จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ นางกีปาตอ อายุ 23 ปี แม่ลูกอ่อนชาวพม่า พร้อมลูกน้อยวัย 4 วัน และญาติ อีก 3 คน รวมเป็น 5 คน นอนหมดสติอยู่ภายในห้องพัก หลังจากที่ก่อไฟในกะละมังเพื่ออยู่ไฟหลังคลอด แต่ห้องพักถูกปิดมิดชิดทำให้ก๊าซออกซิเจนหมด เป็นเหตุให้นางกีปาตอ และทารกเสียชีวิต เนื่องจากขาดอากาศหายใจนานเกินไป ขณะที่ญาติอีก 3 คน ยังอาการสาหัสไม่รู้สึกตัว
ล่าสุด (21 ก.ค.) เด็กชายอายุ 7 ปี ชาวพม่า เสียชีวิตแล้วเป็นรายที่ 3 เนื่องจากสมองขาดออกซิเจน และนอนหมดสติเป็นระยะเวลานาน ส่วนอีก 2 รายคือ นางโม อายุ 37 ปี และ น.ส.ทุนเล็ก อายุ 15 ปี ยังอยู่ในห้องไอซียู ทั้งหมดยังไม่ได้สติ และแพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา
นางสุพรรณี ประดิษฐ์สถาวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ร่างกายของมนุษย์ตามปกติหากสมองขาดออกซิเจนเพียง 4 นาที จะมีผลกระทบอย่างรุนแรง และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย กับผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียู 2 รายนั้นน่าจะขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน มีความเสี่ยงกับอาการสมองตาย หรือเป็นเจ้าหญิงนิทรา ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัวและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู เพื่อรอให้สมองมีอาการตอบสนอง