ผู้ว่ารฟท. แฉ "เกม วันชัย" เด็กเส้นนายสถานี

ผู้ว่ารฟท. แฉ "เกม วันชัย" เด็กเส้นนายสถานี

ผู้ว่ารฟท. แฉ "เกม วันชัย" เด็กเส้นนายสถานี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (10 ก.ค.) นายประภัสร์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวเปิดเผยถึงประวัติของนายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องแก้มวัย 13 ปี บนรถไฟ ได้รับทราบข้อมูลจากตำรวจที่สอบสวนคดีนี้พบว่า นายวันชัยมีความเกี่ยวพันใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับต้นประจำสถานีใหญ่ของรฟท. และมีความเชื่อมโยงว่าน่าจะรู้ว่านายวันชัยมีประวัติอาชญากร จึงได้กระทำการบางอย่างเพื่อไม่ให้ปรากฏว่ามีข้อมูลอาชญากรรม ดังนั้นเรื่องนี้ขอไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร เพราะเป็นคนที่อยู่ในสถานะที่มีอำนาจอนุมัติได้ในลักษณะของเด็ก ดังนั้นทั้ง 90 คนที่ผ่านการคัดเลือกเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาจะมีการตรวจสอบข้อมูลและให้มีการทดสอบใหม่ทั้งหมด

นายประภัสร์ ยอมรับว่า การบริหารงานใน รฟท.มีระบบการกระจายอำนาจแบบแปลกๆ และมีการมอบอำนาจลงไปในระดับล่างอย่างแปลกๆ อาจต้องเข้าไปดู โดยเฉพาะการรับพนักงานเข้าทำงานใน รฟท. ในระดับลูกจ้างก็มีการมอบอำนาจลงไปชัดเจน ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะในการรถไฟ มีอะไรแปลกๆเยอะ ข้อมูลที่ได้รับจากคนในรถไฟก็ไม่ตรง

ผู้ว่ารฟท. กล่าวต่อว่า จากปากคำของนายวันชัยเป็นผู้ดับไฟในขบวนรถตู้นอนดังกล่าว เนื่องจากขบวนรถของผู้เสียหายเป็นขบวนรถรุ่นเก่าไม่มีระบบไฟ ต้องอาศัยต่อพ่วงจากขบวนอื่น ซึ่งนายวันชัยรู้จุดที่จะสับคัตเอาท์เพื่อดับไฟซึ่งอยู่คนละขบวนรถโดยได้สารภาพว่าเป็นผู้ดับไฟก่อนที่จะก่อเหตุ จากนั้นจึงกลับไปเปิดไฟอีกครั้งประกอบกับตู้นอนพัดลม ทำให้มีการเปิดหน้าต่างจึงมีเสียงดังจากข้างนอกทั้งเสียงเครื่องยนต์ เสียงล้อและเสียงลม ทำให้ขณะที่นายวันชัยก่อเหตุเด็กหญิงวัย 13 ผู้เคราะห์ร้ายรายนี้จึงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือพบความผิดปกติ

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่านายวันชัยนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนพนักงานอีก 3 คนนั้น นายประภัสร์ กล่าวว่า ข้อมูลจากตำรวจพบว่านายวันชัยดื่มเหล้าเพียงคนเดียว ส่วนที่เหลือนั่งวงพูดคุยด้วยและไม่ได้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งมีข้อห้ามพนักงานดื่มสุราในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โทษถึงขั้นไล่ออก แต่เรื่องนี้ตนได้ดำเนินการเพื่อออกประกาศของรถไฟในเรื่องการห้ามจำหน่ายสุราบนขบวนรถตู้สินค้ารวมทั้งห้ามดื่มสุราบนขบวนรถด้วย เบื้องต้น ได้ประสานห้ามไปยังผู้รับสัมปทานขบวนรถเสบียงแล้ว

นายประภัสร์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวเหตุข่มขืนพนักงานสาวตู้เสบียง 2 ราย เมื่อต้นปี 2557 โดยฝีมือนายวันชัยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบหาผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ทราบว่ารายหนึ่งเป็นการสมยอม แต่อีกรายถูกข่มขืนจริง จึงต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้ต่อไป ส่วนการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในขบวนรถเก่านั้น จากข้อมูลพบว่าการติดตั้งกล้องบนขบวนรถที่เคลื่อนตัวจะมีปัญหาภาพไม่ชัดเจนและมีปัญหาของระบบสัญญาณหลุดไม่เชื่อมต่อดังนั้นจะต้องมาพิจารณาเพื่อหาแนวทางมาตรการอื่นต่อไป แต่ขบวนรถไฟที่จะจัดหาใหม่ 115 ขบวนนั้น ตามแผนจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดมากับตัวรถอยู่แล้ว

ทั้งนี้ กรณีเหตุข่มขืนสาวป.โท บนรถไฟเมื่อปี 2544 เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไม่เคยบอกและไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน จึงให้สัมภาษณ์ว่าในรอบ 100 ปี เป็นเหตุสะเทือนขวัญที่สุด เพิ่งเข้ามาทำงานเพียงปีเศษ จึงไม่ทราบปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ดังนั้นจะขอดูรายละเอียดเรื่องนี้ก่อน เพราะทราบว่าเหตุผลที่ รฟท.ไม่จ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนั้นมีการอ้างเรื่องส่วนตัวนั้น แต่คดีแพ่งนั้นกรณีที่เกิดขึ้นถือว่า รฟท.เป็นนายจ้าง เมื่อลูกจ้างไปทำความผิด จึงมีประเด็นที่นายจ้างจะปฏิเสธไม่รับผิดชอบไม่ได้ แต่หากมีอำนาจตัดสินใจได้และไม่ขัดข้อกฎหมายตนเห็นว่าจะต้องพิจารณาจ่ายเงินชดเชยทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook