"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ถือปืนลูกซอง พร้อมป้องกันตัวเอง หลังโรงแรมโดนถล่ม

"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ถือปืนลูกซอง พร้อมป้องกันตัวเอง หลังโรงแรมโดนถล่ม

"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ถือปืนลูกซอง พร้อมป้องกันตัวเอง หลังโรงแรมโดนถล่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 25 มีนาคม เกิดเหตุคนร้ายสองคนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านด้านหน้าโรงแรมเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 ของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพในช่วงที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาและมีประกายไฟคาดว่าเป็นการยิงอาวุธปืนเข้ามาในโรงแรมประมาณ 5 นัด จนได้รับความเสียหายประมาณ 5 นัด ก่อนขี่หลบหนีไป

ต่อมานายชูวิทย์ได้มาตรวจสอบและชี้จุดที่เสียหายซึ่งเป็นกระจกบริเวณประตูทางเข้าห้องอาหารและกระจกของห้องอาหารได้รับความเสียหายทั้งแผ่น รวมทั้งเสาด้านในห้องอาหารที่มีรอยกระสุนปืนอยู่ พร้อมกล่าวว่า หลังจากนี้เตรียมจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ยืนยันว่าเหตุครั้งนี้ไม่ใช่การจัดฉากอย่างที่มีคนกล่าวหา และโดยส่วนตัวคาดการก่อเหตุครั้งนี้เป็นผลมาการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ระยะหลังมีการตั้งคำถามและวิจารณ์นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ผ่านทางเฟสบุ๊ค ชูวิทย์ I′m no.5 บ่อยครั้ง จึงทำให้มีผู้ที่ไม่พอใจ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่โดนลอบยิงที่โรงแรมในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง

นายชูวิทย์เปิดเผยอีกว่าเมื่อครั้งสมัยวิจารณ์รัฐบาลก็เคยโดนเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้ว และหลังจากนี้จะต้องป้องกันตัวเองมากขึ้น ซึ่งนายชูวิทย์ได้นำอาวุธปืนลูกซองแสดงให้เห็นว่าไม่มีความกลัวเราพร้อมจะปกป้องตัวเอง อย่างไรก็ตามนายชูวิทย์เปิดเผยทางออกของวิกฤตการเมืองในขณะนี้คือการเลือกตั้ง ส่วนจะลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่นั้นจะรอดูท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์เพราะในการลงแต่ละครั้งต้องใช้เงินส่วนตัว และเชื่อว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ลงจะไม่มีผลโมฆะ

บ้านป่าเมืองเถื่อน

แต่ก่อนสุเทพเดินเรียกแขกบริจาคเงิน คนให้แบงค์พัน เดินวันเดียวคุยว่าได้สองล้าน แต่ตอนนี้เดิน ได้แบงค์ยี่สิบ แบงค์ห้าสิบ เดินทั้งวันบอกได้แปดแสน ลดไปกว่าครึ่ง ยิ่งเดินยิ่งลด อีกหน่อยคงเหลือไม่กี่หมื่น ไม่ได้ลดเฉพาะจำนวนเงิน จำนวนคนในม็อบก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง กระแสหดหาย คนกรุงเทพฯหูตาสว่างขึ้น

กว่าสี่เดือนที่ผ่านมา คุณสุเทพไม่ประสบความสำเร็จในการล้มรัฐบาล แต่ประสบความสำเร็จในการทำลายประเทศ หากคุณสุเทพยกระดับการชุมนุมขึ้นอีก คงได้มีคนบาดเจ็บล้มตาย วางเทียนจุดธูปร้องห่มร้องไห้น้ำตาไหล เสร็จแล้วก็กลับไปเดินเรียกแขกใหม่

ผมฟังคุณสุเทพมาตลอด ยังคิดเหมือนนักการเมือง แสดงเหมือนนักการเมือง และพูดเหมือนนักการเมือง หากจตุพร ณัฐวุฒิพูดอะไร คุณสุเทพต้องเอาไปโต้ตอบบนเวทีทุกครั้ง ไม่ได้แตกต่างกับตอนที่คุณสุเทพอยู่ในสภา เป็น ส.ส. สุราษฎร์ธานี เลขาฯพรรคประชาธิปัตย์เลยสักนิด แตกต่างตรงที่ไม่ได้พูดในสภา แต่พูดอยู่ที่สวนลุมฯเวทีม็อบเท่านั้นเอง

เมื่อคืนมีคนร้ายยิงปืนใส่โรงแรมของผมแถวสุขุมวิทใจกลางเมือง เมื่อสองปีก่อนขณะที่ผมพูดเรื่องบ่อนการพนัน ก็มีคนมาปาระเบิดประทัดยักษ์ใส่โรงแรมข่มขู่ผม ตอนนี้ผมไม่ได้พูดเรื่องบ่อนการพนัน แต่พูดถึงทางออกของประเทศว่าควรไปเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินว่าต้องการอย่างไร

คุณสุเทพไปชี้เป็นชี้ตายให้กับคนไทยทั้งประเทศไม่ได้ ตอนนี้บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ทั้งปาระเบิดที่โน่น ยิงที่นี่ โดนกันทั่วหน้าทั้งศาล ป.ป.ช. ม็อบ จนถึงบ้านเรือนผู้คนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง จับมือใครดมไม่ได้ กฎหมายบ้านเมืองเป็นอัมพาตเพราะคุณสุเทพตั้งตนเป็นใหญ่ ปากบอกอหิงสา ไม่รุนแรง แต่เครือข่ายทั้งพระที่ไม่ยอมละทางโลก หลงกิเลสการเมืองไม่ยอมกลับวัด อีกทั้งพวกอ้างนักศึกษา ประชาชน สารพันกลุ่ม

เมื่อคนหนึ่งทำได้ อีกคนหนึ่งก็ทำบ้าง ไม่ต้องมีกฎกติกา คนไทยทุกคนจึงต้องปกป้องตัวเอง กลับไปสู่ยุคสมัยก่อน ใครมีอาวุธต้องจับขึ้นมาใช้คุ้มครองครอบครัวและทรัพย์สิน

ผมนึกว่ากฎหมายจะคุ้มครองผมได้ แต่เมื่อเป็นอย่างนี้เสียแล้ว ผมคงต้องคุ้มครองตัวเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook