ทักษิณ ชี้ถ้าอยากให้ปัญหายุติ ต้องคืนความเป็นธรรมให้ก่อน

ทักษิณ ชี้ถ้าอยากให้ปัญหายุติ ต้องคืนความเป็นธรรมให้ก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินชี้ถ้าอยากให้ปัญหายุติต้องคืนความเป็นธรรมให้ก่อนลั่นพร้อมสู้ทั้งในนรก-สวรรค์ เหน็บรัฐลอกประชานิยม สุเทพ ซัด ตร.เชียงใหม่ซี้กลุ่มเสื้อแดง ผอ.สำนักหอสมุด มช.แจ้งจับเสื้อแดงตบหน้า ด้านงานเลี้ยงพรรคร่วมชื่นมื่น ขอความร่วมมือ ส.ส.แก้สภาล่ม ขณะที่ ปชป.คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี เขต 2 สถานีโทรทัศน์ประชาธิปไตย ดีสเตชั่น หรือดีทีวี ได้ถ่ายทอดสดรายการ "ความจริงวันนี้" นัดพิเศษ โดยเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์เข้ามาเป็นแขกรับเชิญ โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นพิธีกรซักถามในรายการ นายวีระได้ซักถามถึงการใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ร่อนเร่พเนจร อยู่ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เป็นนกขมิ้นตะลอนทัวร์ เดิมสมัยเป็นนายกฯ เคยตะลอนเดินทางไปช่วยเหลือประชาชน แต่ตอนนี้ต้องเดินทางไปพบปะเพื่อนฝูง บางทีก็เหงา เพราะไม่ได้อยู่กับครอบครัว ต้องพลัดพราก นานๆ ลูกจะมาหาบ้าง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพ่อไปอยู่ที่ไหน เรื่องสุขภาพตนแข็งแรงดี จิตใจเข้มแข็ง เพราะการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และความยุติธรรม ซึ่งตนและครอบครัวถูกรังแก จุดนี้จึงยอมรับไม่ได้และจะขอต่อสู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม "ผมตั้งใจว่าจะหาความเป็นธรรมให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นในสวรรค์หรือนรก ต่อให้มีการส่งมาฆ่าผมในต่างประเทศ ก็จะมีคนอีกมากลุกขึ้นมาต่อสู้ จนกว่าจะมีความเป็นธรรม มีคนถามว่า ทำไมผมไม่ยอมหยุด ที่หยุดไม่ได้ เพราะต้องการความเป็นธรรมให้ตัวเองและครอบครัว ที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ตัวปัญหา จะผิดก็ตรงที่ผมชนะการเลือกตั้ง จึงมีความพยายามยัดข้อหาว่าผมคอรัปชั่นเงินตัวเอง และกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี จนทุกคนระแวงและหันมาโจมตี เดินหน้าซัดผมจนไม่นึกถึงกติกา ทำทุกอย่างเพื่อให้ผมพ้นจากอำนาจ โดยไม่อายสายตาชาวโลก ถ้าอยากจะให้ปัญหายุติก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้ผมก่อน มิเช่นนั้นถึงผมตายไปก็จะไม่มีใครยุติ รังแกกันอย่างนี้มันยอมกันไม่ได้" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว ต่อมาผู้ดำเนินรายการได้ซักถามว่า หากเป็นนายกฯ จะเตรียมแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องมองอย่างครบวงจร โดยยอมรับว่าการเมืองมีบทบาทสำคัญต่อการแก้ปัญหา บางประเทศการเมืองมีส่วนช่วยพลิกนรกให้เป็นสวรรค์ แต่บางประเทศสถานการณ์ดีอยู่แล้ว การเมืองกลับพลิกสวรรค์ให้เป็นนรก หากคนมีอำนาจรักประชาชน จะทำสิ่งดีให้ประชาชน แต่ถ้านักการเมืองรักที่จะแสวงหาอำนาจก็จะสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่ตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณยังหยิบยกคำพูดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่เคยเปรียบเทียบวิธีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่าเหมือนไฟกำลังไหม้ จึงต้องนำน้ำที่มีอยู่ไปดับไฟ ว่า การแก้ด้วยวิธีการนี้ นอกจากทรัพย์สินจะไหม้ไฟไปทั้งหมดแล้ว เราจะอดตาย เพราะไม่มีน้ำกินหรือใช้หุงข้าว ดังนั้น จึงขอให้ทำอะไรแบบพอหอมปากหอมคอ การแก้ปัญหาจะต้องลงไปในพื้นที่ ดึงชาวบ้านและภาคเอกชนมาสอบถามว่า พวกเขาต้องการให้รัฐบาลช่วยอย่างไร ไม่ใช่นั่งสั่งการอยู่บนหอคอย เหมือนที่ตนเคยทำสำเร็จกับโมเดลอาจสามารถ หากตนได้สานต่อโครงการ เชื่อว่าจะทำให้คนไทยหายจนได้ภายในปี 2552 แต่ถึงตอนนี้เราคงย้อนเวลากลับมาอีกไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า คนไทยจะต้องร่วมกันกอบกู้ดึงความเชื่อมั่นของประเทศกลับคืนมา หลังเหตุการณ์ปิดสนามบิน โดยทหารไปเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากนั้นก็ส่งคนในพันธมิตรมาเป็นรัฐมนตรี และที่ปรึกษามากมาย คดีความต่างๆ ก็ไม่ดำเนินการ จึงทำให้ต่างชาติไม่มั่นใจ เพราะรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังสถานการณ์วุ่นวายในประเทศไทย ดังนั้นการที่รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณ 500 ล้านบาท ให้กระทรวงการต่างประเทศไปใช้กอบกู้ชื่อเสียงของประเทศ คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นนอกจากทำให้งบประมาณหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ "ผมไม่หนักใจว่าใครจะมาลอกเลียนแบบนโยบายประชานิยม เพราะคนทำต่างกันผลที่ได้ก็จะต่างกัน ผมเข้าไปสร้างเศรษฐกิจภาคชนบท เพื่อไม่ให้คนจนในชนบทเป็นภาระของระบบเศรษฐกิจ เราเข้าใจปัญหาและทำนโยบายประชานิยม เพื่อแก้ปัญหาความยากจน หากคิดเพียงว่าประชานิยมของใครเหนือกว่าก็คงเจ๊ง สุดท้ายเงินที่หว่านลงไปจะละลายไปหมด โดยคนชนบทยังคงจนอยู่เหมือนเดิม" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว ซัดมาร์คตอบแทนบุญคุณพธม.-ทหาร นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวเตือนนายอภิสิทธิ์ว่า อย่ามัวแต่ตอบแทนบุญคุณกลุ่มพันธมิตรและทหารด้วยการแต่งตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะนานาชาติขาดความเชื่อมั่นในประเทศไทย ที่เสียงข้างมากในสภาต้องกลายเป็นเสียงข้างน้อย ประเทศในกลุ่มอาเซียนหลายประเทศมองว่าไทยเป็นต้นเหตุทำให้อาเซียนต้องตกต่ำในเวทีโลก การประชุมอาเซียนก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เซ็นสัญญาลงนามอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านสภา เพราะรัฐธรรมนูญสมเสร็จเป็นอุปสรรค หากต้องการให้ประเทศก้าวหน้าก็ต้องแก้ไขกติกาที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ การแก้ปัญหาหวยใต้ดินโดยนำขึ้นมาเป็นหวยบนดินนั้น เชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่กล้าทำ เพราะแกนนำพันธมิตรในต่างจังหวัดต่างเป็นเจ้ามือหวยใต้ดินทั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเดินทางไปประเทศในแถบแอฟริกาใต้ พักโรงแรมเดียวกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เดินทางไปประชุมศาลโลก แม้ไม่มีโอกาสพบกัน แต่อดนึกในใจไม่ได้ว่า เขาจะมาประชุมทำไม จะเอาอะไรมาพูดในเวทีระดับโลก เพราะไม่มีชาติใดที่ใช้ศาลเข้ามาแก้ปัญหาการเมือง ในช่วงท้ายของการดำเนินรายการ พิธีกรได้ซักถามถึงสถานะทางการเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นว่า หมดเงิน จนคนไทยที่ยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการรวบรวมเงินส่งไปให้ใช้ในต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า รู้สึกตื้นตันอยากจะร้องไห้ที่เห็นคนไทยซึ่งไม่มีเงินอยากจะรวบรวมเงินส่งมาให้ และขอบอกให้สบายใจว่า ตนยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ มีเพื่อนฝูงให้ความช่วยเหลือหยิบยืมอยู่บ้าง และยอมรับว่าชีวิตในช่วงนี้เหงามาก เชื่อว่าหากใช้กรรมที่ทำมาในชาติที่แล้วหมด ทุกอย่างคงดีขึ้นและคงได้กลับบ้าน ภายหลังการสัมภาษณ์สด พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเวลา 1 ชั่วโมง นายวีระได้ปิดรายการ พร้อมกับเชิญชวนให้ประชาชนกลุ่มเสื้อแดงมาร่วมยื่นหนังสือแสดงจุดยืนไม่ยอมรับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ต่อสถานทูตในกลุ่มอาเซียน นอกจากนี้ วันที่ 31 มกราคม ขอให้ผู้รักประชาธิปไตยมารวมตัวชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ใครที่เป็นแดงทรยศจะไม่มาก็ไม่เป็นไร ถึงจะเหลือพวกตนแค่ 3 คน ก็จะเดินหน้าชุมนุมต่อไป โดยวันดังกล่าวจะไม่มีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ประณามตร.ยิงยางรถเสื้อแดงเชียงใหม่ จากนั้นนายณัฐวุฒิได้กล่าวประณามการที่ตำรวจใช้ปืนยิงสกัดรถยนต์ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่พยายามบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ว่า รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงว่าใครเป็นคนสั่งการให้ตำรวจใช้ความรุนแรง และเรียกร้องให้นายกฯ ระบุมาตรฐานของการเคลื่อนไหวชุมนุมของประชาชนว่า ชุมนุมอย่างไรที่อยู่ในกรอบกฎหมาย โวยเพื่อนเนวินบล็อกเสื้อแดงชุมนุม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ได้ยินข่าวว่า มีการบล็อกประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เข้ามาร่วมชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช.และเสื้อแดงที่จะมีขึ้นวันที่ 31 มกราคมนี้ ที่ท้องสนามหลวง โดยมี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย รัฐสั่งมท.ตรวจสอบคำพูด ทักษิณ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเรียกร้องขอความเป็นธรรมว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจอะไร เท่าที่ตรวจสอบก็เป็นเพียงการพูดจาโจมตีรัฐบาล ถือว่าเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการหาพื้นที่สื่อ เชื่อว่าประชาชนน่าจะเข้าใจว่ารัฐบาลมาด้วยความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ประเด็นการโจมตีเราจึงไม่ให้ความสำคัญอะไร แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณสำนึก และมีความรักชาติจริงควรปรับท่าที เมื่อถามว่า เนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูด มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องนี้ให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบ และดำเนินการไปตามกฎหมาย นายกฯไม่เชื่อไปเหนือ-อีสานไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงตามขับไล่ระหว่างเดินทางไปร่วมงานศิษย์เก่าที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลจะดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนแรกมีข่าวว่ามีคนเสียชีวิต ทำให้ตนตกใจ แต่สุดท้ายเข้าใจว่าไม่มีอะไร ฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายใช้สิทธิของตัวเองอยู่ในขอบเขตและเจ้าหน้าที่จะดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยกำชับตำรวจว่าไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เพราะการปะทะกันในอดีตยังเป็นคดีความกันอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะเดินทางไปภาคเหนือและภาคอีสานไม่ได้ เพราะตนยืนยันมาตลอดว่า ทุกคนควรมีสิทธิไปปฏิบัติภารกิจได้ ส่วนการชุมนุมแสดงความคิดเห็นก็มีสิทธิทำได้ โดยถือป้ายปราศรัยประท้วงหน้างาน แต่ไม่ควรบุกเข้าไปในงานอย่างนั้น เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไรซับซ้อน แต่ตนให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลให้ความเป็นธรรม ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเปรียบตัวเองเหมือนนกขมิ้นไร้รัง นายอภิสิทธิ์ไม่กล่าวอะไรต่อ แค่ยืนยิ้มนิ่งๆ ชั่วครู่ ลั่นล้างอาถรรพณ์ดันก.ม.จัดเก็บภาษีที่ดิน นายอภิสิทธิ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะมีการจัดเก็บภาษีที่ดิน ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงการคลังว่า เรื่องภาษีที่ดิน มีหลักการคือ การปรับปรุงระบบภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือน โดยประเมินภาษีตามมูลค่าทรัพย์สิน ยกเว้นที่อยู่อาศัย และอาจจะมีบทลงโทษเป็นภาษีก้าวหน้าสำหรับที่ดินรกร้างว่างเปล่าจำนวนมากที่ไม่ใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจจะมีข้อยกเว้นเหมือนกับภาษีอื่น สำหรับผู้ที่มีรายได้หรือมีมูลค่าทรัพย์สินไม่สูงมาก ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่ารัฐบาลคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีนักการเมืองที่อาจจะเสียประโยชน์อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรากำลังเดินหน้าเรื่องนี้อยู่ ทุกมาตรการคงมีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจคน แต่เรามีหน้าที่ตัดสินและเดินหน้าในสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ที่สุดสำหรับส่วนรวม เมื่อถามว่านายกฯ มั่นใจหรือไม่ว่าจะล้างกฎหมายอาถรรพณ์เรื่องที่ดินนี้ได้ นายกฯกล่าวว่า "ผมคิดว่าในที่สุดประเทศไทยต้องมีกฎหมายนี้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้จะเดินหน้าผลักดัน โดยตั้งใจว่าจะให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้" สุเทพ ไม่หวั่นเสื้อแดงตามป่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมงาน "ราตรีอ่างแก้ว 2552"เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครบรอบ 45 ปี ซึ่งจัดขึ้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 300 คน เข้าปิดล้อมและก่อความวุ่นวายภายในงาน โดยฝ่าด่านตำรวจเข้าไปในงาน แต่ไม่เจอตัวนายสุเทพ เนื่องจากออกไปก่อนว่า ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว และจะขอเดินหน้าลงพื้นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือต่อไป "เราต้องไปให้ได้ทุกจังหวัด แต่ก็ยึดหลักไม่ไปทำลาย หรือปะทะกับใคร ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจ อย่างที่ จ.เชียงใหม่ ผมรู้จักคนเชียงใหม่ดี เพราะอยู่ที่นั่นมา 5 ปี ส่วนใหญ่อัธยาศัยโอบอ้อมอารี ไม่ก้าวร้าว กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องของคนส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของคนที่ติดกับการเมือง หรือถูกจัดตั้งโดยกระบวนการทางการเมือง และพยายามแสดงออก ทำให้คนเชียงใหม่อึดอัดใจ ไม่พอใจ แต่เราก็ต้องค่อยๆ อธิบาย เชื่อว่าในที่สุดสังคมจะบอกกับคนเหล่านี้เองว่าควรจะต้องหยุด ขบวนการที่ทำอยู่นั้นทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย" นายสุเทพกล่าว เซ็งเชือดไก่จนหมดเล้าลิงยังไม่รู้สึก เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความล้มเหลวของเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพิจารณาเอาเอง แต่เท่าที่สังเกตดูตำรวจในเชียงใหม่มีความใกล้ชิดกับมวลชนดี เพราะรู้จักกัน พูดจากันรู้เรื่อง ตอนแรกเขาพยายามทำให้เป็นเรื่องใหญ่ว่าตำรวจไปยิงยางรถยนต์ของประชาชน จะเอาเรื่องเอาราว แต่ในที่สุดก็เกี้ยเซียะกันได้ ไม่เอาผิด และตำรวจก็เชื่อง่ายๆ ว่าคนที่มาไม่ใช่กลุ่มเสื้อแดง ทั้งที่เมื่อเช้าตนดูโทรทัศน์ก็เห็นรูปถ่ายชัดเจนว่าคนขับรถฝ่าด่านตำรวจถอดเสื้อแดง จึงสันนิษฐานว่าเขารู้จักกันดี แต่ไม่มีมาตรการอะไรเป็นพิเศษ ถ้าเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายก็แล้วไป แต่หากทำผิดจากขอบเขตของกฎหมาย หรือแนวนโยบาย ก็ต้องดำเนินการ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการหย่อนยานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อาจทำงานยาก แต่เชื่อว่านานไปคงจะหาวิธีทำงานให้สำเร็จได้ ถามว่า จะมีการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "เชือดไก่จนจะหมดเล้าแล้ว แต่ลิงยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่" เมื่อถามว่า คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังใกล้ชิดอำนาจเก่า นายสุเทพยอมรับว่า 80% ยังเป็นคนของเขาอยู่ อุ้ม บุญจง แจกเงิน-นามบัตรไม่ผิด นายสุเทพกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และภรรยา แจกเงินเบี้ยยังชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมกับแนบนามบัตรของนายบุญจงว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ วิจารณ์ไม่ได้ แต่เคยเห็นสมัยก่อนตอนเราแจกเอกสารสิทธิก็ให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงอื่นช่วยแจก เพราะคนรับก็รู้สึกเป็นเกียรติ ปัญหาคือว่า สมมติรัฐบาลให้เงินไป 500 บาท ใครจะอม 100 บาท แล้วแจก 400 บาท อย่างนั้นถือว่าเป็นความผิด นอกนั้นไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิด เมื่อถามว่า การทำเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องไปถาม รมช.มหาดไทย ตนไม่ได้ไปด้วย เพราะอยู่เชียงใหม่ ส่วนจะบอกว่าเหมาะหรือไม่นั้นคงบอกไม่ได้ พูดมากเดี๋ยวเขาก็โกรธเอา เพราะไม่ใช่เรื่องของตน และการที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายบุญจง และนายเนวิน ชิดชอบ ไปหารือกันที่ จ.นครราชสีมา ก็ไม่รู้เรื่องอะไร อาจจะไปนัดทอดกฐิน ทำบุญวันเกิด ตนก็ไม่ทราบ ปัดปชป.ลอยแพ วิฑูรย์ ปลากระป๋องเน่า ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีปัญหาปลากระป๋องเน่าเหมือนกับว่าพรรคประชาธิปัตย์ลอยแพ นายวิฑรูย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้ลอยแพ พรรคยังมีคนช่วยเหลืออยู่ และขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด และต้องรอดูการชี้แจงของนายวิฑูรย์ก่อน ว่าชี้แจงแล้วจะรับฟังได้หรือไม่ เมื่อถามว่า หากนายวิฑูรย์ชี้แจงแล้วสังคมยังไม่เข้าใจ จะมีการปรับ ครม.หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดถึงขนาดนั้น รอให้มีการชี้แจงก่อน ไม่ทราบ เร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ ต้องคอยดูรอต่อไป และอย่าเพิ่งพูดว่ามีความพยายามหาตัวคนมารับผิดชอบแทน ผอ.หอสมุด มช.แจ้งจับเสื้อแดงตบหน้า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มกราคม ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางเพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในฐานะอุปนายกสมาคมศิษย์เก่า มช. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ กรณีถูกสมาชิกเสื้อแดงเชียงใหม่ทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า ขณะกลุ่มเสื้อแดงบุกเข้ามาขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี หลังทราบว่าเดินทางมาร่วมงาน "ราตรีอ่างแก้ว" ซึ่งเป็นงานเลี้ยงศิษย์เก่า มช.ในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยครบ 45 ปี เหตุเกิดที่ศาลาทางเข้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อคืนวันที่ 24 มกราคม การเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ของนางเพ็ญสุวรรณ ผอ.สำนักหอสมุดแห่งชาติครั้งนี้ ผู้เสียหายเดินทางมาพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงของ มช. คือ รศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ โดยมี พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมรับทราบข้อมูล ร่วมกับพนักงานสอบสวนด้วย นางเพ็ญสุวรรณให้การต่อตำรวจว่า มีตำแหน่งเป็นอุปนายกสมาคมศิษย์เก่า มช. และกรรมการบริหารสภามหาวิทยา ขณะเกิดเหตุกำลังยืนทำหน้าที่ดูแลต้อนรับผู้เข้าร่วมงานอยู่ที่ศาลาทางเข้าหอประชุม ปรากฏว่ามีกลุ่มเสื้อแดงชายหญิงจำนวนมากพากันบุกเข้ามา เพื่อจะเข้าไปขับไล่นายสุเทพ ภายในงาน รุ่นพี่ของตนซึ่งเป็นผู้ชายได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อขอร้องไม่ให้เข้าไปก่อกวนในงานเลี้ยง นางเพ็ญสุวรรณกล่าวต่อว่า คิดว่าหากผู้หญิงเข้าไปพูดคุยและขอร้องดีๆ ต่อกลุ่มเสื้อแดง อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น จึงเดินเข้าไป และพยายามห้ามปราม และพูดว่า "งานที่จัดขึ้นนี้เป็นงานภายในของสถาบัน" แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียง "เพียะ" ดังขึ้นและรู้สึกชาที่ใบหน้าด้านซ้ายทันที เพราะถูกชายเสื้อแดงตัวสูงมีผ้าคาดหน้าใช้มือตบเข้าใส่ จากนั้นชายคนดังกล่าวรีบหันหลังหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที นางเพ็ญสุวรรณกล่าวว่า หากชายคนนั้นยังมีความเป็นคน เป็นสุภาพบุรุษ ก็ไม่น่าจะทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ หลังตัดสินใจตลอดคืนประกอบกับสุขภาพของตนที่เดิมป่วยเป็นโรคภาวะกระดูกพรุนและบางอยู่แล้ว หลังถูกตบมีอาการเจ็บ เกรงว่าอาจเสี่ยงต่อกระดูกร้าวได้ จึงตัดสินใจไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศรีพัฒน์ และเข้าแจ้งความต่อตำรวจในวันนี้ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 บุกรุกหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายร่างกายประชาชนนั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีเสื้อแดงทำร้ายนางเพ็ญสุวรรณนั้น ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนเพื่อหาตำหนิ รูปพรรณสัณฐานของผู้ต้องหา จากการให้ปากคำของผู้เสียหายคาดว่า ในวันที่ 26 มกราคม น่าจะออกหมายจับผู้ต้องหาได้ มช.แจ้งเอาผิดเสื้อแดงทำทรัพย์สินเสียหาย ด้าน รศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มช. กล่าวว่า นอกจากกรณีเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกลุ่มเสื้อแดง ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ผอ.สำนักหอสมุด มช.แล้ว ในวันจันทร์ที่ 26 มกราคมนี้ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองกลางของ มช.รวบรวมสำรวจความเสียหายต่อทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่เกิดจากกลุ่มเสื้อแดง และจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กรณีทรัพย์สินถูกทำลายอีกครั้งในวันจันทร์นี้ เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีทรัพย์สินที่ถูกทำลายคือประตูหอประชุม 1 แห่งถูกรถชน นอกจากนี้ยังมีรถตู้ของมหาวิทยาลัยอีก 4 คันถูกของแหลมแทงเข้าที่ยางรถยนต์ ด้านนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาเพื่อตรวจสอบวิเคราะห์หากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่ามีการกระทำผิดเรื่องใดก็จะดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทั้งหมด และหลังจากนี้หากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่ากลุ่มใดในพื้นที่จะให้เจ้าหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมด เพื่อเอาผิดผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายในทุกเรื่องขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน ส.ส.ปชป.ถกแก้สภาล่ม-กรอบอาเซียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการประชุม ส.ส.ของพรรค เพื่อซักซ้อม และเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน ที่จะนำไปใช้ในการประชุมอาเซียน หรือการประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน ในปลายเดือุมภาพันธ์นี้ โดยมีแกนนำ และ ส.ส.ของพรรค เข้าร่วมการประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ยังจะมีการหารือถึงการแก้ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบจนทำให้สภาล่ม เพื่อหาทางแก้ปัญหาด้วย ดึงชาวบ้านตรวจสอบ ส.ส.หนีประชุม นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงหลังการประชุม ส.ส.ของพรรค ว่า ที่ประชุมได้กำชับ ส.ส.ให้ติดตามวาระที่จะเข้าสู่การประชุมอย่างใกล้ชิด โดยนายกฯ ประธาน ส.ส.และประธานวิปวัฐบาล ได้ย้ำต่อ ส.ส.ทุกคนว่าหากติดภารกิจ ต้องแจ้งให้วิปทราบทุกครั้ง โดยเฉพาะสัปดาห์นี้จะมีการประชุมกรอบความร่วมมืออาเซียน มีเรื่องสำคัญหลายเรื่อง จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมได้คิดคำขวัญเพื่อป้องกันไม่ให้ ส.ส.โดดประชุมว่า วันพุธ วันพฤหัสบดี พบ ส.ส.ในพื้นที่ แสดงว่าหนีประชุม เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมช่วยกันตรวจสอบ เป็นการป้องกันปัญหาสภาล่มอีกทางหนึ่ง วิปขู่ประจานชื่อ ส.ส.โดดร่ม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ในวันที่ 26 มกราคม วิปรัฐบาลจะมีการประชุมก่อนเวลา 08.00 น. ที่ห้อง 4 อาคารรัฐสภา เพื่อตรวจสอบระบบการประสานงานกับเพื่อนสมาชิกและวิปวุฒิสภา เพราะการประชุมร่วมสองสภาครั้งนี้ ต้องมีสมาชิกอยู่เกินกึ่งหนึ่งจาก 603 เสียง กึ่งหนึ่งคือ 302 เสียงขึ้นไป วิปรัฐบาลจึงเห็นว่าควรประสานงานกันให้ชัดเจน เบื้องต้นวิป 3 ฝ่าย (วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา) เห็นตรงกันแล้วว่า จะเลื่อนกรอบอาเซียนขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระแรก เพราะกรอบประชุมอาเซียนถือว่าเป็นวาระพิเศษที่ต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด นายชินวรณ์กล่าวว่า จากการพูดคุยกับวิปร่วมรัฐบาลอื่น ได้ให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุสภาล่มเป็นครั้งที่ 2 ทั้งนี้ มีวิปรัฐบาลบางคนเสนอให้ใช้มาตรการรัฐสภาอังกฤษ หากใครไม่เข้าร่วมประชุม ให้นำรายชื่อมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ซึ่งเป็นมาตรการกดดันทางสังคมส่วนหนึ่งด้วย พรรคร่วมนัดดินเนอร์แก้ปัญหาสภาล่ม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ในช่วงค่ำ โดยเมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาตรวจดูความเรียบร้อยการจัดงาน ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ โดยจัดเตรียมโต๊ะจีนจำนวน 33 โต๊ะ เพื่อรองรับ ส.ส.จาก 6 พรรค ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคกิจสังคม และพรรคชาติไทยพัฒนา ต่อมาเวลา 18.45 น. สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยเข้าร่วมงาน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นอกจากนายอภิสิทธิ์แล้ว ยังมี นายชวน นายสุเทพ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น ส่วนพรรคภูมิใจไทย มีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ขณะที่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา มีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง พรรคกิจสังคม มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ เข้าร่วม สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา มีนายชุมพล ศิลปอาชา และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ นอกจากนั้น ยังมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เข้าร่วมงานด้วย เวลา 19.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้กล่าวเปิดงานบนเวที โดยระบุว่าการจัดงานครั้งนี้ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ต้องมีการจัดงานเลี้ยงสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งแต่ตนเป็นนักการเมือง เมื่อ พ.ศ.2522 ก็มีการจัดงานในลักษณะนี้ สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ ก็จัดงานลักษณะนี้ สมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ ก็จัดแบบนี้ ซึ่งท่านขึ้นมาร้องเพลงรักสิบล้อต้องรอสิบโมง จนเรียกเสียงฮือฮา ดังนั้นจึงขอต้อนรับ ส.ส.ทุกคน ขอให้สนุกสนานและบันเทิงร่วมกัน "สื่อมวลชนอย่าไปตีข่าวกันไปเองว่า การจัดเลี้ยงครั้งนี้ จัดขึ้นหลังสภาล่ม แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นการจัดงานให้ ส.ส.และพรรคร่วมรัฐบาล ได้พูดคุยกันด้วยความเป็นกันเอง ไม่เครียด จึงขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงาน" นายสุเทพกล่าว ไร้เงา เนวิน-ปชป.ยันไม่ขัดใจพรรคร่วม ทั้งนี้ในงานไม่มีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมไปถึงอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เนื่องจากถูกจับตามองจาก กกต.ในการเข้ามาเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมการจัดตั้งรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์เดินทางมาถึง ได้พบกับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และสอบถามถึงกรณีที่นายบุญจง และภรรยา แจกผ้าห่มและเงินพร้อมแนบนามบัตรของนายบุญจงให้แก่ประชาชน ที่ จ.นครราชสีมา โดยนายบุญจงตอบว่า ทุกอย่างทำถูกต้อง เป็นการแจกเงินสงเคราะห์คนจนที่ได้จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อได้มาก็เอาไปแจกและแนบนามบัตรไปด้วย ส่วนภรรยาก็มาช่วยตามปกติอยู่แล้ว เวลา 20.15 น. นายอภิสิทธิ์กล่าวบนเวทีว่า วันนี้ต้องขอบคุณทุกคนที่เสียสละเวลามาร่วมงานในวันนี้ ทั้งที่เป็นวันตรุษจีน ซึ่งก็ต้องต่อว่านายสุเทพ ที่เลือกวันนี้ แต่ไม่ว่าเลือกวันไหนก็ถูกต่อว่าทั้งนั้น เพราะพูดจาขัดใจ แต่หากขัดใจในพรรคก็จัดการกันเองได้ แต่อย่าขัดใจพรรคร่วมรัฐบาลก็แล้วกัน อยากบอกว่าเราทำงานร่วมกันถ้าเรายึดเป้าหมายประโยชน์ร่วมกัน เชื่อว่าสุดท้ายก็เรียบร้อย แต่ตอนนี้ระหว่างทางอาจขรุขระบ้าง เพราะล่าสุดประชุมสภาคราวที่ผ่านมามีปัญหา ส.ส.ขาดไป 10 คนหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก วันนี้เลยบอกกันว่าต้องนับองค์ประชุมหรือไม่ ซึ่งต่อไปเรามีบทเรียนแล้วก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ไม่อยากให้ประชาชนผิดหวัง โฆษกเพื่อไทยอ้างถูกโทรขู่ฆ่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีการแจกถุงยังชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่พบว่ามีปลากระป๋องเน่าว่า จากการตรวจสอบชื่อของนายวิเชน สมมาต ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนราษฎร เป็นเพียงตัวละครที่นายวิฑูรย์สร้างขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จัดมาเป็นแพะ นายกฯ จะต้องติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด มิฉะนั้นจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า จากการที่ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ ทำให้ข้าราชการที่คุ้นเคยเตือนให้ระวังตัว เพราะสร้างความโกรธแค้นให้แก่คนบางคนอย่างมาก ตนก็เคยได้รับโทรศัพท์ที่ไม่โชว์หมายเลขพูดจาข่มขู่อยากกินอะไรก็ให้รีบกิน อย่าปากมากนัก เรื่องปลาเน่าหยุดได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ได้กินอะไร เรื่องดังกล่าวตนไม่หวั่นไหว เหน็บพม.แจกกระเป๋านร.งานวันเด็กช้า น.ส.ฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก รมว.การพัฒนาสังคมฯ ว่า ให้ไปรับกระเป๋าหนังสือของนักเรียน 200 ใบ เพื่อไปแจกให้นักเรียนในงานวันเด็กแห่งชาติ การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ประสาทช้า ทั้งๆ ที่งานวันเด็กแห่งชาติผ่านไปนานแล้ว และการให้กระเป๋ามา 200 ใบนั้น ในพื้นที่ของตนมีนักเรียน 2 หมื่นคนแล้วจะไปแจกอย่างไร เพราะคงแจกไม่ได้ครบทุกคน จึงนำไปคืน 199 ใบ ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะทำงานไปเรื่อยๆแบบนี้หรือกระทรวงนี้มีปลากระป๋องเน่าแล้ว และยังมีกระเป๋าตามมาอีก ปชป.ชนะเลือกตั้งซ่อมส.ส.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 2 นนทบุรี แทนนายสมบัติ สิทธิกรวงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสียชีวิต ว่า เมื่อช่วงเช้าได้มีนายประพันธุ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งซ่อมในวันนี้ บรรยากาศทั่วไปตั้งแต่ช่วงเช้ามีผู้มาใช้สิทธิไม่มากนัก เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประชาชนไม่ค่อยให้ความสนใจในการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้เท่าที่ควร ทำให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งมีจำนวนไม่ถึง 50% ของผู้มีสิทธิ ส่วนผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่านายณรงค์ จันทร์ทนดิษฐ์ ผู้สมัครหมายเลข 3 จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 86,807 คะแนน ขณะที่นายสุชาติ บรรดาศักดิ์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ได้ 65,795 คะแนน และนายฉลอง เรี่ยวแรง ผู้สมัครพรรคประชาราช ได้ 6,132 คะแนน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 396,570 คน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook