ศูนย์วิจัยฯเผยอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งอ้างต่างชาติสั่งห้าม-คนนั่งข้างหลัง

ศูนย์วิจัยฯเผยอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งอ้างต่างชาติสั่งห้าม-คนนั่งข้างหลัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายศาตราวุธ ผลบูรณ์ ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6 ปี ย้อนหลัง ตั้งแต่ 2545- 2550 พบว่า อุบัติเหตุที่เกิดกับรถกระบะสูงเป็นลำดับที่ 3 คือ 18% รองจากรถจักรยานยนต์ 41% และรถยนต์ส่วนบุคคล 25% แม้รถกระบะจะมีสถิติอุบัติเหตุน้อยกว่ารถส่วนตัว แต่ผู้บาดเจ็บและ เสียชีวิตกลับมีมากกว่า เนื่องจากผู้โดยสารกระบะหลังเป็นกลุ่มผู้ใช้รถที่ไม่ได้รับการป้องกันหมือนผู้ใช้รถยนต์อื่น ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้โดยสารกระบะหลังจะพุ่งเคลื่อนที่อย่างไร้ทิศทาง ไปกระแทกกับ สิ่งต่าง ๆ ภายในรถ หรือพุ่งไปชนวัตถุข้างทางอื่น เช่น พื้นถนน ข้างทาง เสา ต้นไม้ จนเกิดความรุนแรงมากกว่าที่ควรจะเป็น

นายศาตราวุธ กล่าวอีกว่า มีคนจำนวนน้อยที่จะรู้ว่าการบรรทุกคน หรือของบนกระบะหลังมาก ๆ ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเสียหลักหรือพลิกคว่ำมากกว่าปกติ เพราะจุดศูนย์ถ่วงสูงขึ้น เมื่อ ประเมินปัจจัยด้านเสถียรภาพของรถแล้ว พบว่า หากมีผู้โดยสารนั่งอยู่บนกระบะหลัง 10 คน น้ำหนักเฉลี่ยคนละ 60 กิโลกรัม จะมีโอกาสพลิกคว่ำมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า แต่หากผู้โดยสารทั้งหมดยืนขึ้น โอกาสพลิกคว่ำจะสูงกว่าเดิมถึง 4 เท่า จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ ที่ไม่เคยชินกับการบรรทุกของหนักเป็นประจำ หลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย กลุ่มประเทศอียู และอีก 30 รัฐ ในสหรัฐ จึงออกกฎหมายห้ามผู้โดยสารนั่งกระบะหลัง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook