นายกรัฐมนตรี หวังศาลรธน. เป็นธรรม ยัน โยกย้าย 'ถวิล' ยึดตาม กม. ยอมรับหนักใจ ป.ป.ช. ตัดพยานคดีจำนำข้าว ปัดทำผิดตามข้อกล่าวหา โยนประชาชนชี้ให้อยู่หรือไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง ส.ว. วินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี มิชอบ และให้ชี้แจงใน15 วัน โดยยืนยันว่า ตนทำตามขั้นตอนการแต่งตั้งโยกย้ายทุกประการ ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมให้เหมือนบุคคลที่ถูกกล่าวหาคนอื่นๆ ด้วย ขณะที่ยอมรับว่า มีความหนักใจเรื่องระยะเวลาในการชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. กรณีโครงการรับจำนำข้าวที่ถูกตัดพยานจาก 11 ปาก เหลือเพียง 3 ปาก เท่านั้น โดยจะทำตามกลไกที่เหลืออยู่อย่างเต็มที่ ยืนยันว่า ไม่ได้ดำเนินการใดๆ อย่างที่ถูกกล่าวหา พร้อมปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานขององค์กรอิสระที่ดูเหมือนเร่งรัดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งส่วนตัวขอทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตย โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ว่าจะให้ตนไม่มีที่ยืน หรือจะให้เดินหน้าทางการเมืองต่อไป
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี โดยขอให้ทุกฝ่ายน้อมนำพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ยึดความถูกต้อง ยุติธรรม ให้เกิดความเท่าเทียมกัน เพื่อจะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข
นกหวีดเป่าไล่นายกที่สุพรรณเกือบปะทะแดง
ในช่วงบ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อ
หลักเมืองสุพรรณบุรี ก่อนเข้าสักการะหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ทั้งนี้พบว่า มีกลุ่ม กปปส. กว่า 20 คน เป่านกหวีดขับไล่ที่ด้านนอกศาลหลักเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน คอยควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการปะทะกัน ระหว่างกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ที่มารอต้อนรับอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ที่เกือบจะมีการเผชิญหน้ากัน แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) ของกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อประชุมการพัฒนาและเพิ่มผลผลิตข้าว ให้สอดคล้องกับลักษณะความเหมาะสมตามแนวคิดเกษตรโซนนิ่ง และภัยแล้งลุ่มน้ำภาคกลาง
-------------------------------------------------------------
นายกฯถึงสุพรรณ'บรรหาร-ยุคล'รอรับ-กปปส.เป่านกหวีดไล่
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=528060