ติดปีกเศรษฐกิจ"บุรีรัมย์" ธุรกิจน่าลงทุน"บริการ-โรงแรม-เกษตร"

ฟุตบอล : จากเมืองที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ "บุรีรัมย์" ในวันนี้พลิกโฉมไปแล้ว หลังจากมีการลงทุนขนาดใหญ่เกิดขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท

ภายใต้การกุมบังเหียนของ "เนวิน ชิดชอบ" อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงที่ผันตัวเองมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บิ๊กโปรเจ็กต์ที่เป็นตัว "จุดพลุ" การลงทุนในเมืองบุรีรัมย์ ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล "ไอ-โมบาย สเตเดียม"

คู่ขนานไปกับการปั้นทีมฟุตบอลอาชีพในนามสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว เป็นแรงส่งให้ชื่อเสียงหรือแบรนด์บุรีรัมย์กระฉ่อนไปทั่วเมืองไทย

โครงการถัดมาคือการก่อสร้างสนามแข่งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ "Buriram International Circuit" พร้อมผุดโรงแรมหรูเพิ่มอีกแห่งรองรับบรรดานักแข่งรถและแฟนคลับ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมที่จะมาประลองความเร็วในสนามมาตรฐานระดับโลกแห่งนี้ โดยจะมีการจัดบิ๊กอีเวนต์นัดแรกด้วยการแข่งขันเวิลด์ซีรีส์ ซูเปอร์จีทีในเดือนตุลาคมนี้

นอกจากนั้นยังจะมีโครงการสวนน้ำ "Buriram United Water Park" และคอมมิวนิตี้มอลล์เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ นี่คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเมืองบุรีรัมย์

จากการลงพื้นที่สำรวจของ "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่าเมืองบุรีรัมย์มีการขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม ที่พัก บ้านจัดสรร ร้านค้า ร้านอาหาร โชว์รูมรถยนต์ ตลาดกลางคืน ส่วนภาคค้าปลีกในกลุ่มโมเดิร์นเทรดก็มีเกือบครบทุกค่าย ไม่ว่าจะเป็นแม็คโคร บิ๊กซี โฮมโปร โซนที่มีการลงทุนคึกคักอยู่ในย่านถนนบายพาส และบริเวณพื้นที่เขากระโดง

ในแง่ขนาดพื้นที่และจำนวนประชากร บุรีรัมย์ไม่ใช่จังหวัดเล็ก แต่เป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของประเทศ และมีพลเมืองมากถึง 1.6 ล้านคน

รั้งอันดับ 6 ของประเทศ

ขณะที่รายได้หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดบุรีรัมย์ (GPP) ที่จัดเก็บโดยวิธี Bottom Up ข้อมูลล่าสุดในปี 2556 มีมูลค่า 109,871.23 ล้านบาท โครงสร้างเศรษฐกิจที่ทำรายได้มากที่สุด 3 อันดับแรก ยังคงอยู่ในภาคเกษตรกรรม ในสัดส่วนร้อยละ 21.25 พืชเศรษฐกิจสำคัญคือข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา รองลงมาคือสาขาขายส่ง ขายปลีก ร้อยละ20.70 และสาขาอุตสาหกรรม ร้อยละ 19.67ซึ่งยังคงกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มโรงโม่หิน

สนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม

ในส่วนของรายได้ต่อหัวของชาวบุรีรัมย์ ในปี 2556 อยู่ที่ 65,049.51 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.36% ซึ่งอยู่ที่ 57,894.32 บาท เริ่มขยับจากอันดับท้ายๆ ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 67 ของประเทศแล้ว

หากดูข้อมูลลึกลงไปอีกพบว่า อำเภอที่มีรายได้เฉลี่ยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ อำเภอโนนสุวรรณ 67,869 บาท/คน/ปี รองลงมาคืออำเภอพุทไธสง 60,771 บาท/คน/ปี และอำเภอหนองกี่ 60,008 บาท/คน/ปี

ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมา เศรษฐกิจเมืองบุรีรัมย์ยังคงพึ่งพารายได้จากภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก แต่ในช่วง 2-3 ปีนี้ พบว่าภาคบริการ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดรับกับโรดแมปการพัฒนาของภาคเอกชนที่มุ่งสู่การเป็นเมืองฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ต โดยตั้งเป้าเป็น "ฮับสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์" ของอาเซียนภายใน 5 ปี

จากนี้ไปจะมีแฟนบอล-รถแข่ง-บิ๊กไบก์ และนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเยือนเมืองบุรีรัมย์ปีละนับล้านคน โดยปีที่แล้วมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวกว่า 1,400 ล้านบาท

ส่วนภาคอุตสาหกรรมก็เริ่มมีโรงงานแปรรูปยางพาราเกิดขึ้นแล้วประมาณ 4 แห่งและมีโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์เข้ามาลงทุนอีกหลายแห่ง

วันนี้ประตูการลงทุนเมืองบุรีรัมย์ได้เปิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะ "ธุรกิจบริการ" ถือว่ามีศักยภาพโดดเด่นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่พัก ภัตตาคาร ร้านอาหาร สถานบันเทิงทั้งในเขตตัวเมืองและต่างอำเภอ เพื่อรองรับคลื่นนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในอนาคต รองลงมาได้แก่การขายส่ง ขายปลีก เช่น ศูนย์การค้า และอุตสาหกรรมการเกษตร เพราะมีพืชเศรษฐกิจสำคัญหลายชนิดทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา

เนวิน ชิดชอบ

"นที เจียรพันธุ์" ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า การเกิดขึ้นของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และการพัฒนาสนามไอ-โมบาย สเตเดียม ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยในปี 2556 มีจำนวนมากกว่า 1.7 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 1,500 ล้านบาท

นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดการลงทุนในธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก ร้านอาหาร สถานบันเทิงเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการจดทะเบียนจัดสรรติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ส่วนราคาประเมินที่ดินก็อยู่ในระดับ 1 ใน 5 ที่ปรับสัดส่วนเพิ่มขึ้น

"การพัฒนาโครงการของท่านเนวินสร้างความมั่งคั่งให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นหลักหมื่นล้าน เพราะมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น ตอนนี้เรามีโรงแรมระดับ 4 ดาวเกิดขึ้นแล้ว คือกลุ่มอมารี และกลุ่มเบสท์เวสเทิร์นก็เข้ามาซื้อที่ดิน 10 ไร่ข้างสนามแข่งรถ เตรียมที่จะสร้างโรงแรม หรือที่อำเภอประโคนชัยก็มีการลงทุนบูติคโฮเต็ลระดับ 4 ดาว ซึ่งทำให้บุรีรัมย์มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน แต่ต้องมีการจัดระบบเชื่อมโยงเป็นห่วงโซ่ธุรกิจ และพัฒนาระบบสาธารณูปโภครองรับด้วย"

บุรีรัมย์...เมืองแห่งความรื่นรมย์ กำลังเติบโตแบบมีเป้าหมายชัดเจน และที่สำคัญคือเป็นเดสติเนชั่นใหม่ที่คนไทยและต่างชาติต้องมาเยือนสักครั้ง..!