ทักษิณ หยุดจ้อการเมือง ห่วงครอบครัว-ธุรกิจในไทย

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เผยถึงความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า นับแต่มีการควบคุมอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 เป็นต้นมา ยังไม่มีใครได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถึงแนวทางการเคลื่อนไหวและทิศทางพท. ว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร เนื่องจากถูกฝ่ายทหารจับตาความเคลื่อนไหว คาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรน่าจะรอดูสถานการณ์ไปก่อนสักระยะ รวมทั้งคงอยากพักผ่อน ไม่อยากให้เป็นเป้าโจมตีทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบมาถึงครอบครัว ธุรกิจที่ยังอยู่ในประเทศ จึงขอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก ที่มักเดินทางไปหาบ่อยครั้ง

ขณะที่ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรค ว่า ช่วงนี้สมาชิกพรรคเพื่อไทย ต้องระวังเรื่องการสื่อสาร ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาจเข้าใจผิดได้ และเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) เป็นหัวหน้า คสช.แล้ว ก็ต้องให้เวลา ให้โอกาส คสช.ได้ทำงานไป ส่วนพรรคเพื่อไทยจะหยุดการเคลื่อนไหว จนกว่าจะเห็นโรดแมปของ คสช.ที่ชัดเจน ทั้งนี้ หาก คสช.เชิญไปร่วมเสวนาปรองดองสมานฉันท์ ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือและเสนอความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาในเชิงสร้างสรรค์ พร้อมกันนี้ ยืนยัน สมาชิกพรรคทุกคนยังเหนียวแน่นกันดี

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นจากนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรค กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งทางการเมืองค้างอยู่ในวุฒิสภา ได้แก่ การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจำนำข้าว นายนิคม ไวยรัชพานิชอดีตประธานวุฒิสภา และอดีต สว.คนอื่นๆในคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ สว. ซึ่งคงต้องรอดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะตัดสินใจอย่างไร ระหว่าง คสช.จะเป็นผู้ดำเนินการเอง หรือให้เป็นอำนาจของวุฒิสภาชุดใหม่

นายวิรัตน์ กัลยาศิริกล่าวว่า เช่นเดียวกับสถานะของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ต้องสิ้นสภาพไป เนื่องจากคสช.ยกเลิกการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2550 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะมีความชัดเจนหลังจากมีรัฐธรรมนูญ