ชาวปากน้ำโพยื่นถวายฎีกาค้านย้ายปลัดมท.เทพเทือกตอบไม่ถูกถามคนใกล้ชิดเนวินกินรวบบอร์ด รสก.

ชาวปากน้ำโพยื่นถวายฎีกาค้านย้ายปลัดมท.เทพเทือกตอบไม่ถูกถามคนใกล้ชิดเนวินกินรวบบอร์ด รสก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ชาวนครสวรรค์ ยกพลยื่นถวายฎีกาคัดค้านการย้ายปลัดมท.รบ.ยันไม่คิดปลดขรก.ระดับสูงจัดการพวกรับใช้การเมือง นิพนธ์ปัดเกาเหลาอภิสิทธิ์ยันนั่งเลขาธิการนายกฯต่อ แฉหนังสือย้าย ปลัดมหาดไทย ส่อพิรุธตัวหนังสือ 2 ฉบับใช้เลขไม่เหมือนกัน อดีตผู้ว่าฯ ชาวนครสวรรค์ 800คนบุกยื่นถวายฎีกาคัดค้านย้ายพีรพล

ที่หน้าพระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 มกราคม กลุ่มสตรีจังหวัดนครสวรรค์ 13 คันรถบัส กว่า 800 คน นำโดยนางกาญจนา สื่ออยู่ยง ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดนครสวรรค์ เดินทางมายื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านสำนักราชเลขาธิการ โดยนางกาญจนา กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือถวายฎีกา ก็เนื่องจากได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชน และการให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ระบุว่าการย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อประโยชนของการทำงานในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทำให้กลุ่มสตรีเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเท่าที่นายพีรพล เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯนครสวรรค์เป็นเวลา 2 ปี ได้ประกาศตัวจะเป็นพ่อเมืองตามพระบรมราโชวาท และก็ทำงานด้วยดีมาตลอด ดังนั้นการกระทำเช่นนี้ไม่ยุติธรรม และทำให้นายพีรพลเสื่อมเสียเกียรติของข้าราชการประจำที่ปฏิบัติงานด้วยดีมาตลอด และจะทำให้ความสมานฉันท์ที่ต้องการกันไม่สามารถเกิดขึ้นได้

นางกาญจนา กล่าวว่า กลุ่มสตรี จึงขอยื่นถวายฎีกาเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย และขอพระบารมีของพระองค์ท่านช่วยคุ้มครองข้าราชการที่ทำงานมาด้วยดีตลอดมา ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการเดินทางมาครั้งนี้ไม่มีผู้ใดอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นตัวของนายพีรพลเอง เพราะกลุ่มสตรีนั้นได้ลงขันกันมาเอง ไม่มีการสนับสนุนเงินทุนจากที่ไหนทั้งสิ้น รวมทั้งหากการเคลื่อนไหวครั้งนี้หากส่งผลกระทบต่อผู้ว่าฯนครสวรรค์คนปัจจุบันก็จะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะท่านเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้เรื่องด้วยเลยทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มสตรีที่มานั้น ทางสำนักพระราชวังไม่อนุญาตให้ทุกคนเข้าไปยื่นถวายฎีกาได้ ทางกลุ่มจึงส่งตัวแทนเข้าไปในสำนักเลขาธิการ โดยส่วนที่เหลือจึงเข้าไปไหวพระในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)แทน

เทพเทือกตอบไม่ถูกคนใกล้ชิดเนวินกินรวบบอร์ดรสก. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการโยกย้ายปลัดมหาดไทย เป็นรายการคุณขอมาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครใช้คำว่าคุณขอมา แต่เรื่องนี้ตนกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย ได้ปรึกษากัน เมื่อต้องขอตัวมาทำเนียบฯ ตนต้องเป็นผู้เสนอขอ และให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนาม

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการกินรวบตำแหน่งสำคัญในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ (รสก.) สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยตั้งคนใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน เข้าไป รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถามอย่างนี้ตอบไม่ถูกเลย

เมื่อถามว่า จะป้องกันไม่ให้คนของนักการเมืองเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ได้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า "ให้เขาแสวงหาประโยชน์ให้เห็นก่อน ถึงจะไปดำเนินการได้ ถ้าพูดไปอย่างนี้จะเป็นการสบประมาทเขา รสก. สังกัดกระทรวงไหน รัฐมนตรีก็ต้องดูแล ผมคงไม่เข้าไปก้าวก่าวแทรกแซง แต่ถ้ามีเสียงร้องเรียนเข้ามาว่ารสก. ชุดไหนกระทำการโดยมิชอบ เราค่อยเข้าไปดูแล

รบ.ยันไม่คิดปลดขรก.ระดับสูงจัดการพวกรับใช้การเมือง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์การล้างบางข้าราชการในสายขั้วอำนาจเก่า หลังมีการโยกนายพีรพล ไตทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นรายแรก ว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดจะปลดข้าราชการระดับสูง เพราะนั่นหมายความว่าข้าราชการต้องกระทำความผิด ต้องถูกสอบสวน แต่การโยกย้ายไปอยู่ที่เหมาะสมกว่า ถือเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ยังมีซีเท่าเดิม มีงานให้ทำเหมือนเดิม ซึ่งในสมัยรัฐบาลชุดก่อน ไมว่าจะเป็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมัคร สุนทรเวช และพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ทำมาทั้งนั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงอื่นๆ นอกจากกระทรวงมหาดไทย

"คนวิจารณ์เพราะเอานิสัยเดิมๆ มากล่าวหาคนอื่น ต้องไปดูก่อนว่าข้าราชการเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ผมไม่สนใจหรอก เพราะถือว่าข้าราชการต้องทำตัวเป็นข้าราชการของประชาชน เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าข้าราชการทำตัวดีก็สามารถเป็นหลักของบ้านเมือง เป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ ถ้าข้าราชการไปยอมสยบ เอาใจนักการเมือง รับใช้นักการเมือง จนลืมภาระหน้าที่และเกียรติยศศักดิ์ศรีตัวเอง มันก็ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าเรามีข้าราชการอย่างนั้น เราก็ต้องจัดการ นายสุเทพกล่าว

สุชาติปรี่ตะเบ๊ะเทพเทือกสะพัดถูกโยกเข้ากรุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับหนังสือจากกลุ่มรักประชาธิปไตยสนามหลวง (กปส.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชุมนุมเกาะติดอยู่ข้างรั้วทำเนียบรัฐบาลตลอด เข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นแถลงการณ์ฉบับที่ 5เสร็จสิ้นแล้ว จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่เดินทางมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ลงจากรถที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อพูดคุยกับนายสุเทพ ขณะที่พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.ซึ่งมีข่าวลือหนาหูว่าอาจถูกโยกย้ายเข้ากรุนั้นเข้าทำความเคารพนายสุเทพ แต่นายสุเทพยืนคุยเพียงเล็กน้อยก่อนโดดขึ้นรถออกไป

จากนั้นพล.ต.ท.สุชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงอาจถูกโยกย้ายว่า ไม่เป็นไรทำงานไปตามหน้าที่ ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะอดีตผบช.น.ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า คนที่สั่งให้มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 คือพล.ต.ท.สุชาตินั้น ผบช.น.กล่าวว่า ไม่รู้ว่าพล.ต.ท.อัศวินพูดว่าอย่างไร เมื่อถามย้ำว่าพล.ต.ท.อัศวินระบุเช่นนั้นจริงๆ พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า "อ๋อเหรอ ผมไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่เป็นไร

นิพนธ์ปัดเกาเหลาอภิสิทธิ์ยันนั่งเลขาธิการนายกฯต่อ

นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 22 ม.ค. โดยยืนยันถึงกระแสข่าวการจะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ใช่เรื่องจริง และตนก็ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามสามารถพูดจาทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีจนขจัดปัญหาคาใจที่เกิดขึ้นได้แล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะเดินหน้าทำงานต่อไป

คนมหาดไทยมึนหนังสือเด้ง-ตั้งส่อพิรุธ

ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม มีหนังสือจากสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ส่งมายังกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร อดีตผู้ว่าราชการจ.กำแพงเพชรถึงประธานวุฒิสภา เพื่อตั้งกระทู้ถามด่วนนายกรัฐมนตรี ให้ชี้แจงเหตุผลในที่ประชุมวุฒิสภา กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะเพิ่งจะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ตามมติครม. เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 และการย้ายครั้งนี้ถือว่าเป็นธรรมตามกฎหมายและเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือไม่

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า บรรดาข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ตั้งข้อสังเกตการออกหนังสือย้ายนายพีรพล และแต่งตั้งนายวิชัย ในตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา สงสัยว่า อาจจะไม่ใช่หนังสือที่ออกมาจากกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเลขหนังสือที่ออก ในฉบับแรก ที่เป็นหนังสือแต่งตั้งโยกย้ายนายพีรพล เลขที่ มท. 0100 / 222 ส่วนคำสั่งแต่ตั้งนายวิชัย เลขที่ มท. 0100 / 502 ซึ่งหนังสือทั้ง 2 ฉบับ เป็นหนังสือลับ และลงวันที่ 20 มกราคม 2552 เหมือนกัน หากออกที่กระทรวงมหาดไทยจริง ตัวเลขหนังสือจะต้องไม่ห่างกันถึง 280 เลข เพราะกระทรวงมหาดไทย ไม่มีการทำหนังสือลับมากมายขนาดนั้นในวันเดียว

อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ตัวหนังสือของหนังสือทั้ง 2 ฉบับ เป็นคนละแบบกัน ฉบับหนึ่งเป็นตัวเลขไทย และอีกฉบับเป็นตัวเลขอารบิค ทำให้เชื่อได้ว่า คนออกหนังสือต้องออกจากคนละที่และคาดว่าหนังสือดังกล่าวออกจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนำมาให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เซ็นก่อนจะเข้าประชุมครม. เพียงไม่ถึงชั่วโมงรายงานข่าวระบุ

นายกฯปัดกลุ่มเนวินกดดันเด้งปลัดฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลมีเหตุผลที่จะชี้แจงศาลปกครองหาก นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)และจะยื่นศาลปกครอง กรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบคำสั่งให้ย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้สัมภาษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มกราคม ว่า การย้ายรัฐบาลไม่ได้กล่าวหาว่ามีความผิด และคงจะได้พูดคุยกับนายพีรพล เมื่อมารายงานตัวที่ทำเนียบ และยังปฏิเสธกระแสข่าวรัฐมนตรีกลุ่มเพื่อนเนวินอยู่เบื้องหลังการกดดันให้ย้าย เพราะ ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องการกดดันอะไร

ต่อมาเวลา 09.00น. นายอภิสิทธิ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน (กรอ.) ทั้งนี้มี นายวิชัย ศรีขวัญ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมประชุมด้วย โดยก่อนการประชุมนายอภิสิทธิ์เข้าไปแสดงความยินดีกับนายวิชัยด้วย

ปลัดมหาดไทยใหม่รับหนีการเมืองไม่พ้น

นายวิชัย กล่าวภายหลังประชุมถึงเสียงวิจารณ์ได้รับตำแหน่งเพราะการเมืองและเป็นคนจังหวัดเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่า ไม่ลำบากใจและไม่หนักใจ เมื่อเป็นข้าราชการก็ต้องทำตามคำสั่งและนโยบายรัฐบาล ยืนยันหลังจากได้รับการแต่งตั้งยังไม่ได้เจอนายสุเทพเลย กระทรวงมหาดไทยมียุทธศาสตร์วางไว้แล้ว สามารถทำงานต่อได้เลย และพร้อมพูดคุยกับนายพีรพล ในเรื่องการทำงาน เป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่าเมื่อมาจากการเมือง อนาคตถ้ามีการเปลี่ยนแปลงต้องถูกกย้าย นายวิชัย กล่าวว่า ไม่ห่วง เป็นข้าราชการต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่คิดว่าตำแหน่งที่ได้รับเป็นเผือกร้อน

นายวิชัย กล่าวว่า เรื่องแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองในทุกๆ ตำแหน่ง อย่างตำแหน่งของปลัดกระทรวงก็ต้องเสนอโดยรัฐมนตรีต่อ ครม.เช่นเดียวกับตำแหน่งผู้ว่าฯ และอธิบดี ปลัดกระทรวงก็เป็นผู้เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อ ครม.ดังนั้น มันก็ต้องเกี่ยวกับการเมืองหนีไม่พ้น เมื่อถามส่วนตัวเมื่อรับตำแหน่งแล้วจะเสนอปรับย้ายใครหรือไม่เพื่อทำงานได้สะดวก นายวิชัย หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ไม่มีการทำเช่นนั้น

ถ้าพูดว่าเป็นการสนองตอบนักการเมืองก็ถูก ไม่ผิด เพราะเมื่อรัฐบาลมีนโยบายอะไรก็ทำตามนโยบายนั้นๆ เปรียบเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ฝ่ายการเมืองเป็นผู้มอบนโยบาย ส่วนฝ่ายข้าราชการประจำต้องไปทำงานให้สำเร็จ

มท.1ชี้โยกย้ายขรก.เรื่องปกติ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ หากนายพีรพล รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่จะฟศาลชั้นต้น ศาลทั่วไป หรือศาลปกครอง ส่วนความเหมาะสม ที่แต่งตั้ง นายวิชัยเป็นปลัดกระทรวงคนใหม่แทนนั้น มีการพิจารณามาก่อนแล้ว และนายสุเทพ รองนายกฯก็เห็นว่าเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย

นายชวรัตน์ กล่าวว่าการโยกย้ายข้าราชการประจำ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเริ่มมีในรัฐบาลนี้ แต่เป็นเรื่องของความจำเป็นในแต่ละกระทรวงซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำงาน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือมีอคติ และไม่ได้ถูกใครกดดัน เพราะทำงานกับใครก็ได้ เมื่อนายสุเทพสุเทพ เห็นว่า นายพีรพล มีความจำเป็นตนก็ไม่ได้ขัดข้อง ส่วนนายพีรพลต้องการทำงานที่สำนักนายกฯหรือไม่นั้น เห็นว่าต้องเคารพผู้บังคับบัญชา

การที่ตั้งนายวิชัย ขึ้นเป็นปลัด ไม่เกี่ยวกับทหาร แต่พิจารณาจะลำดับอาวุโส ส่วนการที่รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่า เมื่อเข้ามาย้ายคนของรัฐบาลเก่านั้น ถามหน่อยว่ามีรัฐบาลชุดใดบ้างที่ไม่มีการย้าย

ลั่นขอรับผิดเองหากย้ายไม่ชอบ

ส่วนการย้ายปลัดมหาดไทยเหมือนเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่สนองนโยบายของรัฐ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ การทำทุกอย่างเป็นหน้าที่ เหมือนเกมกีฬา จะต้องมีการชิงเหรียญทอง ดังนั้นต้องเล่นให้ดีที่สุด หากทำไม่ดีก็ต้องพิจารณาตัวเอง แม้กระทั่งตนก็เช่นกัน และก็ต้องเดินไปตามเกมจนกว่าจะได้เหรียญทองเช่นกัน ส่วนการย้ายครั้งนี้จะเป็นการกดดันผู้ว่าฯหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล คนที่ทำงานในหน้าที่ที่ถูกมอบหมายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การทำงานอย่างกลัวเก้าอี้ หากกลัวจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

เมื่อถามว่าหากโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จะกระทบความน่าเชื่อถือหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผมจะต้องพิจารณาตัวเอง และยอมรับขณะนี้ตกเป็นเป้าโจมตีฝ่ายค้านอยู่แล้ว

สุเทพฒ ย้ำเด้งเพื่อความเหมาะสม

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯกล่าวถึงนายพีรพลจะ อุทธรณ์คำสั่งโยกย้าย และฟ้องศาลปกครอง ว่า ไม่กังวลใจ มีสิทธิดำเนินการได้ ต้องดูว่าไม่เป็นธรรมตรงไหน เพราะโยกย้ายเพื่อความเหมาะสม ในการปฏิบัติราชการไม่ได้ไปกล่าวหาว่าร้ายใคร แต่การย้ายไปทำงานที่ทำเนียบเพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่อราชการมากกว่า ส่วนที่บางฝ่ายมองว่ามีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องนั้น นั่นเป็นข่าวลือ ข่าวลือมีทุกวัน ส่วนกระแสข่าวการโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็เป็นเพียงข่าวลือ

ส่วนจะมีการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งผู้ว่าฯอีกหรือไม่ โดยเฉพาะสิงห์ขาว (ผู้ที่จบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) นายสุเทพกล่าวว่า ต้องไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นเรื่องที่จะเห็นสมควรว่าจะทำหรือไม่ทำ เมื่อถามว่า ขณะนี้ผู้ว่าฯบางจังหวัด ยังใกล้ชิดกับขั้วอำนาจเก่า นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้กังวล แต่ที่คำนึงคือประสิทธิภาพ ประสิทธิผลการทำงาน

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้กลั่นแกล้งนายพีรพล ส่วนเหตุผลการย้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด เป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า ตำแหน่งของคุณพีรพลต้องมารองรับที่สำนักนายกฯ เป็นที่ปรึกษานายกฯโดยทางก.พ.จัดสรรไว้ ตั้งแต่รัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ใช้ไม่ครบ เรียกว่าตำแหน่งที่สอง เพื่อรองรับข้าราชการระดับ 11 เพราะโยกย้ายจะต้องตัดขาดจากตำแหน่งเดิมเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามารับตำแหน่งใหม่โดยไม่ต้องรักษาการ

พท.ซัดใช้อำนาจรังแแกขรก.

ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักชัยกุล ส.ส.เขียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจรังแกข้าราชการ ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ที่ห้ามรัฐมนตรีก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ ขอตั้งข้อสังเกตว่า การโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคพลังประชาชนเดิม เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า มีการเตรียมการปลดพล.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ และ ข้าราชการอีกหลายหน่วยงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook