จับตา10 มี.ค.หมัดเด็ด ส.ว.ส่งศาลฯเชือด รัฐบาลเทียม

ปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนาน จนยากคาดเดาว่าจะจบอย่างไร เมื่อไร อาจจะเห็นทางออกได้ในเร็ววันขึ้นมาก็ได้ หากวันจันทร์ที่ 10 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ รับหรือไม่รับคำร้อง กรณีที่ ส.ว.ซึ่งนำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน จะมายื่นให้ศาลฯ พิจารณาว่า สถานะของรัฐบาลรักษาการหมดสภาพไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ซึ่งครบกำหนด 30 วันตามเงื่อนไขของกฎหมาย รธน.มาตรา 127 ที่บอกว่า ต้องจัดให้มีการประชุมสภานัดแรกใน 30 วันหลังการเลือกตั้งทั่วไป

ประเด็น รัฐบาลรักษาการหมดอายุ หรือ พ้นสภาพฯ เป็น "รัฐบาลเทียม" หรือไม่ จึงเป็นที่ถกเถียงมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฝ่ายกฏหมายของรัฐบาล อย่างเช่น นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา นายพีรพันธ์ พาลุสุข ฯต่างยืนยันว่า รัฐบาลรักษาการยังคงสามารถทำหน้าที่ได้ เพราะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมาไม่ปรกติ และในบทบรรญัติในกฏหมายไม่ได้ระบุชัดว่า รัฐบาลรักษาการหมดอายุเมื่อใด เรียกว่า หากเลือกตั้งได้ ส.ส.ไม่ครบ จนสามารถเปิดสภาได้ ก็รักษาการไปยันลูกหลาน

ขณะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต่างเห็นว่ารัฐบาลรักษาการหมดอายุแล้ว ตามเงื่อนไขดังที่ยกมา จึงเป็นที่มาของการยื่นให้ศาล รธน.พิจารณาในวันจันทร์ ที่10 มี.ค.นี้เอง

ทั้งนี้เมื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้วหากศาลรับวพิจารณาคดีจะใช่เวลานานมากน้อยเพียงใด ในการวินิจฉัย เป็นประเด็นที่หลายคนอยากทราบไม่น้อย ส่วนผลการวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรก็เป็นดุลพินิจของตุลาการศาล รธน.จะพิจารณา คงต้องรอฟังกัน ซึ่ง หากดูตามความจำเป็นเร่งด่วนในประเด็นดังกล่าวแล้ว หลายฝ่ายคาดว่า ภายในเดือน มี.ค.อาจมีคำวินิฉัยออกมา เพราะ สถานะของรัฐบาลยังมีสภาพอยู่หรือไม่ หรือ เป็น "รัฐบาลเทียม" มีความสำคัญยิ่ง เพราะ การปฎิบัติราชการของข้าราชการต่อจากนี้ไป ในส่วนของข้าราชการประจำ จะมีอำนาจตามกฏหมายหรือไม่ หากเกิดความผิดผลาดขึ้นมาไครจะรับผิดชอบ เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนยิ่ง

และตามกระบวนการของการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญตามขั้นตอนดังภาพ เชื่อได้ว่า ผลคำวินิจฉัยน่าจะไม่เกินเดือน มี.ค.นี้ ส่วนจะออกมาอย่างไร จะเป็นดังที่มีการประกาศของแกนนำต่อต้านรัฐบาลว่าจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ภายในเดือน มี.ค.นี้หรือไม่ ยังคงต้องรอติดตามอย่างยิ่ง