ศุภรัตน์ขอความเป็นธรรมป.ป.ช.

โชว์พยานหลักฐานใหม่แก้ข้อกล่าวหา

นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการป.ป.ช.จะนำเรื่องการยื่นขอความเป็นธรรมของนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง กรณีผิดวินัยร้ายแรงจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากรในปี 44 เข้าที่ประชุมใหญ่ของ ป.ป.ช. ในสัปดาห์นี้ ซึ่งตามกฎหมายของป.ป.ช. คดีใดก็ตามที่พิจารณาถึงที่สุดแล้วจะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาซ้ำใหม่ไม่ได้ เว้นแต่ผู้ที่ถูกป.ป.ช. ตัดสินไปแล้วจะหาพยานหรือหลักฐานมาประกอบการยื่นขอความเป็นธรรมมายืนยันได้ว่าไม่ได้ทุจริตตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่ง ป.ป.ช. จะนำมาพิจารณา เนื่องจากเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องพิจารณาตามหลักฐานประกอบที่ยื่นเข้ามาใหม่

ปกติเรื่องนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้วกฎหมายไม่เปิดทางให้ยื่นอุทธรณ์ หรือร้องขอความเป็นธรรมได้ หากการพิจารณายื่นขอความเป็นธรรม แล้วพบว่าพยานหรือหลักฐานที่ยื่นประกอบมาใหม่นั้นไม่สามารถรับฟังได้ ผลการตัดสินคงต้องเป็นไปตามที่ชี้ขาดในครั้งแรก ส่นขั้นตอนการออกจากราชการนั้น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานต้นสังกัดพิจารณา

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระ ทรวงการคลังยังไม่ได้ รับหนังสือกล่าวโทษนายศุภรัตน์อย่างเป็นทางการจากป.ป.ช. หากหนังสือส่งถึงเมื่อใดแล้ว จะส่งเข้าสู่ที่ประชุมของคณะอนุ กรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป

โดยเวลาในการดำเนินการเกี่ยวกับกรณีนี้ หลังจากที่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการแล้ว ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ อ.ก.พ.คลังภายใน 30 วันเพื่อพิจารณาโทษตามที่ถูก ป.ป.ช.กล่าวโทษ โดยมี 3 ทางเลือกคือ ให้ออก ปลดออก และไล่ออก ซึ่งจากขั้นตอนนี้กระทรวงการคลังต้องทำหนังสือแจ้งไปยัง ป.ป.ช.ภายใน 15 วันว่าได้ดำเนินการตามคำสั่ง ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้รวมเวลาของกระบวนการทั้งสิ้น 45 วัน และหลังจากนั้น ในขั้นตอนการแต่งตั้งปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่ ขึ้นอยู่กับนายกรณ์ จาติกวณิชรมว.คลังว่าจะดำเนินการเมื่อใด คาดว่าคงใช้เวลาไม่นาน เพราะต้องรีบหาผู้มีความสามารถาทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หากการยื่นขอความเป็นธรรมของนายศุภรัตน์ครั้งนี้ ไม่ประสบผลสำเร็จ และต้องออกจากราชการจริง ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เชื่อว่านายกรณ์จะต้องเร่งแต่งตั้งบุคคลที่มีความสามารถ และเหมาะสมมานั่งดำรงตำแหน่งแทนโดยเร็ว เพราะกระทรวงการคลังต้องการผู้ที่มีความสามารถมาช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบรายชื่อผู้ที่เหมาะสมและอาวุโสแล้ว มีอยู่ 2 รายคือ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รองปลัดกระทรวงการคลังถือเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ แต่นายวิสุทธิ์เหลืออายุราชการอยู่เพียง 8 เดือนเท่านั้น

ส่วนอีกรายคือนายสถิต ลิ่มพงษ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนักการเมืองหลายฝ่าย.