เลขาฯ ส.ป.ก.ดึงชาวบ้านแจ้งสวมสิทธิ ย้ำเคร่งครัด กม.

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ถึงแนวทางจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร ว่า ได้มอบนโยบายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไปแล้วว่า การดำเนินงานต้องเน้นความถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่าพื้นที่ไหนมีปัญหาการสวมสิทธิที่ดิน เกษตรกรนำที่ดินไปขายให้คนอื่น ที่ดินที่ได้รับแจกไปไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ หรือการใช้ที่ดินผิดประเภทต้องเข้าไปจัดการทันที

นายธีระ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเรื่องการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ของเกษตรกร ค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากที่ดินที่ ส.ป.ก.จัดสรรให้เกษตรกรไปแล้ว มีมากถึง 30 ล้านไร่ ขณะที่อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.มีไม่เพียงพอ ภารกิจงานประจำก็มีมาก การจะให้เข้าไปตรวจสอบที่ดินทั้งหมดเป็นรายแปลง คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก โดยคอยเป็นหูเป็นตาให้ราชการ หากพบความผิดปกติก็ขอให้นำข้อมูลมาแจ้งให้รับทราบ เพื่อที่จะเข้าไปจัดการให้ถูกต้อง เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้มอบนโยบายให้ ส.ป.ก.ไปแล้วว่าควรดึงประชาชนในพื้นที่เข้ามาร่วมมากขึ้น โดยเป็นแนวร่วมในการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ นายธีระกล่าว

นายธีระ ยังกล่าวถึงการเข้าไปกว้านซื้อที่ดินของนายทุน เพื่อนำมาขายต่อในราคาแพงให้โครงการธนาคารที่ดินว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากกระบวนการจัดซื้อที่ดินจะพาเกษตรกรไปดูพื้นที่จริง ก่อนทำสัญญาเช่าหรือเช่าซื้อ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เกษตรกรจะยินยอมซื้อที่ดินราคาแพงกว่าราคาจริง

ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเป้าหมายการจัดซื้อที่ดินถึงอยู่เฉพาะในเขตภาคกลาง เป็นเพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้มีความพร้อมในเรื่องสาธารณูปโภค โดยเฉพาะน้ำ เมื่อจัดซื้อที่ดินไปแล้ว เราก็ไม่ต้องไปเสียงบประมาณสร้างระบบน้ำในพื้นที่นี้อีก ที่สำคัญยังจะเป็นการช่วยรักษาที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการทำการเกษตร ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของนายทุนที่มักจะนำไปเก็บไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไร นายธีระกล่าว