สิงคโปร์ทุ่มงบหยุดถดถอย-ตกงาน

สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ หว่านงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล หวังหลุดพ้นภาวะถดถอย และป้องกันไม่ให้ประชาชนตกงาน

นายธาร์มาน ชานมูการัตนัม รัฐมนตรีคลังสิงคโปร์ เปิดเผยว่า สิงคโปร์ได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 20,500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (13,630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเงินจำนวนดังกล่าวบรรจุอยู่ในงบประมาณประจำปี 2552 นายชานกูการัตนัม กล่าวว่า จุดมุ่งหมายหลักของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวก็เพื่อช่วยชาวสิงคโปร์ไม่ให้ตกงานนั่นเอง แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ทำให้สิงคโปร์หลุดพ้นจากภาวะถดถอย แต่จะหลีกเลี่งความเสียหายไม่ให้รุนแรงมากไปกว่านี้

ส่วนเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ เผยว่า รัฐสภาผ่านร่างงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.415 ล้านล้านเปโซ (ราว 1.06 ล้านล้านบาท) ประกอบด้วยโครงการใช้จ่ายขนานใหญ่เพื่อยับยั้งไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย คาดว่าประธานาธิบดี กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ของฟิลิปปินส์ จะลงนามร่างงบประมาณดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ งบประมาณดังกล่าว ประกอบด้วยงบรายจ่ายมูลค่า 300,000 ล้านเปโซ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน งบกระตุ้นเศรษฐกิจนี้กำหนดเพดานการขาดดุลงบประมาณไว้ที่ 102,000 ล้านเปโซ และตั้งเป้าว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.7-4.7

ขณะเดียวกัน ชาวฟิลิปปินส์ 60,000 คนอาจตกงาน หลังจากอินเทล คอร์ป ผู้ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ รายใหญ่สุดของโลก ประกาศแผนการปิดโรงงานในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์และสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยอินเทล ฟิลิปปินส์แถลงชี้แจงเหตุผลของการปิดโรงงานว่าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ บริษัทโซนี คอร์ป บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ปรับลดการคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีลงเมื่อวันพฤหัสบดี คาดจะขาดทุนมหาศาลเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี เพราะยอดขายตกต่ำและค่าเงินเยนแข็ง.