"เด็จพี่" โต้ข่าวลือ แจง "คนตระกูลชินวัตร-บิ๊กพท." ยังเดินหน้าทำกิจกรรมการเมืองอยู่ในประเทศไทย

"เด็จพี่" โต้ข่าวลือ แจง "คนตระกูลชินวัตร-บิ๊กพท." ยังเดินหน้าทำกิจกรรมการเมืองอยู่ในประเทศไทย

"เด็จพี่" โต้ข่าวลือ แจง "คนตระกูลชินวัตร-บิ๊กพท." ยังเดินหน้าทำกิจกรรมการเมืองอยู่ในประเทศไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า หลังจากทหารประกาศกฎอัยการศึกที่ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งแกนนำพรรคประเมินว่ามีลักษณะคล้ายรัฐประหารซ่อนรูป ทำให้ตลอดทั้งวันคนในตระกูลชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย ทยอยเข้าเซฟเฮ้าส์หรือเริ่มเดินทางออกนอกประเทศบ้างเเล้ว อาทิ นายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปยังกัมพูชา โดยอ้างว่าไปเยี่ยมลูกเขย ลูกสาว ขณะที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และบุตรทั้ง 3 คน ไม่ได้พักบ้านจันทร์ส่องหล้า จรัญสนิทวงศ์ 69 โดยหลบไปพักยังเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง และขอประเมินสถานการณ์สักระยะ หากส่อเค้ารุนแรงอาจเดินทางไปต่างประเทศ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางคนได้หลบไปยังแนวตะเข็บชายแดนแถวภาคเหนือ ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางไปพักแถวแนวชายแดนแล้วเช่นกัน

ต่อมา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า ตามที่มีรายงานผ่านสื่อมวลชนว่าภายหลักการประกาศกฎอัยการศึก มีคนในตระกูลชินวัตรและแกนนำพรรคเพื่อไทยหนีออกนอกประเทศ พรรคขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แกนนำและพรรคยังคงทำงานตามปกติ โดยยังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เมื่อรัฐธรรมนูญคงอยู่ รัฐบาลรักษาการยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ทั้งนี้ ตนแปลกใจการทำงานและท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ กรณีนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว การกระทำดังกล่าวทำให้ตนผิดหวังกับการทำงานของนายนิพิฎฐ์และพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอสิ่งที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ขัดต่อกระแสโลกที่ต่อต้านการทำรัฐประหาร การที่นายนิพิฎฐ์ออกมาสนับสนุนรัฐประหารครั้งนี้ หวังเพียงต้องการล้มรัฐบาลเท่านั้น

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา เข้าชื่อ ส.ว.จำนวน 32 คน ขอให้รักษาการประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคณะรัฐมนตรีได้กระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามาตรา 182(7) หลังพบว่าคณะรัฐมนตรีออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ร้ายแรงตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการเสนอเพื่อต้องการล้มรัฐบาล และเป็นเกมการเมืองที่ต้องการให้เกิดสุญญากาศ นายไพบูลย์ควรยุติการกระทำให้การเมืองเขาสู่ภาวะสุญญากาศ ควรยุติการดำเนินการนำไปสู่สุญญากาศเพื่อเป็นช่องทางให้เสนอนายกฯ คนกลาง ถือเป็นการขัดรัฐธรรมนูญและไม่ฟังเสียงประชาชน แต่ควรฟังตัวแทนทุกภาคส่วนหารือเพื่อหาทางออก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook