ขู่ประจานชื่อส.ส.ไม่รู้หน้าที่โดดร่ม กันสภาล่มซ้ำรอยอีก วิปรบ.เชื่อสายบัญญัติหายไม่มีนัยยะการเมือง
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม ถึงการออกมาตรการควบคุมเสียง ส.ส.รัฐบาล โดยกำหนดให้วิปของแต่ละพรรค 1 คน ดูแล ส.ส.5 คน เพื่อแก้ไขปัญหาองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่ครบว่า หน้าที่ของวิปรัฐบาลมีเพียงประสานงานวาระการประชุมจะมีอะไรบ้างเท่านั้น ไม่ใช่หน้าที่การนำ ส.ส.เข้าประชุม เพราะเป็นเรื่องของแต่พรรคจะไปจัดการกันภายในเอง แต่มีข้อเสนอที่น่าสนใจจาก น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ให้ใช้มาตรการทางสังคมกดดันคนโดดประชุมด้วยการเปิดชื่อว่าใครไม่เข้าประชุมบ้างผ่านทางสื่อมวลชน เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่เห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ทำหน้าที่ผู้แทน ทั้งที่ก่อนจะเข้ามาต่างก็อยากเป็น ส.ส.กันทั้งนั้น นอกจากนี้วิปรัฐจะนำบันทึกการประชุมแจกจ่ายไปให้แต่ละพรรคด้วย
อาจนำระบบห้องเย็นอบรมกลับมาใช้อีกครั้ง
ส่วนมาตรการห้องเย็นนั้น นายชินวรณ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็น แต่เป็นมาตรการที่น่าสนใจที่พรรคร่วมรัฐบาลน่าจะนำไปใช้ โดยสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เคยใช้วิธีปิดห้องอบรม ส.ส.ที่ไม่เข้าประชุมบ่อยๆ จน ส.ส.เหล่านั้นต่างขยาด และเรียกวิธีดังกล่าวว่า ห้องเย็น มาแล้ว
ตามปกติการเสนอนับองค์ประชุมจะทำก่อนประชุม หรือระหว่างพิจารณากฎหมายสำคัญเท่านั้น ถ้าฝ่ายค้านทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ คนจะมองได้ว่าป่วนการประชุมสภา แต่เท่าที่คุยมีแค่บางคนเท่านั้นที่ป่วน เหมือนกับที่ ร.ต.ท.เชาวริน (ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย) บอกเองว่า ยังทำใจกับการเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ นายชินวรณ์กล่าว
อ้างสายบัญญัติไม่ร่วมประชุมไม่มีนัยยะ
เมื่อถามถึงรายชื่อ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่โดดประชุมส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ที่อกหักจากตำแหน่งรัฐมนตรี และอยู่ในสายของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ถือเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของความชะล่าใจมากกว่า เพราะขณะนั้นกำลังพิจารณาวาระเพื่อทราบเท่านั้น ไม่ใช่การพิจารณาเรื่องสำคัญ
เมื่อถามย้ำว่า แม้แต่นายบัญญัติเองก็ไม่อยู่ในห้องประชุม นายชินวรณ์อึกอักเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า ท่านบัญญัติช่วงแรกก็ยังอยู่ในห้องประชุมตลอด แต่ช่วงที่เสนอนับองค์ประชุมเป็นช่วงเย็นแล้ว เชื่อว่าไม่ใช่การส่งสัญญาณอะไร
นิพิฎฐ์ปัดต่อรองประธานกรรมาธิการสามัญ
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ชี้แจงสาเหตุที่ไม่เข้าประชุมสภาผู้แทนในวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมาว่า ติดธุระว่าความให้กับลูกความ 2 ราย ที่ศาลจังหวัดพัทลุง มีหลักฐานยืนยันได้ ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองอะไร และไม่ใช่การต่อรองตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) ประจำสภาที่จะเขย่ากันใหม่ด้วย เพราะเคยเป็นประธาน กมธ.คณะสำคัญมาหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าจะมีการเสนอนับองค์ประชุมในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีวาระไม่สำคัญอะไร สำหรับการประชุมสภาใน วันที่ 26 มกราคม จะทำเรื่องขอลาประชุมด้วย เนื่องจากต้องไปขึ้นศาลคดีที่นายดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทด้วย แต่ถ้ามีวาระการพิจารณากฎหมายหรือเรื่องสำคัญ จะเข้าประชุมด้วยทุกครั้ง
แหล่งข่าวจาก ส.ส.ภาคใต้สายนายบัญญัติกล่าวยืนยันว่า การที่นายบัญญัติไม่เข้าประชุม ไม่มีนัยยะอะไรทั้งสิ้น เพราะนายบัญญัติไปทำธุระที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จริงๆ และก่อนจะออกจากสภาก็สอบถามกับหลายคนแล้วว่า มีวาระพิจารณาอะไรอีกหรือไม่ พอรู้ว่าเป็นเพียงวาระเพื่อทราบ ไม่มีการลงมติถึงได้เดินทางออกไป
สนั่นไม่การันตีล่มครั้งสุดท้า-ขอให้เป็นบทเรียนช่วยกันแก้
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการป้องกันสภาล่มว่า ต่อไปนี้วิปรัฐบาลคงต้องประสานงานกันเพิ่มขึ้น และคงต้องมีจำนวนวิปเพิ่มขึ้นด้วย ที่ผ่านมาขอให้เป็นบทเรียนและช่วยกันแก้ปัญหา แต่ไม่รู้ว่าสภาจะล่มเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ เหตุวันนั้นน่าจะเป็นอุบัติเหตุ เพราะ ส.ส.กลับต่างจังหวัดแล้วก็ใกล้ตรุษจีน คิดว่าไม่เป็นอะไร การประชุมวันพฤหัสบดีก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว สำหรับมาตรการ ส.ส. 1 คน ดู ส.ส. 5 คนนั้น ถือว่าดีกว่าไม่มีมาตรการอะไร แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ส.ส.รัฐบาล เพราะฝ่ายค้านต้องรุกหนักอยู่แล้ว สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลต้องดูตัวเองว่า วันนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้า ส.ส.จะต้องเข้าประชุมสภาถึง 4 วัน จะมีเหตุการณ์เหมือนสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาเรียบร้อยไม่ไปไหนแน่ พรรคอื่นก็ต้องไปดูแลกัน แกนนำต้องระวัง ไม่ใช่ว่าเป็นรัฐบาลแล้วยังทำเป็นเหมือนฝ่ายค้านอยู่เรื่อยๆ อย่าง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ คงยังนึกว่าเป็นฝ่ายค้ายอยู่ เชื่อว่าต่อไปคงอารมณ์เย็นขึ้น
บุญจงประกาศภูมิใจไทยใช้สูตร1ต่อ7
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมกันแล้วว่า ให้ ส.ส.ในพรรค 1 คน ต้องดูแล ส.ส. 7 คน และติดต่อประสานงานให้เข้าประชุมสภา แต่สุดท้ายก็อยู่ที่การทำหน้าที่ของ ส.ส.แต่ละคน ก็ได้แต่ขอให้เข้าประชุมกันครบทุกคน แต่ก็ไม่มีบทลงโทษอะไร หาก ส.ส.ไม่เข้าประชุม เพียงแค่นำมาคุยกันเพื่อให้รู้บทบาทและหน้าที่ของตัวเองในการประชุมจนจบ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ต่อไป องค์ประชุมของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะดีขึ้น เพราะมีบทเรียนว่า ฝ่ายค้านจะใช้วิธีนับองค์ประชุม เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นับ 2 ครั้ง วันที่ 22 ม.ค. นับ 1 ครั้ง และคงใช้ทุกสัปดาห์
นายบุญจงกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดบรรยากาศนับองค์ประชุมเช่นนี้บ่อยๆ ก็จะเกิดภาพที่ไม่ดี ว่า ส.ส.ไม่รับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ และก็มีผลถึงการเสนอกฎหมายของรัฐบาลแต่ละฉบับ เช่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่สามารถนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุได้ และจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจว่าเลือก ส.ส.มาแต่ ส.ส.ไม่ทำหน้าที่ในสภา
