เทพเทือกสั่งเบรก ตร.ถอดถอนปปช.
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะไม่อยากให้มีปัญหาระหว่างหน่วยงาน เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวจึงเตือนพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ไปแล้วว่าการแสดงความคิดเห็นถือเป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่มีเจตนายุยงปลุกปั่นเพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีปัญหากับป.ป.ช. เพราะถือเป็นการแสดงความคิดเห็นจนเกินขอบเขต และอาจบานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 จึงต้องออกมาเรียกร้อง นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงจุดใด เพราะป.ป.ช.ยังไม่ได้เปิดเผยผลการสอบสวนเรื่องนี้ออกมา
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบากตั้งแต่เหตุสลายผู้ชุมนุมที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ จนมาถึงเหตุ การณ์วันที่ 7 ต.ค.2551 นายสุเทพกล่าวว่า กรณีที่เซ็นทรัลเวิลด์เห็นได้ชัดว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าข่ายความผิด แต่กรณีวันที่ 7 ต.ค.นั้นต้องรอดูผลการสอบสวนของป.ป.ช.ก่อน ไม่ควรไปตีตนก่อนไข้
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข่าวเรื่องการโยกย้ายพล.ต.ท. สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. นายสุเทพกล่าวว่า ไม่อยากให้ไปเชื่อกระแสข่าว ไม่รู้ว่าข่าวที่ออกมาเพราะคนที่อยากจะย้ายเป็นคนทำ หรือคนที่กลัวจะถูกย้ายเป็นคนให้ข่าว แต่ตนยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ และยืนยันว่าถ้าจะมีการพิจารณาจะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ถ้าจำเป็นจะต้องย้ายก็ต้องย้ายและจะแถลงให้ประชาชนทราบถึงเหตุผล
เมื่อถามว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะต้องการกดดันการทำงานของป.ป.ช.หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การกระทำเช่นนี้คงใช้ไม่ได้ผล เพราะเชื่อว่าป.ป.ช.ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงต่อการกดดันการทำงาน ป.ป.ช.ต้องทำไปตามหน้าที่ ส่วนผลที่ ป.ป.ช. พิจารณาออกมาใครจะรับได้หรือไม่ได้ก็ต้องว่ากันไป
ต่อข้อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าต่อไปจะมีการรวมตัวเพื่อกดดันนายสุเทพที่ดูแลงานด้านความมั่นคงต่อไป นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เคยมีใครมากดดันการทำงานและตนไม่สนใจ ถ้าคิดจะกดดันการทำงานของตนด้วยวิธีนี้บอกได้เลยว่าไม่ได้ผล เมื่อถามถึงข่าวการเตรียมย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสุเทพกล่าวยืนยันว่าไม่มี และตนไม่มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ เป็นเรื่องของรมว.ยุติธรรม
ที่สำนักงานป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องที่ตำรวจล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนคณะ กรรมการป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 248 กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากป.ป.ช. ในการตั้งอนุกรรมการไต่สวนเหตุการณ์สลายม็อบหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ซึ่งการล่ารายชื่อดังกล่าวถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ทำได้ และป.ป.ช.พร้อมถูกตรวจสอบ ยืนยันว่าการไต่สวนคดีดังกล่าวเป็นการทำตามหน้าที่ ไม่มีอคติ และขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใครเลย เป็นเพียงขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะต้องเรียกผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา ตลอดจนคนกลางมาให้ปากคำ หากเห็นว่ามีความผิดก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาแก้ข้อกล่าวหา หากไม่มีความผิดก็จะยกคำร้องไป ไม่ได้ชี้นำว่าตำรวจมีส่วนร่วมทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ในการสลายม็อบ และไม่คิดว่าการล่าชื่อดังกล่าวจะทำให้เกิดการบาดหมางระหว่าง ป.ป.ช.และตำรวจ
น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมไม่ได้หารือถึงตำรวจยื่นถอดถอนป.ป.ช.อย่างเป็นทางการ พูดคุยกันธรรมดาว่าใครมีหน้าที่อะไรดำเนินการไปตามขั้นตอน ป.ป.ช.คงไม่ยุ่งเกี่ยว อีกทั้งเป็นสิทธิของตำรวจที่จะดำเนินการได้ ส่วนป.ป.ช.มีหน้าที่ตรวจสอบไปตามขั้นตอน ดังนั้น จึงอย่ากลัวป.ป.ช. หากคิดว่าไม่ได้ทำผิด เพราะป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบคนทำผิด และเรื่องทุจริตเท่านั้น เบื้องต้นเท่าที่ได้รับฟังข้อมูลจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯก็ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่มีข้อมูลเอกสารสั่งการที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็สามารถหาข้อมูลจากพยานบุคคลได้ว่าใครเป็นผู้สั่งการที่แท้จริง
