หมอกลงจัด เรือบรรทุกสินค้าชนสนั่นเจ้าพระยา ม้าเหล็กบดหญิงเฒ่าวัย 88 ดับ

หมอกลงจัด เรือบรรทุกสินค้าชนสนั่นเจ้าพระยา ม้าเหล็กบดหญิงเฒ่าวัย 88 ดับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หมอกลงจัดในหลายพื้น ทำเรือบรรทุกสินค้าชนกันสั่นกลางเจ้าพระยา รถไฟชนหญิงชราวัย 88 ปีเสียชีวิต แพทย์ชี้ไม่เป็นอันตราย ระวังเด็ก-ผู้สูงอายุพื้นที่หนาวทำตัวอบอุ่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าตรู่วันที่ 24 มกราคมหลายมีหมอกปกคลุมในหลายพื้นที่ของประเทศไทยทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรไปมาและเกิดอุบัติเหตุหลายแห่ง ที่อำเภอพระประแดง จังหวดสมุทรปราการนเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ สัญชาติปานามา ชื่อโกลด์เด้นซ์ซีเวย์ บรรทุกปลาจากต่างประเทศ เพื่อจะไปขึ้นที่ท่าเรือคลองเตย ชนกับเรือบรรทุกสินค้าตู้คอนเทนเนอร์เปล่าขนาดใหญ่ ชื่อกั๊วหลุง สัญญาติเดียวกัน วิ่งจากออกจากท่าเรือคลองเตย เพื่อจะไปเกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยหัวเรือด้านซ้ายโกลด์เด้นซ์ซีเวย์บุบพังเสียหายพังทั้งแถบ สเรือกั๊วหลุงบริเวณกาบด้านซ้ายช่วงท้ายและตัวเก๋งบุบพังเสียหายจำนวนมากเช่นกันและเรือกั๊วหลุงเสียหลักไปชนกับเรือลากจูงโป๊ะเหล็ก บรรทุกแร่ทองแดงจมหายไปในน้ำ 1 ลำ และเรือกั๊วหลุงยังเสียหลักไปชนกับเรือลากจูงชื่อพรฤทัยเจริญทรัพย์จมอีก 1 ลำ โดยมีผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเรือพรฤทัยเจริญทรัพย์ 1 คน ชื่อ น.ส.สานิ สระแก้ว อายุ 17 ปี

ที่จุดหยุดรถไฟอโศกตัดเพชรบุรี ถ.กำแพงเพชร 7 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. รถไฟคลังสินค้า ขบวนที่ 896 วิ่งจากหัวตะเข้ - บางซื่อชนนางนิภา ชุณหสิริ อายุ 88 ปี เสียชีวิต สภาพสภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อลายดอกสีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลแตกที่ศรีษะ คอหักบริเวณแขนมีเนื้อหลุดยุ่ยออมา นายยงยุทธ รวยสิน พนักงานขับรถไฟ ให้การว่า ขณะขับรถไฟมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ก็ให้สัญญาณเปิดหวู๊ดเสียงดังและจุดข้ามแยกก็มีสัญญาณกั้น ช่วงนั้นมีหมอกลงหนามาก ทำให้มองเห็นผู้ตายเดินข้ามรางรถไฟอย่างกระชั้นชิด ทำให้เบรคไม่ทัน จนพุ่งเข้าชนผู้ตายกระเด็นศรีษะกระแทกพื้นเสียชีวิตดังกล่าว

บริเวณท่าน้ำวัดบางนานอก เรือเล็กลากจูงบรรทุกทราย 2 ลำชนกัน มีลูกเรือพลัดตกลงน้ำ 4 คน แต่สามารถว่ายขึ้นมาจากน้ำได้ปลอดภัย และมีเรือที่ใช้ลากจูงทรายจมหายไป 1 ลำ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย จาการสอบสวนลูกเรือทราบว่า ขณะเกิดเหตุเรือทั้ง 2 ลำได้วิ่งตามกันมา แต่ด้วยบรรยากาศที่มีหมอกลงจัด ทำให้กะระยะได้ลำบาก เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ได้ก็เกิดชนกันดังกล่าว

นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงหมอกที่ปกคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศว่า หากจำแนกหมอกที่เกิดขึ้นในช่วงนี้นั้น เป็นหมอกที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนมาปะทะกับอากาศเย็น ทำให้เกิดหมอกหนา แต่หมอกดังกล่าวแตกต่างจากหมอกควันที่เกิดขึ้นจากควันไฟ ที่จะมีฝุ่นควันจากขี้เถ้าและความร้อน ดังนั้น หมอกจากสภาพอากาศจึงไม่เป็นอันตราย แต่ผู้ที่อาศัยในพื้นที่หนาวเย็น โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ควรเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย โดยสวมใส่เสื้อกันหนาวหรือห่มผ้า

ผู้ที่มีโรคประจำตัวระบบทางเดินหายใจ ควรระมัดระวังตัวทำร่างกายให้อบอุ่นด้วย เพราะสภาพอากาศดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะให้เพิ่มวามระมัดระวัง เนื่องจากหมอกจะบดบังทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะลดลง

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย ประเทศไทยตอนบนมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ฉบับที่ 27 ( 27 / 2552 ) ลงวันที่ 24 มกราคม 2552 ว่า เนื่องจากในระยะ 1 - 2 วันนี้ (24 - 25 ม.ค. 2552) ลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศชื้นกับมวลอากาศเย็นและแห้ง ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีหมอกหนาและหมอกลงจัดในหลายพื้นที่ในช่วงเวลา 06.00 - 10.00 น. รวมทั้งมีฝนเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นในแนวราบต่ำกว่า 100 เมตรลงมา จะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง การคมนาคมและขนส่งในช่วงเวลาดังกล่าวได้ จึงขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้เดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกลงจัด โดยการเปิดไฟตัดหมอกสีเหลือง และลดความเร็วลงในขณะขับขี่ยานพาหนะในบริเวณที่มีหมอกหนาหรือหมอกลงจัดไว้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook