“พิเชษฐ์” เผยลางสังหรณ์ “สงครามกลางเมือง”

“พิเชษฐ์” เผยลางสังหรณ์ “สงครามกลางเมือง”

“พิเชษฐ์” เผยลางสังหรณ์ “สงครามกลางเมือง”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรง ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ระบุข้อความว่า

"ไปกันใหญ่
หยุดเถอะ ! ผมจะลง
ผมเป็นศิษย์หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน และหลวงพ่อวัน มะนะโส ทั้งสององค์เป็นเกจิอาจารย์สำคัญของภาคใต้ในยุค ๕ ทศวรรษที่ผ่านมา
และต่างได้สมญาว่าเป็นผู้เลิศในวาจาสิทธิ์ ทำให้ผมพลอยพูดอะไรแล้วเป็นจริงจนเพื่อนๆ เคยล้อว่า "ปากพระร่วง"

ผมเองไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ แต่รู้สึกว่าลางสังหรณ์บางอย่างเกิดจากสัญชาตญาณด้วยประสบการณ์สั่งสม และข้อมูล ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมหลั่งไหลมาที่ผมไม่รู้จักหยุด

ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมมีความรู้สึกว่า การเมืองไทยปีนี้น่าจะไปได้ยากแล้ว

ไม่ทันสิ้นปี วันที่ 8 ธค 56
ก็มีเหตุพรรคประชาธิปัตย์มีมติให้สมาชิกที่เป็นสส.ทั้งหมดลาออก วันที่ 9 ธค 56 นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร
ตามด้วยพรรค ปชป.ประกาศบอยคอตการเลือกตั้ง และมีผู้ขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง และ ...ฯลฯ

ผมมีลางสังหรณ์ว่า บ้านเมืองชักจะไปกันใหญ่
ครั้งนี้แตกต่างกับวิกฤติการณ์เมืองจากการชุมนุมทุกครั้ง
ครั้งก่อนๆเป็นเรื่องระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างประชาชนกับประชาชน ระหว่างสีกับสี ระหว่างพรรคกับพรรค และที่สำคัญคือลุกลามเป็นเรื่องระหว่างภาคกับภาค

แน่นอน ถ้าระงับไม่ได้จะกลายเป็นสงครามกลางเมือง

ผมพยายามให้สติกับทุกฝ่ายแล้วแต่ไม่ได้ประโยชน์อะไร เลย กลับทำให้คู่ขัดแย้ง หันเหความไม่พอใจมาที่ผมผู้ตักเตือน ทำให้ผมตัดสินใจ วางมือการเมือง

การชุมนุมยืดเยื้อรุนแรงขึ้นตามลำดับ ขณะที่ฝ่ายหนึ่งรุกบนภาคพื้นดิน อีกฝ่ายหนึ่งระดมสรรพกำลังวางแผนงานสงครามใต้ดิน

จนในเดือน ม.ค.57 รายงานจากศูนย์เอราวัณ มีคนตายกว่า10 คน คนบาดเจ็บใกล้เจ็ดร้อย และไม่ต่ำกว่า 40-50 คนต้องพิการไปตลอดชีวิตในรูปแบบต่างๆ ทั้งฝ่ายมวลชน และฝ่ายตำรวจ

ข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาตามลำดับ บุคคลในเครื่องแบบสีหนึ่งหลายสิบคนแฝงตัวเข้าไปอยู่ในมวลชน ในคราบหนึ่ง
บุคคลในเครื่องแบบอีกสีหนึ่งแฝงตัวเข้าไปร่วมกับมวลชนอีกฝ่ายหนึ่งทำงานใต้ดินร่วมกันในอีกคราบหนึ่ง กลายเป็น "ป๊อบต่อป๊อบ" ประกาศ ลั่นกลองรบ มีประเทศไทย เป็น สมรภูมิเลือด

ข้อมูลชวนฝันร้าย ทำให้ผมอดที่จะขึ้นเพจเตือนไม่ได้ว่า "มิคสัญญี" โดยซ่อนคำว่า"กลียุค" ไว้ กำหนดวันตั้งแต่วันที่ 21-02-57 เป็นต้นไป

เหมือนเลียนวาจาพระร่วงจริงๆ
คืนวันที่ 21-02-57
ระเบิดลงราชประสงค์
รถพัง3คัน คนเจ็บ6คน

คืนวันที่ 22-02-57 เกิดเหตุที่อ.เขาสมิง จ.ตราด มีเด็กตายด้วย คนเจ็บเกิน 50 ส่วนหนึ่งแน่นอนว่าต้องพิการ

วันรุ่งขึ้น คือ 23-02-57 ไม่ทันได้ร้องเพลงชาติ ระเบิดลงที่ บิกซี.ราชดำริ มีคนตายและมีเด็กตายอีก คนเจ็บหลายสิบ พิการ แน่นอนแล้วไม่ต่ำกว่าหกคน

ประชุม นปช.ที่โคราช ประกาศเปิดสงครามทุกรูปแบบอย่างเปิดเผย และถึงกับประกาศแยกประเทศ เวทีมวลชนที่กรุงเทพฯประกาศรบบนเวทีอย่างแข็งกร้าว

สงครามกลางเมืองกำลังจะเกิด ครั้งนี้ต่างกับทุกครั้ง คือประชาชนส่วนหนึ่งร่วมกับบุคคลในเครื่องแบบสีหนึ่ง และประชาชนอีกฝ่ายหนึ่งร่วมกับคนในเครื่องแบบอีกสีหนึ่ง เหมือนที่"พระอภัยมณี" เคยพูดว่า "สีแฝงสีเข้าประจันจนบรรลัย"

เพื่อนเฟซบุ๊คที่รักทุกท่าน ผมมีแต่ลางสังหรณ์ที่ร้ายๆ และกลัวว่าเป็นจริง จึงจะขอไม่พูดอะไรเกี่ยวกับ ความทารุณโหดร้ายในฝันอีกแล้ว ขอหยุดเรื่องฆ่าฟันกันตั้งแต่บัดนี้ เพราะขอมดำดินยุคนี้น่ากลัวกว่าสมัยพระร่วงจริงๆ

พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
อาทิตย์23-02-57

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook