บุชต่อสายอำลาผู้นำต่างชาติ

บุชต่อสายอำลาผู้นำต่างชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เปิดเผยว่าในช่วงที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะพ้นจากตำแหน่งในเวลาเที่ยงวันอังคาร (20 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเก็บตัวอยู่ในทำเนียบขาวมาตลอดได้โทรศัพท์ถึงบรรดาผู้นำและอดีตผู้นำต่างชาติ 12 ประเทศ ได้แก่ ผู้นำบราซิล อังกฤษ ฝรั่งเศส จอร์เจีย เยอรมนี อิตาลี อิสราเอล รัสเซีย ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ และอดีตประธานาธิบดีวินเซนเต ฟ็อกซ์ แห่งเม็กซิโก เพื่อกล่าวอำลา

บุชได้แสดงความรู้สึกขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่ผู้นำเหล่านั้นได้แสดงต่อตัวเอง และภรรยาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งยังบอกว่ามีความยินดีมากเพียงไรที่ได้ทำงานรวมกับบุคคลเหล่านั้นตลอด 2 สมัย ซึ่งผู้นำเหล่านั้นได้ขอบคุณประธานาธิบดีบุชสำหรับงานที่ทำ ความร่วมมือและมิตรภาพที่พัฒนาขึ้นในช่วง 8 ปี จอห์นโดร กล่าว

ด้านประธานาธิบดีชิโมน เปเรส แห่งอิสราเอล ได้กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีบุชที่สนับสนุนอิสราเอล และส่งทหารบุกอิรักเมื่อปี 2546 โดยบอกว่าหากโลกลุกขึ้นตอบโต้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมนี เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดีบุชกระทำกับประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซ็น แห่งอิรัก ชาวยิวหลายล้านคนคงไม่ถูกสังหาร ขณะที่โฆษกประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล เปิดเผยว่าบุชได้ชวนนายซิลวาให้มาเยี่ยมที่รัฐเทกซัส ส่วนนายซิลวาก็ได้ชวนให้บุชไปตกปลาที่บราซิล

สำหรับรัสเซียนั้น บุชได้โทรศัพท์คุยกับทั้งนายดมิทรี เมดเวเดฟ ประธานาธิบดี และนายวลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง

ประธานาธิบดีบุชได้อภัยโทษครั้งสุดท้ายก่อนพ้นจากตำแหน่งโดยผู้โชคดีคือโทษอดีตเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ตามแนวชายแดนรัฐเทกซัส 2 นาย ที่กำลังรับโทษจำคุก 11 กับ 12 ปี ในข้อหาข้ามพรมแดนเม็กซิโกโดยผิดกฎหมาย และยิงพ่อค้ายาเสพติดที่ลักลอบนำกัญชาจากสหรัฐเข้าไปในเม็กซิโกทำให้บุชมีสถิติอภัยโทษ 189 ราย และลดโทษ 11 ราย ตลอด 2 สมัย ซึ่งน้อยกว่าประธานาธิบดีหลายคนมาก

ทางด้านกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านสงครามราว 500 คน ได้เดินขบวนมายังทำเนียบขาว แล้วขว้างปารองเท้าประมาณ 40 คู่ เข้าใส่ประตูทำเนียบในวันที่บุชทำงานเป็นวันสุดท้าย ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างพากันมุงดูและถ่ายรูปเป็นการใหญ่ โดยศูนย์สันติภาพวอชิงตันซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการชุมนุมกล่าวว่าทำเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับนายมุนทาเซอร์ อัลไซดี นักข่าวอิรักที่ขว้างรองเท้าใส่บุชระหว่างเยือนแบกแดดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

รายการคม-ชัด-ลึกตอน-เมื่อโลกได้ โอบามา เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

Change หรือ เปลี่ยน คือ สโลแกนสั้นๆ เพียงคำเดียวของ บารัก โอบามา ซึ่งส่งให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ท่ามกลางความคาดหวังของทั้งคนอเมริกา และคนทั้งโลกว่า โอบามาจะก้าวเข้ามาเปลี่ยนสหรัฐ และโลกนี้ให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook