 เป็นภาษาไทยจำนวน 16 หน้า

หลังจากปี 1996 โอบามาได้ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และได้ที่นั่งวุฒิสมาชิกจากชิคาโกในสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ในที่สุด และสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งวุฒิสมาชิกในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2004 อย่างลอยลำ โดยได้คะแนนเสียงอย่างถล่มทลาย

จนกระทั่งปี 2007 นายโอบามาต้องลงหาเสียงเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแคต กับคู่แข่งอีก 7 คน ซึ่งโพลสำรวจความคิดเห็นต่างจัดโอบามาไว้ในอันดับที่ 2 รองจากนางฮิลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกจากรัฐนิวยอร์คและภริยานายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี แต่โอบามาก็สามารถสร้างปรากฎการณ์ในระยะแรกของการแข่งขันในการดึงดูดผู้สนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนวัยหนุ่มสาว ทั้งยังสามารถจัดตั้งองค์กรหาเสียงระดับรากหย้าได้ทั่วประเทศ และระดมทุนผ่านอินเตอร์เน็ตได้เป็นจำนวนมาก

แต่ที่เห็นแววของประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเห็นได้ชัด คงเป็นวันซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ ที่มีการเลือกตั้งพร้อมกันทั้งหมด 22 รัฐในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ คราวนี้โอบามาดวลกับนางคลินตัน โดยมีคะแนนสูสีกันจนถึงขั้นตัดสินใจลำบากว่าใครจะคว้าชัย ทั้งยังกวาดรัฐบาลชนบทภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศไปด้วย

สุดท้าย บารัค โอบามา ก็สร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ

บารัค โอบามา เป็นหนึ่งในบรรดาประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่มีอายุน้อยที่สุด เขาเกิดในช่วงท้ายสุดของยุคเบบี้บูมคือระหว่างปี ค.ศ.1946-1964 นอกจากนี้ยังเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในทศวรรษ 1980 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นยุคลแห่งความเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วในตัว เขาจึงเติบโตขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับช่วงทศวรรษ 1960 ที่สังคมกำลังตกอยู่ในความสับสน

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โอบามา กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2000 กับ 2004 ซึ่งผู้สมัครล้วนเกิดยุคหลังสงครามโลกรุ่นก่อนหน้าเขาหลายปี เขากล่าวว่า บางครั้งผมรู้สึกเหมือนกำลังดูละครที่แสดงโดยคนยุคเบบี้บูม พวกเขานำเอาเรื่องราวความขัดแย้งเก่าๆ ขณะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมาแสดงออกในเวทีระดับชาติ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเคยกล่าวสุนทรพจน์ เมื่อปี 2007 ว่า ข้าพเจ้าเชื่อว่างานชิ้นเดียวที่มีความสำคัญที่สุด สำหรับใครก็ตามที่เป็นประธานาธิบดีคือการปกป้องคุ้มครองชาวอเมริกัน และข้าพเจ้าแน่ใจพอๆ กันว่าการจะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 21 ผุ้นำอเมริกันจะต้องมีวิสัยทัศน์ใหม่ และจะต้องมีการกำหนดแนวคิดใหม่ให้แก่ความมั่นคงของชาติ วิสัยทัศน์ดังกล่าวเป็นวิสัยทัศน์ที่ได้จากบทเรียนในอดีต แต่ไม่ถูกจำกัดกรอบด้วยความคิดล้าสมัย