ปล่อยแถวกวาดล้างละเมิดสิทธิปัญญายกในหลวงต้นแบบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 มกราคม ที่ลานพระราชวังดุสิต(ลานพระบรมรูปทรงม้า) นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จำนวน 853 นาย โดยมีรถยนต์สายตรวจ รถยนต์สายตรวจ (C3I) รถจักรยานยนต์สายตรวจ และรถยนต์ฝ่ายสืบสวนจากบก.ต่างๆจำนวน 220 คัน เพื่อระดมกวาดล้าง จับกุม ปราบปราม การกระทำความผิดการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างวันที่ 22-28 มกราคม โดยมีพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ร่วมปล่อยแถว

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ตามนโยบายของรัฐบาลสืบเนื่องจาก 14 มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้ารับรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญาจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกหรือไวโป้ ซึ่งเป็นพระองค์แรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวนับตั้งแต่มีการก่อตั้งองค์การไวโป้ เนื่องจากไวโป้ประจักษ์ถึงพระราชกรณียกิจ ซึ่งทรงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญหา และการประดิษฐ์คิดค้นเพื่อการพัฒนาชุมชนในชนบทให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น โครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา และเทคโนโลยีการทำฝนเทียม ซึ่งมีการจดทะเบียนสิทธิบัตรไว้มากกว่า 20 รายการและเครื่องหมายการค้าอีก 19 รายการ นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงสร้างผลงานด้านลิขสิทธิ์มากกว่า 1,000 รายการ อาทิ เพลงพระราชนิพนธ์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ เป็นต้น นับได้ว่าพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวทรงเป็นตัวอย่างแบบอย่างของชาติในการส่งเสริมพัฒนาและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทั้งคนไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุน และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์งานทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรมใหม่ๆมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการปกป้องเศรษฐกิจการค้าและความมั่นคงของประเทศอีกด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้าทั้งในและต่างประเทศ และถูกหยิบยกขึ้นเป็นหัวข้อสำคัญในการเจรจาการค้าในเวทีระหว่างประเทศทุกเวที ตัวอย่างก็คือประเทศคู่ค้าบางประเทศ มีการนำมาตรการทางการค้ามาใช้ในการควบคุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และมีการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรต่อประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาก เป็นต้น ดังนั้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม คณะรัฐมนตรีจึงมีมติอนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติขึ้น โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตนเป็นรองประธาน ร่วมด้วยผู้นำส่วนราชการ อาทิ ผบ.ตร. อัยการสูงสุด ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นคณะกรรมการ เป็นต้น โดยมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายทั้งยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามตลอดจนการสั่งการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานของส่วนราชการทุกหน่วย เพื่อบูรณาการให้บรรลุผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งให้ประชาชนตระหนัก ดังนั้นกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับกระทรวงคมนาคม โดยบริษัทการท่าอากาศยานไทย ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ตลอดจนครม. ส.ส.และสว.ทั้งหมดได้ทราบถึงกฎหมายและมาตรการของประเทศในยุโรปซึ่งมีโทษจำคุก ปรับ และริบของ เป็นมาตรการป้องกันประการหนึ่งเพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ของประเทศชาติ

นายอลงกรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมรณรงค์หยุดละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยร่วมกับศิลปินและดาราภาพยนตร์ในการแจกจ่ายเอกสารเผยแพร่และเข็มกลัดติดเสื้อ อย่างไรก็ดีการคุ้มครองและปกป้องสิทธิจะประสบผลสำเร็จได้ขึ้นกับความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการตำรวจซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทั้งคนไทย ต่างชาติและสาธารณะชนโดยทั่วไป

ด้านพล.ต.อ.พัชรวาท ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจจะดำเนินการกวาดล้างการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศ โดยบช.น.เป็นจุดใหญ่ที่สุดและจะขยายไปทั่วประเทศ เมื่อดำเนินการได้จริงจังแล้วเชื่อว่าสินค้าของประเทศไทยจะขายได้ดีต่อไป ตำรวจมีมาตรการและขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้วเพียงแต่รัฐบาลจะสนับสนุนให้ดำเนินการขั้นไหนอย่างไร ทั้งนี้ทางรัฐมนตรีจะมีชุดสืบสวนโดยเฉพาะจะไปตามจุดสำคัญที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมากจะมีชุดไปทั่วประเทศ