ผอ.หอสมุดมช.แจ้งจับเสื้อแดง ถูกตบหน้าช่วงไล่ เทพเทือก

ผอ.หอสมุดมช.แจ้งจับเสื้อแดง ถูกตบหน้าช่วงไล่ เทพเทือก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผอ.ฯหญิงหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แจ้งจับเสื้อแดง ถูกตบหน้าระหว่างไล่ เทพเทือก ที่หอประชุม มช.แล้ว ยันดำเนินคดีถึงที่สุดฐานทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ ด้านรองอธิการบดี มช.เผย เตรียมส่งตัวแทนเข้าแจ้งความทรัพย์สินถูกทำลายเพิ่มอีกจันทร์นี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้นสอง สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางเพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ในฐานะอุปนายกสมาคมศิษย์เก่ามช. ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ กรณีถูกสมาชิกเสื้อแดงเชียงใหม่ทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า ขณะกลุ่มเสื้อแดงบุกเข้ามาขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี หลังทราบว่า เดินทางมาร่วมงาน "ราตรีอ่างแก้ว" ซึ่งเป็นงานเลี้ยงศิษย์เก่า มช.ในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยครบ 45 ปี เหตุเกิดที่ศาลาทางเข้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คืนวานนี้ (24 ม.ค.) การเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ของนางเพ็ญสุวรรณ ผอ.สำนักหอสมุดแห่งชาติครั้งนี้ ผู้เสียหายได้เดินทางมาพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงของ มช. คือ รศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ โดยมีพล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมรับทราบข้อมูล ร่วมกับพนักงานสอบสวนด้วย นางเพ็ญสุวรรณ ให้การกับตำรวจว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงก่อนงานเลี้ยง"ราตรีอ่างแก้ว"จะเริ่มขึ้น ระหว่างที่ตนซึ่งมีตำแหน่งเป็นอุปนายกสมาคมศิษย์เก่ามช. และกรรมการบริหารสภามหาวิทยา กำลังยืนทำหน้าที่ดูแลต้อนรับผู้เข้าร่วมงานอยู่ที่ศาลาทางเข้าหอประชุม มช.อยู่นั้น ได้มีกลุ่มเสื้อแดงชายหญิงจำนวนมาก ได้พากันบุกเข้ามา เพื่อจะเข้าไปตามไล่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ภายในงาน ทางรุ่นพี่ของตนซึ่งเป็นผู้ชายได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อขอร้องไม่ให้เข้าไปก่อกวนในงานเลี้ยง ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น ขณะนั้นตนซึ่งคิดว่าหากให้ผู้หญิง ได้เข้าไปพุดคุยและขอร้องกับกลุ่มเสื้อแดงดังกล่าว เพราะคิดว่าหากเป็นผู้หญิงเข้าไปพูดคุยดีๆด้วย อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ตนจึงได้เดินเข้าไป และพยายามห้ามปราม และพูดประโยคว่า งานที่จัดขึ้นนี้เป็นงานภายในของสถาบัน แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงเพียะดังลั่น และรู้สึกชาที่ใบหน้าด้านซ้ายทันที เพราะถูกชายเสื้อแดงตัวสูง ซึ่งใช้ผ้าคาดหน้าใช้มือตบเข้าใส่ หลังจากลงมือตบหน้าตน ชายคนดังกล่าวได้รีบหันหลังหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งตนพยายามที่จะวิ่งตามหาตัว แต่เจ้าหน้าที่ มช.ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ และตำรวจได้เข้าห้ามปรามไว้ เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุปะทะที่รุนแรงขึ้น นางเพ็ญสุวรรณ กล่าวว่า ตอนนั้นรู้สึกชาที่ใบหน้า ความรู้สึกขณะนั้นคือเสียใจ และเจ็บใจในฐานะที่เป็นผู้หญิงมือเปล่าไม่มีทางสู้ แต่กลับถูกผู้ชายซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อนทำร้ายร่างกาย หากชายคนนั้นยังมีความเป็นคน เป็นสุภาพบุรุษ ก็ไม่น่าจะทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ หลังตัดสินใจตลอดคืนประกอบกับสุขภาพของตนที่เดิมป่วยเป็นโรคภาวะกระดูกพรุน และบางอยู่แล้ว จึงเกรงว่า หลังถูกตบมีอาการเจ็บ อาจเสี่ยงต่อกระดูกร้าวได้ จึงได้ตัดสินใจไปตรวจร่างกายกับแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีพัฒน์และเข้ามาแจ้งความกับตำรวจในวันนี้ ที่เข้าแจ้งความ เพราะตั้งแต่เติบใหญ่มายังไม่เคยถูกใครทำร้ายแบบนี้ ดังนั้น จึงอยากจะฝากถึงกลุ่มเสื้อแดงที่มาทำร้ายด้วยว่า ไม่น่าจะทำร้ายคนที่มีความคิดแตกต่างกัน นี่คือประเทศไทย เราอยู่ใต้ธงไตรรงค์เหมือนกัน น่าจะใช้เหตุผลมากกว่าใช้อารมณ์ ประเทศชาติสูญเสียอะไรไปมากแล้ว "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หอประชุมมช.นั้น หากเสื้อแดงยังรวมตัวเรียกร้องให้ติดตามตัวตำรวจที่ยิงรถมาดำเนินคดีให้ได้ กรณีที่เกิดขึ้นกับตนก็เช่นกัน ตนต้องการให้เสื้อแดงที่ก่อเหตุทำร้ายผู้หญิงที่ไร้ทางสู้ ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน" นางเพ็ญสุวรรณ กล่าว รศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มช. กล่าวว่า นอกจากกรณีเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับกลุ่มเสื้อแดง ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ผอ.สำนักหอสมุด มช.แล้ว ในวันจันทร์นี้ตนได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองกลางของ มช.รวบรวมสำรวจความเสียหายต่อทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่เกิดจากกลุ่มเสื้อแดง และจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีทรัพย์สินถูกทำลายอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 26 ม.ค.นี้ เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีทรัพย์สินที่ถูกทำลายคือประตูหอประชุม 1 แห่งที่ถูกรถชน นอกจากนี้ยังมีรถตู้ของมหาวิทยาลัยอีก 4 คันที่ถูกของแหลมแทงเข้าที่ยางรถยนต์ ด้านนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีกลุ่มเสื้อแดงไปชุมนุมประท้วงที่หอประชุม มช.เมื่อคืนวาน(24 ม.ค.52) ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาเพื่อตรวจสอบวิเคราะห์หากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีการกระทำผิดเรื่องใดก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด เบื้องต้นจะมีอยู่สองเรื่องคือการทำร้าย ผอ.หอสมุด มช.ที่มาแจ้งความนี้ อีกเรื่องก็จะเป็นกรณีการทำร้ายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยซึ่งขณะนี้ได้เสนอเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วในการตั้งคณะกรรมการในการจัดการเรื่องดังกล่าว และหลังจากนี้หากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่ากลุ่มใดในพื้นที่จะให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณืที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมดเพื่อสามารถรวบรวมพยานหลักเอาผิดกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายในทุกเรื่องในขั้นเด้ดขาดอย่างแน่นอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook